'อยากไปต่างประเทศเเต่มีเวลาเเค่วันเสาร์ - อาทิตย์ จะไปไหนได้บ้าง?' พวกเราตั้งโจทย์ง่าย ๆ ขึ้นมา เหล่าสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี ใต้หวัน ก็เหมือนจะต้องใช้เวลาหลาย ๆ วันในการเก็บให้ครบ ดังนั้นตัวเลือกในการท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งนี้อาจจะต้องเป็นประเทศเพื่อนบ้านใน ASEAN เเต่จะเป็นที่ไหนดีล่ะ? สิงคโปร์ก็ไปเเล้ว กัมพูชาก็ไปมาเเล้ว เวียดนามก็ไปมาเเล้วเหมือนกัน **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) พลันพวกเราก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า 'เอ๊ะ พวกเรายังไม่เคยไปเที่ยวตึกแฝดปริโตนาสนี่หน่า' ใช่เเล้ว ตึกที่เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก (ตอนนี้เจ้าสถิติตึกสูงที่สุด คือ ตึกเบิร์จคาลิฟาห์ ที่ดูไบ) แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตึก Petronas Twin Tower ก็ยังคงเป็นตึกเเฝดที่สูงที่สุดในโลกอยู่ดี นับว่าประวัติไม่ธรรมดาเลย ดังนั้นพวกเราจึงไม่รอช้า รีบกำพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบิน (บวกกับเงินประมาณคนละ 500 ริงกิต) พร้อมเเลนดิ้งที่เมือง 'กัวลาลัมเปอร์' ประเทศมาเลเซียครับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) เเน่นอนว่าพวกเรามีเวลาเเค่ 2 วันคือวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ดังนั้นการมาเที่ยวในครั้งนี้ พวกเราจึงมุ่งมั่นที่จะเก็บเเค่เเลนด์มาร์กเด่น ๆ ให้ครบ และเนื่องด้วยเวลาในการเดินทางเเค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ ทำให้เราสามารถออกมาจากสนามบินเเละเริ่มเเพลนเที่ยวได้เลย **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) เริ่มจากที่พักกันก่อนครับ ครั้งนี้เราเลือกมาพักใกล้ ๆ กับ 'มัสยิดจาเม็ก' มัสยิดกรางกลุงกัวลาลัมเปอร์ เเเต่ส่วนมากจากที่อ่านในรีวิวของท่านอื่น ๆ คนไทยจะนิยมไปพักกันที่ KL Central ซึ่งเป็นดั่ง Hub ของการเดินทางทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชุมทางรถไฟฟ้าหรือรถทัวร์ครับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) เหตุผลที่พวกเราเลือกพักในบริเวณนี้ เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราปักหมุดเอาไว้อย่าง 'จัตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square)' ซึ่งใกล้ ๆ จัตุรัสยังเป็นที่ตั้งของธงชาติมาเลเซียที่นับว่าเป็น 'เสาธงที่สุดในโลก' ที่มีความสูงถึง 41 เมตร **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชม 'พิพิธพัณฑ์สิ่งทอเเห่งชาติ' 'กัวลาลัมเปอร์เเกลอรี่' หรือหอนาฬิกาที่ถูกเรียกว่าเป็น 'บิ๊กเบ็นเเห่งมาเลเซีย' เรียกได้ว่าเดินถ่ายรูปกันเพลินจนลืมเวลากันเลยทีเดียวครับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) จุดเด่นของอาคารในละเเวกนี้ศิลปะที่ใช้ในการก่อสร้างที่เป็นเเบบทิวดอร์ สร้างโดยชาวอังกฤษที่เข้ามาปกครองมาเลเซียในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เเละการตกเเต่งเหล่าพุ่มไม้ต่าง ๆ อย่างละเมียดละไม ที่สำคัญคือการรักษาความสะอาดครับ เพราะพวกเราไม่เจอขยะเลยเเม้เเต่ชิ้นเดียว **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) โชคดีอีกอย่างหนึ่งของเราคือ ระหว่างทางเดินจากที่พักไปยังจัตุรัสเมอร์เดก้าจะต้องผ่านเเม่น้ำที่มีชื่อว่า Sungai Gombak ซึ่งถือเป็นเเม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่ากลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ส่งผลให้คนในชุมชนได้รับอานิสงค์นำน้ำมาใช้ประโยชน์ ชาวมาเลเซียเลยตั้งชื่อเล่นให้เเม่น้ำ Sungai Gombak แห่งนี้ว่า 'River of Life' หรือ 'เเม่น้ำเเห่งชีวิต' ครับ บอกเลยว่าบรรยากาศเหมาะกับการมานั่งจิบเครื่องดื่มตอนเย็น ๆ สุด