ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันยูนิฟายฟุตบอลสเปเชียลโอลิมปิค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2565 ซึ่งนับเป็นการแข่งขันนานาชาติครั้งแรกหลังจากที่เกิดวิกฤตโควิด 19 เชื่อว่าหลายคนคงเกิดความสงสัยว่าคือการแข่งขันอะไรเมื่อได้ชื่อว่า 'สเปเชียล' ต้องมีอะไรบางอย่างที่พิเศษ ถูกต้อง การแข่งขันครั้งนี้มีความพิเศษก็ คือ การนำนักกีฬาที่มีความพิการทางสติปัญญา และนักกีฬาปกติทั่วไปร่วมทีมเดียวกันเพื่อแข่งขันกีฬากับทีมอื่น ๆ ในครั้งนี้ก็คือกีฬาฟุตบอล จึงทีมฟุตบอลชายและทีมฟุตบอลหญิงกับนักกีฬาจากนานาชาติ ซึ่งประกอบด้วยกัน 7 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศไทยผู้จัดงานได้อธิบายถึงจุดประสงค์ของการแข่งขันในครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการทำให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา (บุคคลที่มีไอคิวต่ำกว่าปกติหรือบุคคลดาวน์ซินโดรม) ได้เป็นที่ยอมรับ และสามารถมีโอกาสทำกิจกรรมทางสังคมร่วมกับบุคคลที่มีทั่วไปได้อย่างเท่าเทียม อีกทั้งยังเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพของผู้บกพร่องทางสติปัญญา ให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่การฝึกฝนทักษะกีฬาต่าง ๆ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด การแข่งขันในครั้งนี้อาจจะมี กฎ กติกา ที่ถูกปรับเปลี่ยนจากกฎกติกาสากลทั่วไป เพื่อให้เหมาะสมกับนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน อาทิ จำนวนผู้เล่นในสนาม หรือระยะเวลาในการแข่งขัน เป็นต้นการแข่งขันในครั้งนี้ได้รับการร่วมมือจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน และถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเสมอภาคทางด้านสังคมโดยการใช้กีฬาเป็นสื่อกลาง ขึ้นชื่อว่าเป็นการแข่งขันฟุตบอลแล้วพิธีเปิดในครั้งนี้จึงมีนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยตำแหน่งผู้รักษาประตู คุณกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เดินนำขบวนพาเหรดนักกีฬา อีกทางยังมีมินิคอนเสิร์ตจาก BNK 48 และ GMM TV ที่จะร่วมส่งกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาในการแข่งขันครั้งนี้ความคิดเห็นสำหรับงานนี้ ชื่นชมอย่างยิ่งสำหรับจุดประสงค์ของการจัดแข่งขัน การที่ผู้ที่สภาวะบกพร่องทางสติปัญญาไม่ใช่ภาระของสังคม แต่หากเขาเป็นบุคคลทั่วไปที่ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเสมือนกันกับคนปกติ นี่คือสิทธิขั้นพื้นของมนุษย์ทุกคน การจัดงานนี้เพื่อส่งเสริมและแสดงให้เห็นว่าการได้รับการอบรม ฝึกฝน จากผู้เชี่ยวชาญแล้ว พวกเขาเหล่านี้ก็จะมีศักยภาพที่ไม่แตกต่างกันกับคนปกติเลย ขอขอบคุณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, การกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้สนับสนุน ภาพประกอบทั้งหมด ถ่ายโดย r_tem ผู้เขียน🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”