สวัสดีค่าทุกคน วันนี้ปอจะมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียน Pre-degree ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงค่ะ ว่าเรียนยากไหม แบ่งเวลายังไง การเรียนแบบนี้จะกระทบการเรียนที่โรงเรียนหรือไม่ ถ้าอยากรู้แล้วไปดูกันเลยค่าก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับการเรียน Pre-degree กันก่อนนะคะ ซึ่งเจ้า Pre-degree เนี่ยเป็นหลักสูตรการศึกษาล่วงหน้าในระดับปริญญาตรี โดยใช้วุฒิ ม.3 ในการสมัคร เมื่อสมัครแล้ว ก็ทำการเรียนสะสมหน่วยกิตไปเรื่อยๆ และเมื่อจบ ม.6 ก็นำวุฒิ ม.6 ไปสมัครเข้ามหาวิทยาลัยเป็นนักศึกษาตามปกติ แล้วยื่นเทียบโอนหน่วยกิตที่เรียนสะสมไว้ แล้วเรียนต่อจากเดิม ทำให้เราสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้เร็วมากยิ่งขึ้นค่ะซึ่งสำหรับตัวปอเองเป็นเด็กม.ปลายสายวิทย์-คณิต ปัจจุบันอยู่ชั้น ม.5 และตัดสินใจเริ่มเรียนพรีดีกรีตอน ม.4 ช่วงแรก ๆ ก็มีกังวลว่ามันจะหนักเกินไปแล้วกระทบกับการเรียนปกติ เพราะการเรียนปกติของปอค่อนข้างหนักและยังเป็นเด็กกิจกรรมพอสมควรเลยด้วยค่ะ ซึ่งหลังจากที่ปอลงสมัครเรียนไปแล้ว ก็เข้าเรียนทางช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ m-learning ควบคู่กับการอ่านหนังสือและชีทสรุปซึ่งหาซื้อได้ที่ศูนย์หนังสือของมหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือหาซื้อในอินเทอร์เน็ตก็ได้เช่นกัน เมื่อใกล้ถึงวันสอบ ทางมหาวิทยาลัยเองก็จะส่งเอกสารที่ระบุเวลาสอบ และสถานที่สอบมาให้ค่ะ แต่ก็แนะนำว่าควรไปดูสถานที่สอบจริงไว้ล่วงหน้านะคะ เพราะวันสอบคนจะเยอะมาก ถ้าไม่รู้จักสถานที่ก่อนก็อาจจะเสียเวลาหาห้องสอบนานเหมือนกันค่ะ เรียนยากไหม ?ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายค่ะ แต่ปอรู้สึกว่าถ้าขยันและมีระเบียบวินัยสักหน่อยก็สามารถเรียนได้เลยแหละค่ะ จริงๆอาจจะมีจุดที่ยากบ้าง เพราะมีบางวิชาที่เราไม่ชอบหรือไม่ถนัดมากกว่า เหมือนปอเองไม่ชอบวิชาคำนวณ ก็จะรู้สึกว่าการต้องมาเรียนวิชาคำนวณด้วยตัวเองเป็นเรื่องยากค่ะ แต่พอใส่ความตั้งใจไปสักนิด บวกกับใช้สื่อต่าง ๆ ในการเรียนมากขึ้น ปอก็เรียนวิชานี้ได้ค่อนข้างดีเลย สื่อที่ว่านี้ก็คือวิดิโอการสอนย้อนหลังของทางมหาวิทยาลัย สื่อใน Youtube Facebook และชีทสรุปต่าง ๆ ที่ขายตามอินเทอร์เน็ตค่ะ ซึ่งเป็นตัวช่วยของเด็กรามอย่างเรา ๆ ช่วยให้การเรียนด้วยตัวเองไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ แต่ถ้าจะยากด้วยเหตุผลอื่น ปอคิดว่าคงเป็นเหตุผลเรื่องของการหาเวลาว่างมาอ่านหนังสือมากกว่าค่ะแบ่งเวลาอย่างไรให้ไม่กระทบการเรียนปกติสำหรับปอเองยอมรับเลยว่าเทอมแรกปอแบ่งเวลาไม่เป็นเลย บวกกับความคิดเข้าข้างตัวเองว่าอ่านก่อนสอบก็คงทัน ผลออกมาว่าวิชาที่ปอลงไปนั้นผ่านเพียงแค่วิชาเดียวค่ะ เทอมต่อมาปอเลยวางแผนการจัดเวลาอย่างดี โดยใช้การจัดลำดับความสำคัญของการอ่านหนังสือและแบ่งเวลาส่วนหนึ่งให้กับการอ่านหนังสืออย่างชัดเจนค่ะ เช่น ช่วงสอบและช่วงกีฬาสีของโรงเรียนปอจะเรียน Pre-degree น้อยลงค่ะ เพื่อให้ความสำคัญกับการสอบและกิจกรรมที่โรงเรียนก่อน แต่ก็จะตั้งกฎกับตัวเองไว้ ว่าวันเสาร์จะต้องเรียน Pre-degree อย่างจริงจัง 1 วัน ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งการแบ่งเวลาแบบนี้ทำให้เทอมต่อมาเรามีระเบียบในการเรียนมากขึ้น และเราก็เรียนได้ดีขึ้นด้วย แต่สำหรับเพื่อน ๆ อาจจะลองนำไปปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตัวเองดูก็ได้ค่ะ วันสอบเป็นอย่างไรบ้าง ?