อื่นๆ
Review ซีรีส์ Dickinson หยิบประเด็นต่างๆ ในปลายศตวรรษที่ 19 มาเล่าให้ดูเบาสมอง และบันเทิงแบบหนังวัยรุ่น

หนึ่งในซีรีส์เปิดตัวจากช่องสตรีม Apple Plus ที่ทำมาเพื่อเอาใจนักดูซีรีส์วัยรุ่นโดยเฉพาะ โดยการได้ ฮาร์ลีย์ สไตน์เฟลด์ นักร้อง นักแสดงสาวที่พึ่งโด่งดังเป็นพลุแตกจากหนังเรื่อง Bumble Bee มาร่วมแสดงนำ โดยความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเล่าเรื่องราวของอดีตกวีสาวชื่อดังของอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยชีวิตของวัยรุ่นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 อีกด้วย
ซีรีส์จะเล่าเรื่องราวของ เอมิลี ดิกกินสัน(ฮาร์ลีย์ สไตน์เฟลด์) สาวน้อยแห่งตระกูลผู้ดี ที่เธอต่างจากผู้หญิงทั่วไปตรงที่อุปนิสัยของเธอที่ห้าว และซุกซนไม่แพ้ผู้ชาย พร้อมทั้งยังมีงานอดิเรกคือการเขียนกวี ทั้งๆ ที่ในยุคสมัยนั้น การที่ผู้หญิงเขียนกวี หรือเรียนหนังสือ ถือว่าเป็นเรื่องต้องห้าม และไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่ง ท่ามกลางกฏระเบียบของครอบครัวที่เคร่งครัด และมุมมองทางสังคมที่ต่างจากตอนนี้ ทำให้สิ่งที่ เอมิลี ชื่นชอบ และตัวตนที่เธอเป็นนั้นต้องถูกเก็บไว้ และต่อสู้ ดิ้นรน ท่ามกลางการไม่ยอมรับของคนรอบข้าง
Advertisement
Advertisement
ตัวพลอตซีรีส์เหมือนจะมาในแนว ดราม่า แฟมินิสต์ เป็นส่วนใหญ่ แต่หาดูจริงๆ จะพบว่าเนื้อแท้แล้ว Dickinsonคือซีรีส์วัยรุ่น Coming-of-Ageที่นำเสนอภายใต้พื้นหลังที่เป็นอเมริกาศตวรรษที่ 19 โดยซีรีส์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตวัยรุ่นหนุ่มสาว ในยุคนั้น ผ่านมุมมองตัวละครของ เอมิลี เป็นหลัก ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้มีองค์ประกอบทุกอย่างที่หนังวัยรุ่นยุคนี้มี ทั้งฉากปาร์ตี้หลุดโลก ฉากการจีบสาว ไปจนถึงวีรกรรมต่างๆ อีกมากมาย ที่น่าชื่นชมคือความกล้าฉีกแนวของซีรีส์เรื่องนี้ ที่ใช้วิธีการตัดต่อ และวิธีการนำเสนอแบบหนังไฮสคูล ทั้งๆ ที่ซีรีส์อยู๋ในช่วง 200 กว่าปีก่อน พร้อมทั้งยังมีการใช้เพลงป้อปสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ฮิปฮอป หรือ EDM มาเป็นเพลงประกอบ แทนเพลงบรรเลงคลาสสิค
ซีรีส์จะเล่าเรื่องผ่านตัวละคร เอมิลี เป็นหลัก ความน่าสนใจคือซีรีส์ได้สร้างตัวละครนี้ให้เป็นผู้หญิงที่หลุดกรอบ ขนบธรรมเนียมที่ผู้หญิงสมัยนั้นควรเป็น แม้ว่าเธอจะถูกคนอื่นมองว่าเป็นพวกแปลกแยกก็ตาม แต่ถึงกระนั้นซีรีส์สามารถเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของ เอมิลี และคนรอบข้างที่แสนจะดูกระอักกระอ่วนนี้ ออกมาได้สนุก ตลก และน่ารัก มากกว่าที่คิด ด้วยความที่ซีรีส์เน้นขายความสด ใหม่ และความเป็น Coming-of-Age มากกว่าดราม่า ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เบาสมอง และดูสนุกกว่าที่คิด
Advertisement
Advertisement
ฮาร์ลีย์ สไตน์เฟลด์ สามารถรับบท เอมิลี ได้อย่างยอดเยี่ยม เธอสามารถแบกซีรีส์ทั้งเรื่อง ได้ดียิ่งกว่าตอนที่เธอแสดงนำใน Bumble Bee ก็ว่าได้ ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมบทของ เอมิลี ในซีรีส์ ที่สามารถทำให้ สไตน์เฟลด์ สามารถถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ มากกว่าผลงานก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากดราม่าหนักๆ ฉากเรียกเสียงฮา ไปจนถึงฉากโรแมนติกมากมาย ที่ยกระดับความท้าทายการแสดงยิ่งกว่าเดิม และท้ายที่สุด สไตน์เฟลด์ ก็สามารถทำให้เราหลงรัก เอมิลี อย่างหมดใจ
อย่างไรก็ตามข้อเสียของซีรีส์เรื่องนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะความกล้าฉีกแนวของตัวซีรีส์นั่นเอง เพราะซีรีส์พยายามนำเสนอเรื่องราวของชีวิตวัยรุ่น มากเกินไป ทำให้ประเด็นยิบย่อยต่างๆ ที่อยู่ในซีรีส์เรื่องนี้กลับดูเบาบางลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิสตรี เรื่องการเหยียดผิว เหยียดเพศ ไปจนถึงสถานะทางการเมืองของอเมริกาในยุคนั้น ที่ซีรีส์ล้วนมีประเด็นเหล่านี้อยู่ แต่น่าเสียดายที่ประเด็นเหล่านี้ กลับถูกนำเสนอเพียงผิวเผินเท่านั้น ทั้งๆ ที่น่าจะเข้าไปสำรวจ และพูดถึงได้มากกว่านี้
Advertisement
Advertisement
Dickinson ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ประเด็นอาจไม่ได้ใหม่สำหรับวงการภาพยนตร์ และซีรีส์ แต่ที่น่าชื่นชมคือการนำเสนอด้วยรสชาติที่แปลกใหม่ แม้อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบหรือยอดเยี่ยมมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นอีกซีรีส์ที่ดูสนุก ดูเพลินไม่น้อย โดยเฉพาะใครที่เคยหลงรัก ฮาร์ลีย์ สไตน์เฟลด์ จาก Bumble Bee เรื่องนี้คุณจะหลงรักผู้หญิงคนนี้มากกว่าเดิมหลายเท่า
ขอขอบคุณรูปภ่าพจาก : https://www.imdb.com/
ความคิดเห็น
