คงไม่บ่อยนักที่ในยุคนี้เราจะได้เห็นหนังจีนแนวดราม่า สะท้อนสังคม เพราะในภาพจำหลาย ๆ คน หนังจีนในปัจจุบันคือหนังแอคชั่น ฟอร์มยักษ์ที่เน้นขาย CGI ตระการตาเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับ Better Days คือหนังจีนที่นานทีปีหน จะมีมาให้คอหนังได้ชมกัน ซึ่งปรากฏการณ์ของหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งม้ามืด ของปีนี้ ที่นักดูหนังทุกคนไม่ควรพลาดอย่างยิ่งหนังนำเสนอเรื่องราวสะท้อนสังคมของโรงเรียนมัธยมของจีน ในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่การสอบเกาเข่า(การสอบเอนทรานซ์ เข้ามหาลัยของจีน) โดยเนื้อหาจะถูกนำเสนอผ่านตัวละคร “เฉินเหนียน” (โจวตงหยู) เด็กวัยรุ่นสาวที่เพื่อนสนิทของเธอได้กระโดดตึกฆ่าตัวตาย หลังจากทนกับปัญหาการถูกเพื่อน ๆ ในโรงเรียนกลั่นแกล้งไม่ไหว ในขณะที่ เฉินเหนียนเอง ก็เป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนที่โดดเด่น ก็ทำให้เธอถูกกลุ่มเพื่อนนักเรียนหญิงอิจฉา และรุมกลั่นแกล้งเธอเป็นรายถัดไป จนกระทั่งวันหนึ่ง เฉินเหนียน ก็ได้ช่วยชีวิต “เสี่ยวเป่ย” (อี้หยางเชียนสี) เด็กหนุ่มที่กำลังโดนแหล้งอันธพาลรุมทำร้าย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ทำความรู้จักกัน โดย เสี่ยวเป่ย ก็ได้มีความรู้สึกดี ๆ กับ เฉินเหนียน และให้คำมั่นสัญญาที่จะปกป้องเธอ ไม่ว่าจะต้องแรกมาด้วยอะไรก็ตามต้องบอกก่อนเลยว่า Better Days ไม่ใช่หนังที่ถูกสร้างมาเพื่อความบันเทิง หรือเพื่อจรรโลงใจแต่อย่างใด แต่สิ่งที่หนังต้องการจะถ่ายทอดต่อคนดู คือการสะท้อนสังคมของการถูกรังแกของนักเรียนในประเทศจีน และรวมถึงสังคมที่เต็มไปด้วยการ Bully ในสถานศึกษาทั่วโลก ที่เป็นประเด็นที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยมาจนถึงปัจจุบัน แต่ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้ จะแทบไม่ได้มีความบันเทิงมากนัก ทว่าหนังเรื่องนี้กลับสามารถถ่ายทอดประเด็นต่าง ๆ ออกมาได้ทรงพลัง หนังได้สะท้อนภาพความกดดันในสังคมนักเรียนจีน ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรังแกกันในชั้นเรียน ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ,การพยายามแข่งขันสอบเกาเข่า เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย ที่เต็มไปด้วยตวามกดดัน และความเครียด ไปจนถึงการสะท้อนภาพลักษณ์ของกลุ่มคนที่ไม่มีโอกาสได้เข้าไปเรียนหนังสือ ด้วยฐานะทางสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ คือภาพและบรรยากาศตลอดสองชั่วโมงที่หนังได้มอบให้กับคนดูแต่แม้หนังจะเต็มไปด้วยดราม่า และฉากสะเทือนอารมณ์มากมาย แต่กระนั้น หนังก็สามารถเล่าเรื่องออกมาได้น่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นวิธีการตัดต่อ โดยหนังจะนำเสนอเรื่องราวทั้งหมดผ่านตัวละคร เฉินเหนียน ที่ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง และเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นกับตัวละคร ทำให้คนดูรู้สึกว่าได้เข้าไปสำรวจชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ในช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดี และเลวร้ายที่สุด โดยเฉพะาในซีเควนซ์ช่วงท้ายของหนัง ที่สามารถสับขาหลอกคนดูได้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นการเฉลยปมต่าง ๆ ที่ชวนช็อค และฉากดราม่าอันทรงพลัง ที่สามารถสร้างอิมแพค ต่อคนดูได้ไม่มากก็น้อยด้านการแสดงต้องขอชื่นชมสองนักแสดงนำอย่าง โจวตงหยู และอี้หยางเชียนสี ที่ทั้งคู่มีเคมีการแสดงที่เข้ากันอย่างลงตัว ทุกครั้งที่เห็นสองตัวละครหลักคู่นี้อยู่ด้วยกัน สิ่งต่าง ๆ ที่อยูในหนังจะดูสดใส และสวยงาม แม้ว่าบรรยากาศต่าง ๆ ของหนังจะดูมืดหม่น หดหู่แค่ไหนก็ตาม ในขณะที่ด้าน โจวตงหยู ที่เป็นเสมือนตัวละครที่แบกรับหนังไว้เกือบทั้งเรื่อง ก็สามารถทำหน้าที่ได้ดี เพราะในเรื่องนี้ เธอสาามรถทำให้คนดู รู้สึกร่วมไปกับทุกโศกนาฏกรรมที่ตัวละคร เฉินเหนียน ประสบพบเจอได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ว่าโดยภาพรวม Better Days จะเป็นหนังที่ไม่ได้เปี่ยมไปด้วยความบันเทิง และเต็มไปด้วยความสะเทือนอารมณ์ หดหู่เกือบตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้ เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงชั้นดี ที่ทำให้คนทุกคนหันมาสนใจ และให้ความสำคัญต่อประเด็นการ Bully ในสถานศึกษารูปแบบต่าง ๆ ให้ทุกคนได้ตระหนักว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม หรือหากจะให้มองในแง่หนังดราม่า ระดับคุณภาพ ที่สร้างความตราตรึงใจคนดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม Cr. รูปภาพจาก มงคล ภาพยนตร์