กลางโรงละครหลวงอันหรูหราของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ประเทศออสเตรีย คริสต์ศตวรรษที่ 19 ไฟสงครามโลกครั้งที่ 1 ลุกลามไปทั่วยุโรป หญิงชาวบ้านวันกลางคนคนหนึ่งแอบแทรกเข้าไปได้ วิ่งโร่ขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางนักแสดงและเสียงหัวเราะของผู้ชมชั้นสูงมากมาย จากนั้น นางจึงชักปืนออกมา...ยิงจ่อหัวตัวเองตายคาที่!วรรคทองของเรื่องนี้ว่าไว้ "เพราะตายทีเดียวไปเลย ยังดีกว่าต้องตายทีละน้อยๆ ไปในทุกๆวัน"เปิดเรื่องมาด้วยเสียงกระสุนแบบนี้ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ละครเพลงสนุกสนานธรรมดา Rudolf: Affaire Mayerling เป็นมิวสิคัลภาษาเยอรมันเรื่องเด่นของโรงละคร VBW เวียนนา ที่แสดงภาพความขัดแย้งในสังคม ระหว่างชนชั้นสูงกับชนชั้นล่าง ระหว่างผู้สนับสนุนอำนาจดั้งเดิมและหัวก้าวหน้า ระหว่างเมืองหลวงกับท้องถิ่นห่างไกล รวมถึงความขัดแย้งในจิตวิญญาณของมนุษย์ค่ะ สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์แล้ว นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกหนึ่งเรื่องนะคะ เพราะว่าใช้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในราชวงศ์ฮับส์บวร์ก พระเอกคือ รูดอล์ฟ เป็นรัชทายาทของไกเซอร์(พระจักรพรรดิ)แห่งออสเตรีย แต่ไม่เห็นด้วยกับวิถีชีวิตแบบฟู่ฟ่า เท้าไม่ติดดิน ประหนึ่งมารีอังตัวเน็ตของราชสำนัก เขาเลยใช้นามปากกาเขียนบทความโจมตีไกเซอร์ซึ่งก็คือพ่อตัวเองลงหนังสือพิมพ์ส่วนนางเอก แมรี่ เป็นบารอนเนสชั้นล่าง ๆ ประมาณว่าลูกขุนนางปลายแถว ซึ่งนางไม่ได้แต่งงานกับรูดอล์ฟนะคะ (รูดอล์ฟมีพระชายาอยู่แล้ว ชื่อ ชเตฟานี ซึ่งแต่งงานกันเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่ใช่ความรัก) แต่แมรี่มาเล่นชู้ด้วย เพราะประทับใจในบทความเนื้อหาหัวก้าวหน้าที่เขาเขียน ทั้งคู่รู้สึกว่าต่างเข้าใจกันอย่างที่สังคมชนชั้นสูงรอบข้างไม่มีใครเข้าใจแต่ที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์อันสุ่มเสี่ยงของทั้งสอง และการปะทะระหว่างเจ้าชายรัชทายาทที่อยากอยู่ข้างชนรากหญ้า สร้างความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ กับพระบิดาคือไกเซอร์แห่งจักรวรรดิ ที่ต้องรวบรวมอำนาจเข้าศูนย์กลางเพื่อสู้ภัยสงครามโลก จะจบลงอย่างไร... ขอไม่สปอยล์ดีกว่านะคะ เพื่อน ๆ สามารถฟังฟรีได้ที่ https://www.vbw-international.at/home/rudolf รวมถึงสามารถซื้อบัตรเข้าชม https://www.viagogo.com/ww/Theater-Tickets/Ballet-and-Dance/Mayerling-Tickets เล่นวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ที่ Franz Furst Freizeitzentrum กรุงเวียนนาความรู้สึกหลังดูจบ สำหรับเราคือความหดหู่และเยือกเย็น น่าประหลาดใจอยู่เหมือนกันนะคะที่ปัญหาความขัดแย้งทางสังคมต่าง ๆ ที่ออสเตรียเคยเผชิญ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 จะว่าไปแล้วกลับล้อกันกับสถานการณ์ของหลาย ๆ ประเทศในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา เยอรมนี ฮ่องกง หรือไทยเราเองก็ตามอาจเป็นธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่งของสังคมมนุษย์ก็เป็นได้นะคะ ที่จะต้องมีฝ่ายอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมขับเคี่ยวกันไปตลอดเวลา ทั้งสองฝ่ายมีจุดดีจุดด้อย และมีมุมมองเรื่องคุณธรรมแตกต่างกัน จึงเป็นสงครามความคิดที่ไม่รู้จบ หากกลุ่มใดได้เปรียบมากเกินไปก็จะผลักอีกฝ่ายจนมุมไปสู่ความสิ้นหวัง จนบ้านเมืองต้องชะงักงันเพราะไม่อาจร่วมมือกันหรือตกลงอย่างยุติธรรมได้ ดูแล้วเป็นข้อเตือนใจที่ดีเลยล่ะค่ะด้วยความที่สร้างเป็นมิวสิคัล เรื่องดนตรีจึงสำคัญและจะไม่กล่าวไม่ได้ เพลงที่ดีที่สุดในเรื่อง เราขอยกให้เพลง Master of the Strings มือที่ชักใย โดย Uwe Kroger นักแสดงรุ่นเก๋าของโรงละครเวียนนา ทั้งร้องทั้งเต้นได้ดีมาก และเขาก็แสดงบทร้ายได้เด็ดขาดมากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เพลงที่ไพเราะซาบซึ้ง ฟังซ้ำไปซ้ำมาได้ไม่มีเบื่อ คือเพลง You Are My World เธอคือโลกของฉัน โดย Drew Sarich เป็นเพลงที่รูดอล์ฟร้องให้แก่แมรี่หลังจากตัดสินใจเรื่องชีวิตตัวเองได้ส่วนข้อเสียของเรื่อง ต้องยอมรับว่าพล็อตค่อนข้างแคบ เพราะเน้นเรื่องการเมือง ชนชั้น และโรมานซ์ ดังนั้นออกจะน่าผิดหวังอยู่เหมือนกันที่ไม่ได้อภิปรายเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ช่วงแรกออสเตรียไม่ยอมเลือกข้าง จนตกอยู่ในภาวะลำบากเพราะถูกกีดกันจากทั้งฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายมหาอำนาจกลาง สักเท่าไร รวมถึงไม่พูดปัญหาสำคัญในชีวิตของรูดอล์ฟตัวจริง(ที่ส่งผลให้เขาตัดสินใจบางอย่างแปลก ๆ) คือ กามโรคในราชวงศ์ฮับส์บวร์ก เลยดูเหมือนขาดความเป็นละครประวัติศาสตร์เกินไปบ้าง แต่ถ้ามองว่าเป็นการแต่งใหม่เลยก็ถือเป็นนิยายที่โอเคอยู่ค่ะอย่างไรก็ขอแนะนำเรื่อง Rudolf: Affaire Mayerling ไว้สำหรับเพื่อน ๆ ผู้ชื่นชอบละครเพลงนะคะ เรื่องนี้เคยแสดงแล้วในออสเตรีย ฮังการี ญี่ปุ่น เกาหลี สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมมาไม่น้อยกว่า 550,000 คนทั่วโลกทีเดียว มีการผสมผสานดนตรีวอลซ์เวียนนาและบัลลาดสุดเร้าใจ ถ่ายทอดอารมณ์อย่างทรงพลัง ไม่ว่าความโกรธ ความสิ้นหวัง ความกลัวบ้านเมืองที่อนาคตไม่แน่นอน ความร้อนแรงที่กระหายปฏิวัติ ไปจนถึงความรักที่อ่อนโยน เชื่อว่าจะประทับใจทุกคนอย่างแน่นอนค่ะภาพโดย ผู้เขียน