บ้านใครที่มีปลั๊กไฟไม่พอเชิญทางนี้เลยครับ วันนี้ Srisumalai การช่าง...มัน มานำเสนอ วิธีการเพิ่มปลั๊กติดผนัง จากของเดิมที่มีปลั๊กเพียง 2 ปลั๊ก ขยายเพิ่มขึ้นอีก 1 ปลั๊ก พร้อมทั้งมีสวิตช์ควบคุมการเปิดปิดไฟ ในปลั๊กที่เพิ่มขึ้นมาด้วยเอ่อ คุณ Srisumalai การช่าง...มัน ครับ ซื้อปลั๊กพ่วงที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด มีเยอะแยะ จะมัวมาทำออกแรงให้เสียเวลาไปทำไมครับ แค่ซื้อมา เสียบปุ๊บ ใช้ปั๊บ จบครับก็จบจริงตามที่คุณว่า แต่ บอกได้เลยครับว่าปลั๊กพ่วงที่ขายอยู่ในท้องตลาดนั้น คุณภาพไม่ค่อยสู้จะดีนักครับ ใช่ไปนานๆ ปลั๊กหลวมบ้าง ไฟไม่เข้าบ้าง ประสบพบเจออยู่เป็นประจำครับ ไอ้พวกที่ดีจริงๆ ก็แพงเอาเรื่องกันเลยทีเดียวแต่ยังไง Srisumalai การช่าง...มัน ไม่ยอมเสียอะไรแพงๆ หรอกครับ เพราะเราจะใช้ของเก่าที่เรามีอยู่ มาใช้ให้มากที่สุด มีซื้อเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ประหยัดด้วย งกด้วย แต่ก็ต้องทำให้ได้ตามที่ตั้งใจไว้ คือต้องได้ทั้งคุณภาพพร้อมกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานด้วยครับมาดูปลั๊กอันเก่ากันก่อนครับ เป็นกล่องลอยที่มีปลั๊ก 2 ปลั๊ก (P1) ความต้องการของเราต้องการปลั๊กทั้งหมด 3 ปลั๊ก และปลั๊กที่เพิ่มขึ้นต้องมีสวิตช์สำหรับเปิดปิดไฟให้กับปลั๊กนั้นด้วยนะครับ ตอนนี้เราต้องมาถอดปลั๊กอันเก่ากันก่อนเลยครับ เพราะเราต้องการใช้ปลั๊ก 2 อันนี้นำกลับมาใช้กับกล่องลอยตัวใหม่เริ่มจากใช้ไขควงแบนแหย่เข้าไปตรงเขี้ยว วงกลมสีแดง แล้วงัดขึ้น ทำทั้งสองข้าง ฝาด้านหน้าก็จะหลุดออกมาครับ (P2) ลืมบอกไป ปิด Breaker ตัวที่จ่ายไฟให้กับปลั๊กตัวนี้ก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นอาจมีดูดกันบ้างดึงฝาหน้าออกมาจนเห็นภายใน ต่อไปใช้ไขควงหัวแฉกถอดน็อต 2 ตัวออก (P3) เพื่อจะดึงฝาที่ใช้ยึดปลั๊กออกจากตัวกล่องลอย ใช้ไขควงปากแบนคลายน็อต ทั้งสองข้างของปลั๊กออก (P4) จนสายไฟที่ต่อเข้าปลั๊กหลุดออกตัวปลั๊ก (P5)ก่อนทำอะไรต่อไปต้องมั่นใจนะครับว่า ตรงสายไฟที่เปลือยเปล่านั้นไม่มีไฟอยู่จริง ๆ ใช้ไขควงวัดไฟตรวจเช็กให้แน่ใจอีกครั้งก็ได้ครับ เพื่อความปลอดภัย เมื่อไม่มีไฟแล้ว ใช้ไขควงแฉกถอดน๊อตยึดกล่องลอยทั้ง 2 ตัวออกเลยครับ (P6) จากนั้นก็ดึงกล่องลอยออกมาจนเหลือแต่สายไฟเพียว ๆ เลยครับ (P7) เพื่อความปลอดภัย หาเทปพันสายไฟมาพันป้องกันไว้ก่อนก็ดีนะครับ เพื่อใครไปเผลอผลักเปิด Breaker ขึ้นมา จะได้ไม่เป็นอันตรายครับของที่ถอดออกมาทั้งหมด รวมกองไว้ที่นี่แล้วครับ ต่อไปเราจะแกะปลั๊ก 2 ตัวจากของเก่าออกมา ใช้ร่วมกับของใหม่ที่ซื้อเพิ่มเติมขึ้นมาครับ ในขั้นตอนต่อไปเราจะต้องถอดตัวปลั๊กออกจากแผงล็อกปลั๊กนะครับ คือในส่วนที่เป็นสีแดง (P8)คว่ำแผงล็อกปลั๊กลง เราจะเห็นสายสีน้ำเงินที่ติดอยู่กับตัวปลั๊ก ใช้ไขควงแบนขันคลายน๊อตออก เพื่อจะดึงสายสีน้ำเงินให้หลุดจากตัวปลั๊ก (P9-P10) แล้วต่อไปก็ถอดปลั๊ก (สีแดง) ออกจากแผงล็อก (P11) ก็จะได้ปลั๊กตัวเป็น ๆ ออกมา 2 ตัว (P12)- ได้ปลั๊กมาแล้ว 2 ตัว ทำความสะอาดเสียหน่อย ก็นำกลับมาใช้ได้ (สีแดง) (P13)- ไปรื้อ ๆ ค้น ๆ หาดูของเก่าดู มีฝา 4 ช่อง กับ ปลั๊กอีกหนึ่งอัน ลงตัวพอดี (ไม่ใส่สี) (P13)- สิ่งที่ยังขาดอยู่ ต้องไปซื้อมาเพิ่มได้แก่ กล่องลอยขนาดใหญ่ (สีน้ำเงิน) และตัวสวิตช์ (สีเขียว) (P13)- เราก็จะได้อุปกรณ์ครบตามต้องการแล้วครับ ผสม เก่า ใหม่ ประหยัดกันหน่อย (P13)ได้ของที่ต้องการครบแล้ว มาเริ่มเอาเจ้าพวกปลั๊กกับสวิตช์มาใส่เข้ากับตัวหน้ากากกันเลยดีกว่าครับ เริ่มด้วยงัดฝาหน้าเปิดออกเลยครับ (สีส้ม) (P14) เราก็จะเห็น แผ่นเหล็กสำหรับเอาไว้ยึดตัวปลั๊กกับสวิตช์ครับ นำปลั๊กมาประกบยึดกับแผ่นเหล็ก โดยใช้ไขควงแบนสอดเข้าไปในช่องสีเขียว แล้วบิดไขควง ให้ก้านเหล็ก สีแดงเข้าไปล๊อกยึดตัวปลั๊กให้อย่างแน่นหนาแข็งแรง (P15-P16)นำสวิตช์กับปลั๊กมาใส่ให้ครบทุกตัว จัดวางตามที่เราวางแผนไว้ คือเราต้องการให้สวิตช์ สีแดง ควบคุมการปิดเปิดไฟที่ปลั๊ก สีเขียว (P17) เดินสายไฟเข้าปลั๊กตามแผนที่เราวางไว้ สายที่มีไฟ สายสีขาว (L) ให้เดินไปตามปลั๊กที่มีตัว L เขียนกำกับไว้อยู่ที่รูเข้าสาย โดยปลั๊กสีเขียวให้สายสีขาว (L) ต้องเดินมาผ่านตัวสวิตช์สีแดงเสียก่อนค่อยไปเข้าที่ตัวปลั๊ก เพราะเราต้องการให้สวิตช์ไปสีแดงควบคุมการปิดเปิดไฟที่ปลั๊กสีเขียวนี้ อีกเส้นหนึ่งเป็นสายที่ไม่มีไฟ (N) ให้เดินไปตามปลั๊กทุกปลั๊ก (P18) จัดการเดินสายจริง ตามที่เราวางแผนไว้ (P19)ตอนนี้เราได้เตรียมสวิตช์กับปลั๊กใส่เข้ากับหน้ากาก และต่อสายไฟไว้เรียบร้อย ต่อไปก็ไปจัดการกับกล่องลอยที่ต้องซื้อเพิ่มขึ้นมาครับ (P20) เริ่มจากใช้ตะไบกลม ตะไบที่ด้านข้างของกล่องลอยเพื่อทำเป็นช่องให้สายไฟเส้นเดิมที่ผนัง เข้าไปต่อที่ปลั๊กของเรา (P21-P22)แล้วนำกล่องลอยไปวางวัดกับสายไฟที่ถอดกล่องลอยอันเก่าออกมา (P23) รูที่ใช้สำหรับยึดกล่องลอยอันเก่าที่เจาะอยู่ที่กำแพง ไม่ตรงกับกล่องลอยอันใหม่ จำเป็นต้องเจาะรูกล่องลอยอันใหม่ให้ตรงกับรูที่อยู่ที่กำแพง จะได้ไม่ต้องเจาะรูที่กำแพงเพิ่ม โดยใช้กล่องลอยวัดกับรูที่กำแพง เลื่อนกล่องลงมาข้างล่างจนเห็นรูที่กำแพงใช้ดินสอทำสัญลักษณ์ไว้ วัดระยะห่างให้เท่ากับรูที่กำแพง ทำที่ด้านข้างด้วย วัดแบบบ้าน ๆ นี่แหละ (P24-P26) ลากเส้นจากที่เราวัดไว้ ด้านบน และด้านข้าง ให้เส้นมาตัดกันที่ด้านหลังกล่อง (P27) ใช้สว่านเจาะรูกล่องลอยให้ตรงกับที่เราทำสัญลักษณ์ ใช้ขนาดดอกสว่านให้ใหญ่พอที่น๊อตตัวที่จะใช้ยึดกล่องลอยให้ติดกับกำแพง ลอดผ่านได้ (P28) เราก็จะได้กล่องลอยทีเจาะรูให้ตรงกับรูกำแพง (P29)ขั้นตอนต่อไปจะต้องยึดกล่องลอยเข้าติดกับกำแพงก่อนเลย นำเทป 2 หน้ามาติดเข้ากับกล่องลอยด้านหลัง เพราะตรงส่วนนี้ เราไม่ได้เจาะรูที่กำแพงเพื่อยึดกล่องเพิ่ม เลยต้องใช้เทป 2 หน้าช่วยยึดด้านล่างของกล่องให้ติดกับกำแพงจะได้แน่นหนาขึ้น (P30) นำกล่องลอยที่ติดเทป 2 หน้าไว้แล้ว นำยึดมาติดกับกำแพง รอดสายไฟเข้าภายในกล่อง เล็งให้รูที่กล่องลอยที่เราเจาะไว้ให้ตรงกับรูที่กำแพง ขันน็อตยึดกล่องลอยเข้ากำแพงด้วยน๊อตตัวเก่าที่ถอดเก็บไว้ (P31)ที่ฝา แกะฝาหน้าออก (สีแดง) (P32) เอาไขควงแฉกขันน๊อตยึดฝาทั้ง 4 ตัวออก แล้วดึงฝาออก (สีเขียว) เพื่อให้ง่ายสำหรับตอนที่จะเอาสายไฟเข้าไปขันติดกับตัวสวิตช์ (P33-P34)แผงหน้ากากที่ถอดฝาออกแล้ว นำมาขันเข้ากับสายไฟ (P35) ให้ตรงตามแบบที่เราได้คิดไว้ (P18) นำฝา (สีเขียว) กลับมายึดเข้ากับเหล็กยึดสวิตช์ให้เหมือนเดิม (P37)ขันน็อต 4 ตัวที่ได้มาตอนซื้อกล่องลอย ยึดฝาหน้าให้ติดกับกล่องลอย (P38) นำฝาหน้ามาติดเข้าไป เป็นอันเสร็จเรียบร้อย (P39) ผลักเบรกเกอร์ที่เราตัดไฟตั้งแต่ตอนต้นขึ้น ตรวจเช็กไฟตามปลั๊กว่ามีไฟมา ตรงปลั๊ก (สีเขียว) ไฟจะปิดเปิดตามสวิตช์ (สีแดง) ก็จะตรงตามที่เราได้คิดไว้ (P39)Before - Afterก็เป็นอันเรียบร้อยครับกับการขยายปลั๊กเพิ่มสวิตช์ ที่เราสามารถกำหนดปลั๊กในบ้านของเราเองให้ตรงกับการใช้งานของเรา โดยที่ทำมาทั้งหมดนี้ไม่ได้ต้องใช้เงินจำนวนมากเลย ที่ต้องซื้อเพิ่มขึ้นมาก็มีเพียง กล่องลอยกับสวิตช์อีก 1 ตัวเท่านั้นเองครับ ถือว่าเป็นการคุ้มค่ามากถ้าเราสามารถนำของเก่ามาใช้ผสมกับของใหม่ แล้วยังทำได้ตามความต้องการของเราด้วยครับ