บ่อยครั้งที่ผู้เขียนได้มีโอกาสรับชมกีฬาต่างๆในปัจจุบัน แต่ด้วยความที่ผู้เขียนเองอาจจะมีความหลงไหลในฟุตบอลมากกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ คงจะถึงขั้น’เข้าเส้น’เลยก็ว่าได้ ซึ่งตลอดเวลาที่ได้ติดตามมาสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในช่องว่างของวิวัฒนาการที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านกีฬา สิ่งหนึ่งคือ กฎการตัดสินและเครื่องมือในการช่วยการตัดสินของผู้ตัดสินเกมกีฬา ยุคที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนามาสู่สิ่งที่ล้ำยุคสมัยและเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่พบเห็นได้เป็นประจำในการแข่งขันฟุตบอล คงหนีไม่พ้นเรื่องของการปะทะหรือโต้เถียงกันของผู้เล่นทั้งสองฝั่งที่มีต่อคำตัดสิน หรืออาจจะลามไปจนถึงความเห็นของแฟนบอล ในเกมการแข่งขันทั่วไปมักจะมีจังหวะปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลต่อรูปเกมหรืออาจสำคัญถึงขนาดเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำฟาวล์ การล้ำหน้า การใช้มือหรือแฮนด์บอล และการนับประตูซึ่งจะเป็นประเด็นที่ผู้เขียนจะนำมากล่าวถึง โดยตามกฎแล้ว การที่ลูกฟุตบอลลอยข้ามเส้นประตูเต็มใบ ถึงจะนำมานับแต้มเป็นประตู จากที่กล่าวข้างต้นว่าด้วยกฎการนับประตูของฟุตบอลที่ก่อให้เกิดปัญหาในหลายๆครั้งกับตัวผู้ตัดสินเองและฝ่ายที่เสียผลประโยชน์จากความยากลำบากในการตัดสิน ซึ่งเหตุการณ์ในเสี้ยววินาทีนี้เองได้เคยก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรง ดังเหตุการณ์ที่ผู้เขียนจะย้อนกลับไป ณ วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553 การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่สนามฟรีเสตท ประเทศแอฟริกาใต้ ในวันนั้นทัพ’อินทรีเหล็ก’เยอรมนี ที่ผ่านเข้ารอบมาได้โคจรมาพบกับ’สิงโตคำราม’หรือทีมชาติอังกฤษในรอบ 16 ทีม ซึ่งการแข่งขันในวันนั้นเป็นฝ่ายเยอรมนีที่เริ่มต้นได้ดีกว่า โดยออกนำอังกฤษไป 2-1 แต่เหตุการณ์สำคัญกลับอยู่ที่นาที 38 ของช่วงท้ายครึ่งแรก ที่แฟรงค์ แลมพาร์ด กองกลางทีมชาติอังกฤษ เก็บตกลูกยิงจากระยะเกือบ 25 หลา บอลพุ่งเข้าเสียบใต้คานประตูและตกลงมากระดอนกับพื้นสนามเพียงครู่เดียว มานูเอล นอยเออร์ นายทวารทีมชาติเยอรมนีก็รีบเอามือมาคว้าลูกบอลไว้ และคว้างบอลเล่นต่ออย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผู้เล่นอังกฤษเรียกร้องประตูจากผู้ตัดสิน แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ โดยสุดท้ายแล้วผลสรุปของการแข่งขันเป็นฝ่ายอังกฤษที่ต้องผิดหวัง ตกรอบไปด้วยผลการแข่งขัน 4-1 อย่างช้ำใจ แม้ว่าการถ่ายทอดสดวันนั้นที่มีผู้รับชมจากทั่วทุกมุมโลก ต่างได้เห็นภาพช้าย้อนหลังในจังหวะที่แลมพาร์ดได้ยิงประตูว่าลูกบอลได้เข้าไปแล้วเต็มใบ แต่กลับได้รับผลที่ค้านสายตาจากผู้ตัดสิน จึงทำให้เกิดข้อถกเถียงไปต่างๆนานา เนื่องจากก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งนาที อังกฤษได้ประตูแรกจากแมตทิว อัปสัน ไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 หากว่าเหตุการณ์นั้นเป็นทีมอังกฤษที่ได้ประตูอย่างถูกต้อง จะทำให้ผล ณ เวลานั้นเป็น 2-2 ซึ่งมีผลอย่างมากต่อรูปเกมการแข่งขัน และเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตัดสิน เนื่องจากวิธีการสังเกตด้วยสายตาเปล่านั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไป ลำพังเพียงแค่สายตาของผู้ตัดสินหลักคนเดียว อีกทั้งยังมีผู้เล่นที่เข้าไปชุลมุนพร้อมกับจังหวะของเกมที่รวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะไม่ทำให้เกิดข้อกังขาในการตัดสิน แต่ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวไกลได้มีการนำระบบคอมพิวเตอร์ Hawk-Eye ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยดร.พอล ฮอว์กิน ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์นี้ได้เคยผ่านการใช้งานมาแล้ว ทั้งกับกีฬาคริกเก็ตหรือเทนนิส โดยที่ระบบนี้เดิมทีใช้ในการตรวจจับวิถีของลูกบอลและสามารถจับตำแหน่งที่ลูกบอลตกกระทบพื้นคอร์ดที่มีเส้นขอบเขตได้อย่างชัดเจน และสิ่งนี้ก็นับว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีกับปัญหาในการนับประตูของฟุตบอล เทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบันถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมา เพื่อวัตถุประสงค์สูงสุดในการใช้งาน สำหรับกีฬาฟุตบอลนั้น การลดความผิดพลาดในการตัดสินถือเป็นเรื่องที่ทำให้การแข่งขันในปัจจุบัน มีความขาวสะอาดมากกว่าในยุคก่อน อีกทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคำตัดสินต่างๆอีกด้วย ขอบคุณรูปภาพจาก : รูปภาพปก รูปภาพที่ 1 รูปภาพที่ 2 รูปภาพที่ 3 รูปภาพที่ 4