Cr http://www.impawards.com/ หลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนกถึงกับมี Short Film ออกมาในเวลาไม่นาน 6 ปีต่อมา Frozen 2 ก็ได้กลับมาอีกครั้ง Frozen ภาคแรกมีความปังหลายอย่าง คือในระดับโลก ทุกคนต่างบอกว่าไม่มีใครทำ Animation ได้ดีเท่า Disney อีกแล้ว เค้ามี Know How มากมายในด้านการคัดเสียง สร้างคาแรคเตอร์ จังหวะการทำหนัง ลูกเล่นในการเล่าที่ Disney ได้สั่งสมประสบการณ์มานานมาก Let it Go คือเพลงและฉากที่ทำให้ภาคแรกปังมาก เราชอบมากเลยนะ แม้จะไปดูหนังแล้วก็เฉยมากๆ เพราะบทจืดสนิท แต่จังหวะปังมาก เพลงกินอารมณ์มาก ตัวละครดีมาก เทคนิคยอดเยี่มม ทำเกล็ดหิมะได้ฟุ้งฝันแฟนตาซีมาก ๆ คือมีทุกความปังที่จิตใจของสาวน้อยต้องการ ด้านเทคนิค การวางภาพ การจัดองค์ประกอบ ฉาก สีแสง เสื้อผ้าหน้าผม ฉากแอคชั่น คือเค้ามี Know How ขั้นเทพอยู่แล้วว่าทำยังไงให้ดี ของพวกนี้เป็นงานศิลปะ เมื่อบรรลุถึงขั้น ทำให้การเสกให้สวยนี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำไม่ได้ เอาอะไรไปให้เค้าทำก็สวยหมด เพราะงั้นส่วนที่ยากที่สุดยังคงเป็นส่วนที่ไม่มีตำราไหนจะช่วยได้จะเขียนเนื้อเรื่องยังไงให้เจ๋ง? Cr. https://favforward.com/Frozen 2 ภาคนี้บอกได้เต็มปากว่าทำมากินบุญเก่า ด้วยความที่ภาคแรกดังพลุแตกมาก ดังนั้นขอเพียงทีมเขียนบทคิดเนื้อเรื่องที่พอจะถูไถก็สามารถเข็น ๆ มันออกมาขายได้อีกครั้ง ภาคนี้ ด้านเนื้อเรื่องให้ตกมาตรฐาน ตกสุด ๆ เหมือนบทยังพัฒนาไม่เสร็จ แต่ต้องเข้าใจความ Disney ว่า แม้เราจะดูไปด้วยความ 'อีหยังวะ' แบบงง ๆ ในความพยายามจะแถ แต่มันก็จะมี 'ของ' อย่างอื่นมาพอชักจูงให้ดูผ่านพ้นไปได้ด้วยความรู้สึกว่า เออ มันก็ไม่เลวหรอกมั้ง?เป็นต้นว่าพ่อเล่าเรื่องป่าเวทมนตร์กล่อมลูก คือสตอรี่ดูไม่น่าเอามาเล่าเป็นนิทานกล่อมเด็กอะ อีหยังอะพ่อ แต่ภาพสวยอะ พ่อตอนเด็กหล่ออะ อนิเมทดีอะ อู้วว ว้าววว เอลซ่าหลอน ลุกมาร้อง Into the Unknown ตอนกลางดึก คนดูก็อีหยังวะ แต่เออภาพสวย หิมะสวย ไปดูแบบ IMAX 3D คือแบบ เกล็ดหิมะแทบจะลอยทะลุมากระแทกหน้า ว้าว ๆๆ วิ้งวับ ๆๆ สวย ๆๆๆ ✨ตอนเปิดเผยปม เฉลยเรื่องราว พลัง Unknow ซัมติงก็ฟิ้งฟิ้วมาเปลี่ยนชุดให้เอลซ่า เราก็ อีหยังวะ ทำไมต้องเปลี่ยนชุด!? เปลี่ยนเพื่ออะไร (...