คนเยอะเลยแหละค่ะ มีทั้งเด็กมัธยม นักศึกษา ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุเลย และทุกคนก็จะมีอาวุธประจำตัวคือหนังสือหรือชีทสรุป ดังนั้นวันสอบก็จะเจอแต่คนนั่งอ่านหนังสือ ผู้ใหญ่บางคนก็มีเข้ามาทักทายถามไถ่เรื่องการเรียน บางคนให้คำแนะนำด้วยนะคะ ปอรู้สึกเปิดโลกมากๆเลย วันสอบเป็นวันที่ทำให้ปอรู้สึกฮึกเหิมในการเรียนมากเลยค่ะ ฮ่า ๆ เพราะทำให้ปอรู้สึกว่าอายุไม่ใช่ข้อจำกัดของการเรียนเลย อ๋อ วันสอบปอใส่กระโปรงสีสุภาพกับเสื้อคอปก และรองเท้าผ้าใบ ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนเหมือนนักเรียนม.ปลายคนอื่น แต่ก็ใส่ได้นะคะ ขอแค่เป็นกระโปรงและแต่งออกมาดูสุภาพเท่านั้นก็ใช้ได้แล้วค่ะ*วันสอบจะตรงกับเสาร์ - อาทิตย์ค่ะ ไม่ต้องขาดเรียนมาสอบแน่นอน*เทอม 1 สอบช่วงเตือนตุลาคม , เทอม 2 สอบช่วงเดือนมีนาคมค่าใช้จ่ายเยอะไหม ?จะบอกว่ามหาลัยรามคำแหงขึ้นชื่อเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนที่ถูกกว่าที่อื่น ๆ มากเลยค่ะ สำหรับการเรียนระบบ Pre-degree มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าหน่วยกิต หน่วยละ 50 บาทค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละเทอมจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าเทอมนั้น ๆ เราลงเรียนกี่หน่วยกิต แต่หนังสือเรียนเราต้องซื้อแยกเป็นค่าใช้จ่ายต่างหากนะคะ ส่วนในเทอมแรกก็จะมีค่าสมัคร ค่าแรกเข้าต่าง ๆ รวมแล้วเทอมแรกจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4000 บาทค่ะ ส่วนเทอมต่อ ๆ มาก็แล้วแต่หน่วยกิตที่เราลง ก็จะประมาณ 2000-3000 บาท ไม่เกินนี้สำหรับปอแล้ว การตัดสินใจลงเรียนในระบบ Pre-degree มันเริ่มต้นด้วยความอยากลองค่ะ อยากที่จะลองทำในสิ่งที่คิดว่ายากและท้าทายตัวเอง และการลองในเรื่องนี้มันไม่มีอะไรเสียหายเลยค่ะ มันทำให้ปอค้นพบตัวเองเร็วขึ้นด้วยซ้ำไป ว่าจริงๆแล้วเราอยากจะเรียนอะไร อยากจะทำอะไรต่อไปในอนาคต ปอในตอนนี้เรียนม.ปลายสายการเรียนวิทย์-คณิตค่ะ และลงเรียนรามเก็บหน่วยกิตของคณะบริหารธุรกิจ ซึ่งมีการเรียนคณิตศาสตร์เยอะพอสมควร และปอก็ค่อนข้างเรียนวิชาเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ได้ไม่ดีเท่าไหร่ ทำให้ปอย้อนกลับมาคิด ว่าในอนาคตปอไม่อยากเรียนเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ มันช่วยให้ปอตัดตัวเลือกในการเรียนต่อได้อีกเยอะเลยค่ะ แล้วยังทำให้ปอรู้สึกใช้เวลาคุ้มค่า ใช้เวลาอย่างมีประโยชน์มากขึ้นด้วยดังนั้นใครที่ลังเล อยากเรียนแต่กลัว ปออยากจะบอกว่าลองดูก่อนนะคะ ลองมาเรียนแล้วมารู้จักมันให้ดียิ่งขึ้นก่อน แล้วค่อยมาคิดดูใหม่ว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิดรึเปล่า สุดท้ายก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเรียนนะคะเครดิตภาพหน้าปก unsplashเครดิตภาพที่ 1,2 ภาพโดยผู้เขียนเครดิตภาพที่ 3 มหาวิทยาลัยรามคำแหง