ไลฟ์แฮ็ก
เล่นหุ้นมือใหม่.. ยังไงไม่ต้องเจ็บตัว

มีคำกล่าวในตำนานว่า “ คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น” เมื่อ30 กว่าปีก่อน อาจจะใช่ แต่ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลมากมาย ความรู้ระหว่างคนจนคนรวยขยับเข้ามาใกล้เคียงกันมากขึ้น แต่มีบางอย่างที่คนจนคนรวยไม่เหมือนกันคือความมั่นคงในจิตใจ หากใจนิ่งพอ ไม่ว่าตลาดหุ้นจะผันผวนสักปานใด คนรวยก็ยังจะชนะตลาดหุ้นเสมอ แม้แต่ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดอย่างดีก็แค่เสมอกับตลาด....ในขณะที่คนจนมักจะแพ้ตลาด หรืออย่างดีที่สุดก็แค่เสมอตลาดเท่านั้น...
ตลาดหุ้น หากเปรียบเหมือนกับบ่อนการพนัน เจ้ามือและคนเล่น ต่างก็มีความสามารถเสมอกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ตลาดหุ้นซึ่งเป็นเจ้ามือจะไม่กดดัน คนเล่นให้เล่นอยู่ตลอดเวลาเหมือนอยู่ในบ่อน เพราะอยู่บ้านก็สามารถเล่นหุ้นได้ เล่น(ซื้อ)เมื่อไหร่ก็ได้...และซื้อเท่าไหร่ก็ได้ และเลิกเล่น(ซื้อ)เมื่อไหร่ก็ได้ เปิดกว้างสำหรับคนทุกคน สามารถเป็นแหล่งหาเงิน หรือแหล่งดูดเงินของคนที่โลภได้.....
Advertisement
Advertisement
ผู้เขียน เริ่มเข้าซื้อหุ้นเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วมา....แม้ไม่ร่ำรวยได้เงินเป็นล้าน แต่จากการศึกษาการอ่าน ก็พอมีภูมิคุ้มกัน และดูวงจรตลาดหุ้นก็พบว่า บางครั้งหุ้นบางตัวก็มีการปั่น ลากให้แมงเม่าเข้าไปซื้อตามในราคาสูง แล้วก็ติดดอย ขายหุ้นออกไม่ได้ ขาดทุน หุ้นบางตัวมีข่าวดีเข้ามาจากการลวงทำให้มี STORY ราคาพุ่งสูงขึ้นตามข่าว พอข่าวจบ ราคาก็ตก....20 ปี ที่ผ่านมา จึงมีข้อคิดสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเข้ามาหาเงิน ทำกำไรในตลาดหุ้น....หากไม่อยากเจ็บตัวมากนัก....ก็มีข้อควรรู้ดังนี้ครับ...
ประการแรก...หากต้องการเก็งกำไรในตลาดหุ้น ควรตั้งขีดจำกัดความเสียหายไว้ก่อน คิดก่อนว่าเราสารถรับความเสี่ยงการขาดทุนได้กี่เปอร์เซ็นต์ เช่นซื้อหุ้น ABC ในราคา 100 บาท ถ้าคิดว่ารับความเสี่ยงขาดทุนได้ 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อหุ้นราคาลดลงเหลือ 95 บาท ต้องขายออกทันที เพื่อจำกัดความเสี่ยง
Advertisement
Advertisement
ประการที่สอง หากต้องการเก็งกำไรในตลาดหุ้น ควรตั้งเกณฑ์การได้กำไรไว้ล่วงหน้าว่า เมื่อได้กำไรกี่เปอร์เซ็นต์แล้วจะขาย เช่น ได้กำไร 10 เปอร์เซ็นต์จะขาย ต้องขายทันที โดยไม่ต้องคิดว่าราคามันจะไปอีก
แค่ 2 ข้อแรก ท่านก็ลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนจำนวนมากในตลาดหุ้นได้แล้ว มาดูข้อต่อไป
ประการที่ 3 หากต้องการได้กำไรระยะยาว หรือซื้อเพื่อกินปันผลมากกว่าดอกเบี้ยธนาคาร ต้องซื้อหุ้นที่เรารู้จัก และใช้บริการทุกวัน เช่น หุ้นที่เวลาเราหิวเมื่อไหร่ ก็แวะมา ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งอยู่ในปั้มสีน้ำเงิน ที่เป็นปั้มน้ำมันที่มีกำไรทุกปี มีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ด้วย อะไรแบบนี้ ทุกปีจะมีปันผลให้กับผู้ซื้อหุ้น 4-5 เปอร์เซ็นต์ดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร ซึ่งได้ปีละไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ สู้ค่าเงินเฟ้อก็ไม่ได้....
Advertisement
Advertisement
ประการที่ 4 คือการซื้อในเวลาที่หุ้นปรับตัวลดลงมา หรือสังเกตง่าย ๆ คือ เป็นตัวสีแดงในตลาด ถ้าลดลงมา 50 ถึง 100 จุดเมื่อไหร่ล่ะก็ รีบซื้อหุ้นตามข้อที่ 3 ที่เป็นหุ้นดี ๆ ไว้...รออีก 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ หุ้นก็จะมีราคาดีดขึ้น ตอนนั้นก็สามารถทำกำไรจากตลาดหุ้นได้ ...นั่นคือวิธี ซื้อเมื่อหุ้นลง...และขายเมื่อหุ้นขึ้น
ประการที่ 5 ซื้อหุ้นผูกขาด ที่มีอยู่เจ้าเดียวในประเทศที่ไม่มีคู่แข่ง เช่น ท่าอากาศยาน เป็นต้น หุ้นพวกนี้แม้จะมีราคาเหวี่ยงขึ้นลงบ้างแต่อย่าตกใจ เพราะเป็นหุ้นไม่มีวันเจ๊ง...และเมื่อถึงเวลาที่หุ้นเหล่านี้ดีดขึ้นล่ะก็ จะได้กำไรงาม และมีปันผลอีกด้วย....
จากประสบการณ์ผ่านมาหลายปี ผู้เขียนได้กำไรจากตลาดก็หลายครั้ง เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีหลายคราวพลาดเจ็บตัวจากการซื้อหุ้น ทว่าก็ต้องทำใจให้นิ่งไว้และรอเวลา ...เพราะความโลภจะกัดกร่อนมือสมัครเล่นที่ใจไม่นิ่งออกจากตลาดไปเกินกว่า ร้อยละ 90 และผู้ที่สามารถต่อกรกับเจ้ามืออย่างตลาดหุ้น จึงควรจะมีภูมิคุ้มกันไว้บ้าง มีคำกล่าวว่า คิดจะเป็นใหญ่ ใจต้องนิ่ง และ หากคิดจะเป็นคนรวย...ใจก็ต้องนิ่งเช่นกัน
@@@@@@@@@@@@@
หมายเหตุ....ภาพโดย pixabay
ความคิดเห็น