เพื่อขายของ อ๋อง อ๋อง อ๋องงง) แต่ชุดสวยยย สวยยมากกกก ชอบบบ ไล่สีสวย ว้าว ๆๆ พริ้วมาก ๆ ผ้าคลุมสะบัดอย่างกับเอลซ่ามีปีกเลยยย กรี๊ดดดด เลิศศศศ ✨❄️ Cr https://www.todaysparent.com/blogs/trending/the-new-frozen-2-trailer-is-out-and-we-know-so-much-more/เนื้อเรื่องเหมือนเค้าพยายามจะสื่ออะไรเต็มไปหมด แต่ทำได้ไม่ดีสักอย่าง มาแบบพิกลพิการ ทั้งปมของโอลาฟ ปมแอนนา ปมคริสตอฟ ปมเอลซ่า แทนที่จะเอาเวลาไปบิ๊วปม บิ๊วกับความหูแว่วของเอลซ่า กลับเอาเวลาไปร้องเพลงแทน เป็นภาคที่เพลงจะเยอะไปไหน เยอะจนเหมือนคิดการณ์ไกลว่าชั้นจะขายลิขสิทธิ์เพลงต่อ ชั้นพร้อมเอาไปดัดแปลงเป็นละครเวที ฯลฯ ซัมติงในด้านการตลาด มันดูไม่ใช่เพลงที่ใส่จิตวิญญาณของเนื้อเรื่องลงไปปกติเนื้อเรื่องต้องมาก่อน แล้วแต่งเพลงเพื่อกระชับเนื้อเรื่อง สื่อความรู้สึกตัวละคร ไอ้ภาคนี้คือเนื้อเรื่องมีเพื่อลากเข้าหาเพลง ซึ่งเพลงก็ดั๊นไม่เข้ากันเท่าไรด้วย เหมือนแยกกันแต่ง คุยกันปกติได้ห้านาทีเดี๋ยวพี่ก็ลุกมาร้องเพลง ใช้เวลากับเพลงไปเยอะมาก โดยเนื้อเรื่องไม่เดิน แล้วพอบทจะเฉลยเนื้อเรื่องก็ใช้เวลาสักสามวิในการตรัสรู้ ปิ๊ง! โอ้ งี้นี่เอง! คนร้ายคือxxxทำyyyy เพราะอย่างนั้นต้องทำลายxxxx! โอ้ ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว!!(หลังจากบรรลุถึงความจริง ตัวละครก็ใช้เวลาสักห้านาทีในการนั่งอยู่เฉยๆเพื่อร้องเพลงว่าชั้นจะทำยังไงต่อไป)แต่เป็นเรื่องที่เทคนิคดีเลิศ ภาพสวยงามอลังการ จังหวะการเล่าดี มุกตลกต่อให้แป้กแทบตายก็ยังเล่นได้จังหวะดีจนเราขำได้ แม้จะขำด้วยความคับข้องใจในเหตุผลของเนื้อเรื่อง แต่เออ มันก็ขำแล้ว 3D IMAX คือเต็มตา สวยทุกอณูรูขุมขน ทั้งหิมะใบไม้ ฉากวิ้งวับ ฉากใช้พลัง งดงามตระการตามากกกก งานภาพคือสุดยอด อันนี้ดีมาก ๆๆแม้เค้ามี Know How ในการทำทุกอย่างให้ออกมาดี แต่ก็ยังเป็นด้านเทคนิค ด้านเนื้อเรื่องยังคงเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเสมอ หนังที่สูตรสำเร็จตามตำรา บทแบบเพลย์เซฟมีมากมาย แต่ไม่ประทับใจคนดู หนังที่พยายามจะให้มีอะไรมากกว่าใคร แต่เกลาได้ไม่ดีพอ ก็ยิ่งไม่ประทับใจใคร ก็คือพล็อตแย่มาก แต่เทคนิคและคุณภาพในการทำดันดีมาก ดีไซน์ดีมาก ดูจนจบเลยมีฟีลลิ่งแบบ ฮืม....นี่ชั้นดูอะไรอยู่นะ แต่มันก็สวยมากเลยนะ เพลงมันก็โอนะ ฉากลุ้นมันก็ลุ้นนะ แต่เหตุผลมันไม่ได้เลย ตกลงมันดีรึเปล่านะ ฮืมมม 🤔 แต่ภาพสวยจริง ชุดสวยจริง พอหนังจบก็มีฟีลอยากเดินไปเปิดประตูโรงหนัง ผั๊วะะ แล้วตะโกน Into the Unknowwwwwwwwwn!! แล้วเดินแบบแกรนด์ ๆ ควีน ๆ ออกไปเข้าห้องน้ำ