อื่นๆ
Sengoku ยุคสมัยแห่งสงครามที่ถูกนำมาสร้างเป็นเกม ตอนที่ 2
หลังจากเราทิ้งท้ายการเล่าเรื่อง Sengoku ยุคสมัยแห่งสงครามที่ถูกนำมาสร้างเป็นเกม ตอนที่ 1 ฺเอาไว้ที่การเสียชีวิตของโนบุนากะวันฮนโนจิใน Onimusha ภาค 3 วันนี้เราจะมาสานต่อเรื่องราวในภาค 4 กันต่อ ซึ่งเป็นช่วงที่ฮิเดโยชิ โทโยโทมิได้ขึ้นเป็นจอมทัพผู้มีอำนาจที่สุดต่อจากโนบุนากะ หลังจากนั้นเราจะไปดูเนื้อเรื่องของเกมอื่น ๆ ที่มีการนำเนื้อเรื่องหรือขุนพลของยุค Sengoku ไปใช้กันครับ
**หมายเหตุ ภาพประกอบผมไม่สามารถนำภาพจากในเกมมาใช้ได้นะครับ เพราะผมไม่มีเกมอยู่กับตัว และแหล่งภาพฟรีไม่มีให้ใช้ อาจจะต้องใช้ภาพจากสถานที่ต่าง ๆ หรือหน้าประวัติศาสตร์ต่าง ๆ แทน ขออภัยมา ณ. ที่นี้
Onimusha: Dawn of Dreams จะเป็นเนื้อเรื่องต่อมาจากภาคที่ 3 โดยหลังที่จากฮิเดโยชิ โทโยโทมิกำจัดกบฎวัดฮนโนจิได้สำเร็จและรวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จแล้ว ความสงบสุขก็กลับคืนสู่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งจนกระทั่งดาวสีแดงแห่งมรณะปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า ฮิเดโยชิเริ่มส่งกองกำลังปีศาจเก็นมะรุกรานแผ่นดินต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย ซึ่งเหตุการณ์ส่วนนี้ในเกมจะกล่าวถึงน้อยมากแต่ก็ตรงกับหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเหตุการณ์ในเกมเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1597 ถึง 1598 ซึ่งตรงกับช่วงที่ฮิเดโยชิส่งกองกำลังจากญี่ปุ่นไปบุกโจมตีเกาหลี เราเรียกการโจมตีนี้ว่าการรุกรานปีเคโจ
Advertisement
Advertisement
แหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : "toyotomi hideyoshi. 豊臣秀吉" by moollyem is licensed under CC BY 2.0
ขณะเดียวกันฮิเดโยชิก็ได้สั่งให้เหล่าเก็นมะรวบรวมต้นซากุระจากทั่วประเทศมารวมกันที่จังหวัดเกียวโตเพื่อแผนการร้ายบางอย่าง ซึ่งก็ตรงกับหน้าประวัติศาสตร์ในช่วงสุดท้ายของชีวิตฮิเดโยชิ โดยในปี ค.ศ. 1598 ฮิเดโยชิได้จัดงานดอกซากุระบานที่จังหวัดเกียวโตเช่นกัน เพื่อทำลายแผนอันแสนชั่วร้ายนี้ โซกิ ตัวละครหลักของเกมภาคนี้จะออกผจญภัยไปในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อกำจัดเหล่าเก็นมะและทำลายแผนของฮิเดโยชิลง ท้ายที่สุดโซกิบุกมายังเกียวโตและสามารถสังหารฮิเดโยชิได้ในที่สุด ซึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ฮิเดโยชิเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1598 เช่นเดียวกัน แต่ท่านเสียชีวิตจากอาการป่วยในปีนั้น หลังจากนั้นเกม Onimusha ก็ไม่มีภาคใหม่ ๆ ปรากฎออกมาอีก แต่ก็ได้มีเกมที่นำเนื้อเรื่องในหน้าประวัติศาสตร์ต่อจากเกม Onimusha ภาคนี้มาใช้อยู่ เกมนั้นมีชื่อว่า Nioh
Advertisement
Advertisement
แหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : ภาพ โดย Couleur จาก Pixabay
ในเกม Nioh เราจะได้รับบทเป็นวิลเลี่ยม นักรบชาวอังกฤษที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1600 เพื่อตามหาศัตรูของเขาที่ชิงวิญญาณผู้พิทักษ์ของเขาไป ซึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ ปี ค.ศ. 1600 นี้ เป็นปีที่เกิดศึกสงครามครั้งสุดท้ายแห่งยุคเซ็นโกคุนามว่ายุทธการเซคิกาฮาระขึ้น โดยเป็นการปะทะกันของทัพฝ่ายตะวันออกที่นำโดยโทกุกาวะ อิเอยาสุ กับทัพฝ่ายตะวันตกที่นำโดยอิชิดะ มิตสึนาริ ดังนั้นเมื่อวิลเลี่ยมมาถึงประเทสญี่ปุ่น จึงจำเป็นต้องเข้าไปพัวพันกับสงครามครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะศัตรูที่เขาตามหาอยู่ฝั่งมิตสึนาริ ดังนั้นวิลเลี่ยมจึงต้องเข้าร่วมกับฝ่ายอิเอยาสุ วิลเลี่ยมได้เข้าปะทะกับขุนพลชื่อดังมากมายที่มีชื่ออยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น โอทานิ โยชิสึกุ และชิมะ ซาคอน ท้ายที่สุดฝ่ายมิตสึนาริพ่ายศึก ศัตรูที่วิลเลี่ยมตามหากลับไปยังอังกฤษ ส่งผลให้วิลเลี่ยมต้องกลับอังกฤษตามไปด้วย เป็นอันจบเนื้อเรื่องของประเทศญี่ปุ่นในเกมนี้ ซึ่งก็ตรงกับหน้าประวัติศาสตร์ที่มิตสึนาริพ่ายแพ้ต่ออิเอยาสึ หลังจากนั้นไม่นานก็เข้าสู่ยุคเอโดะโดยการนำของโชกุนโทกุกาวะ อิเอยาสึ
Advertisement
Advertisement
แหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : "Sekigahara Battlefield" by Yasuhisa Yamazaki is licensed under CC BY 2.0
เกร็ดเล็กน้อยที่อยากฝากก่อนจากกันไปในตอนนี้คือ ยุทธการเซคิกาฮาระถือเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่และถือว่าสำคัญที่สุด แม่ทัพมากความสามารถมากมายจากทั่วประเทศญี่ปุ่นมารวมตัวกันที่ทุ่งเซคิกาฮาระแห่งนี้เพื่อตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้ปกครองญี่ปุ่น ในช่วงแรกทัพมิตสึนาริได้เปรียบเป็นอย่างมากจนเกือบจะชนะทัพของโทกุกาว่าได้ แต่จุดเปลี่ยนของสงครามครั้งนี้คือแม่ทัพของฝ่ายมิตสึนารินามว่าฮิเดอากิ โคบายาคาวะ ได้ทำการเจรจาอย่างลับ ๆ กับอิเอยาสึ ก่อให้เกิดความลังเลในระหว่างการรบ จังหวะนั้นเอง อิเอยาสึใช้พลปืนยิงใส่โคบายาคาวะ จนท้ายที่สุด โคบายาคาวะสั่งทัพทั้งหมดโจมตีมิตสึนาริแทน ส่งผลให้กระบวนทัพของมิตสึนาริถูกทำลายจนพินาศสถานการณ์พลิกกลับจนอิเอยาสึชนะในที่สุด ยังมีเนื้อเรื่องเสริมอีกนิดหน่อยสำหรับเกม Nioh แต่ขอยกยอดไปเป็นตอนที่ 3 ก็แล้วกันนะครับ ถ้าท่านผู้อ่านถูกใจบทความนี้ ฝากกดไลค์เพจผมและแชร์บทความนี้ไปให้เพื่อน ๆ อ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ พบกันใหม่ตอนที่ 3 สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนแล้ว สวัสดีครับ
Facebook Fanpage ของผู้เขียนบทความ :https://www.facebook.com/PDEsterTheCreator/
แหล่งอ้างอิงรูปภาพปกบทความ : "Osaka_Castle_Museum_6" by variationblogr is licensed under CC BY 2.0
ผมคือ PDEster ผู้ชื่นชอบในการเขียนเป็นชีวิตจิตใจ ติดตามบทความใหม่ๆ ได้ด้วยการกด Follow หรือทาง Faceb
ความคิดเห็น