ๆ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) ในเมื่อพาเเฟนมาก็ต้องพาไปช็อปปิ้งเเหละครับ เย็นวันนั้นพวกเราเลือกจับรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Bukit Bintang ซึ่งเป็นย่างที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งใจกลางความเจริญ (อาจจะเป็นรองเเค่ย่าน KLCC) ที่นี่เป็นที่ตั้งของห้าง Pavillion สุดหรูหรา ช็อปของเเบรนด์เครื่องสำอางอย่าง Sephora อันยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมกับร้านอาหารนับร้อย **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) พวกเราใช้เวลาชื่มชมเเสง สี เสียง เเละหาอะไรทานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานี KLCC (Kualalamphur City Center) เพื่อมาชมไฮไลท์ประจำทริปนี้ครับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Tower) มีความสูงทั้งหมด 88 ชั้น คนมาเลเซียอาจเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า อาคาร KLCC ซึ่งเป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก อาคารเเห่งนี้มีผู้ออกเเบบชื่อว่า ซีซาร์ เปลลิ สถาปนิกชื่อดังเชื้อสายอาร์เจนตินา-อเมริกัน ว่ากันว่าตึกเเฝดปิโตรนาสสร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตของสถาปัตยกรรมอิสลาม **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) โดยการเดินทางไปยังจุดชมตีกแฝดที่ดีที่สุด คือ เมื่อออกจากสถานี KLCC ให้เดินเข้าไปในห้างที่ชื่อว่า Suria จากนั้นตรงจุดหนึ่งตรงกลางห้างจะมีทางออกมี่เชื่อมไปยังสวนสาธารณะที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง เมื่อถึงตรงนั้นก็ให้เราปักหลักไว้ได้เลยครับ โดยจะอยู่จนค่ำมืดเพื่อรอดูตึกแฝดที่ค่อย ๆ เปิดไฟทีละดวงก็ได้ และพวกเราก็ปิดฉากทริปวันเเรกด้วยการนั่งมองตึกแฝดเเห่งนี้พร้อมกับชมระบำน้ำพุครับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) วันที่สอง พวกเรามีเวลาถึง 1 ทุ่มก่อนขึ้นเครื่องกลับไทย ก็เลยต้องตื่นเเต่เช้าเพื่อมาเก็บ 'เก็นติ้ง ไฮเเลนด์ (Genting Highland)' เเหล่งรวมความบันเดิงบนที่ราบสูงไฮเเลนด์ ที่มหาเศรษฐีชาวมาเลเซียเนรมิตขึ้นมาอย่างเวอร์วังอลังการ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) โดยการเดินทางมาที่เก็นติ้ง เราจะต้องเริ่มจากการนั่งรถบัสมาจาก KL Central ที่จะออกทุก ๆ 1 ชั่วโมง ตรงจุดนี้ควรรีบไปตั้งเเต่เช้าเพราะรถเต็มไวมากครับ เเละเมื่อไปถึงที่สถานีกระเช้า ควรซื้อตั๋วขากลับไว้เลยในกรณีที่มาเเบบไปเช้า - เย็นกลับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) ด้านบนเกนติ้งจะประกอบไปด้วย คาสิโน โรงเเรม เเละร้านอาหารหลากหลาย หากท่านใดที่ต้องการไปเสี่ยงโชคในคาสิโนต้องเเต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ห้ามใส่รองเท้าเเตะ ต้องเป็นรองเท้าหุ้งส้นเท่านั้นครับ เเละที่คาสิโนห้ามถ่ายรูป พวกเราก็เลยใช้เวลาไม่นาน อีกเหตุผลหนึ่งเพราะผมมีสถานที่ที่ผมปักหมุดเอาไว้เเล้ว นั่นก็คือ Chin Swee Cave Temple ซึ่งเป็นวัดจีนที่ตั้งอยู่บนภูเขาครับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) การเดินทางมาที่นี่ สามารถทำได้โดยการนั่งกระเช้าลงมาจากเกนติ้งเเละเเวะลงที่สถานี Chin Swee Temple จากนั้นก็เดินเท้าเข้ามาได้เลยครับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) ด้านบนอากาศเย็นสบาย เเม้จะปกคลุมไปด้วยเเสงเเดดอันเจิดจ้า เเต่ด้วยสถาปัตยกรรมเเละทิวทัศน์ที่สวยโดดเด่น ทำให้พวกเราเลือกสถานที่เเห่งนี้ในการปิดทริปกัวลาลัมเปอร์ 2 วัน 1 คืนของพวกเราครับ **หมายเหตุ ภาพทุกภาพในบทความนี้ถูกถ่ายโดยเจ้าของบทความ (Callmepetchy) ภาพสุดท้ายของทริปนี้ ขอลากันไปด้วยภาพวิวจากบนวัด Chin Swee Cave Temple บนเกนติ้งไฮเเลนด์ครับ เเล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ :)