ธนาคารกรุงเทพปล่อยอัปเดตโมบายแบงก์กิ้งเวอร์ชั่นล่าสุด ด้วยชื่อใหม่ Bangkok Bank Mobile Banking ปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมสโลแกนติดหูอย่าง 'ดีไซน์ใหม่ ใคร ๆ ก็ใช้เป็น' เพื่อปรับปรุงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคนี้ที่ใช้สมาร์ทโฟนในการทำธุรกรรมทางการเงิน มากกว่าจะเดินเข้าธนาคารอย่างในสมัยก่อน ด้วยผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการจากธนาคารกรุงเทพอย่างยาวนานมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย สิ่งหนึ่งที่รู้สึกขัดอกขัดใจและเชื่อว่าหลายคนคงเป็นเหมือนกันนั่นคือ แอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง (Mobile Banking) ที่ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Bualaung M Banking ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ ว่ามันเป็นระบบการทำธุรกรรมบนโทรศัพท์มือถือที่แสนจะล้าสมัย ทั้งในเรื่องดีไซน์ ระบบการตอบสนองและประสิทธิภาพการใช้งานที่ห่างชั้นจากธนาคารอื่น ๆ ค่อนข้างมาก แต่แล้ววันนี้ลูกค้าบัวหลวงก็ได้เฮ เมื่อความโบราณเหล่านั้นได้ถูกลบล้างไปและแทนที่ด้วยหน้าตาแบบใหม่ที่ทันสมัย ใช้งานได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว ธนาคารกรุงเทพได้ปล่อยอัปเดตเวอร์ชั่นล่าสุดให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบ Android ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน และผู้ใช้งานระบบ iOS เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ความประทับใจแรกของผู้เขียนหลังการใช้งานไม่กี่นาที คงหนีไม่พ้นเรื่องหน้าตาที่เป็นมิตรต่อการใช้งานมากขึ้น ทั้งในแง่ของการใช้สีและไอคอนที่ดูเรียบง่ายสบายตา บริการต่าง ๆ ก็ยังคงใช้งานได้เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน เติมเงิน จ่ายเงิน ซื้อกองทุน และบริการด้านอื่น ๆ ที่ตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคนี้ เอาเป็นว่าในส่วนของการใช้งานยังคงมีบริการครบครันเช่นเดิม แต่เราสามารถใช้งานได้ง่าย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องโวยวายเมื่อแอปค้างอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่สิ่งที่ทุกคนน่าจะร้องกรี๊ดกันสุดเสียง ก็คงเป็นระบบโอนเงินที่แก้ไขให้ถูกใจพวกเราชาวบัวหลวงกันสักที เพราะในที่สุดเราสามารถคัดลอกเลขบัญชีมาวางในหน้าทำรายการโอนเงินได้แล้ว หลังจากที่ปัญหานี้เป็นที่ขัดใจเรากันอยู่นานหลายสิบปี ระบบโอนเงินอันยากเย็นของธนาคารกรุงเทพ น่าจะเป็นปัญหาของผู้ใช้งานมากที่สุดแล้วก็ว่าได้ ก่อนหน้านี้เราต้องสลับแอปฯไปมาเพื่อจะดูเลขบัญชีของปลายทางที่เราจะโอนเงินไปให้ บ่อยครั้งที่เราต้องหากระดาษปากกามาจดเลขบัญชีเพื่อจะไปพิมพ์อีกครั้ง ใช้เวลาอยู่หลายนาทีกว่าจะโอนเงินได้ การแก้ไขปัญหาให้คัดลอกเลขบัญชีมาวางได้ จึงเป็นการปรับปรุงที่น่าจะถูกใจใครหลายคนอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะดีไปเสียทั้งหมด มีข้อสังเกตอยู่อย่างสองอย่างสำหรับเวอร์ชั่นใหม่นี้ อย่างแรกคือ ประเด็นเรื่องค่าธรรมเนียม ซึ่งหากเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นที่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมมานานแล้ว แต่สำหรับธนาคารกรุงเทพ หากเราต้องการรับข้อความแจ้งเตือนด้านบัญชี ทุกกิจกรรมความเคลื่อนไหวทางบัญชีของเรา ไม่ว่าจะแจ้งเตือนเมื่อมีคนโอนเงินเข้ามา เราถอนหรือโอนเงินออกไป แจ้งยอดเงินคงเหลือรายสัปดาห์ ตรงส่วนนี้หากต้องการให้แจ้งเตือนผ่านทาง sms และแอปพลิเคชัน จะมีค่าบริการ 15 บาทต่อเดือนต่อบัญชี แต่หากต้องการให้แจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันช่องทางเดียว คิดค่าบริการ 10 บาทต่อเดือนต่อบัญชี ข้อสังเกตที่สำคัญอีกประการหนึ่ง แม้จะปรับปรุงหน้าตาและการใช้งานให้ทันสมัยมากเพียงใด แต่ Bangkok Bank Mobile Banking ยังไม่มีบริการกดเงินสดจากตู้ ATM โดยไม่ใช้บัตร ซึ่งเรื่องตู้ ATM ของธนาคารแห่งนี้เอง ต่างก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่องตู้ยึดบัตรหรือกดเงินแล้วไม่ได้เงินอยู่บ่อยครั้งพอสมควร ผู้เขียนทราบมาว่าเวอร์ชั่นใหม่ที่ปล่อยอัปเดตมานี้ เป็นผลงานของพนักงานธนาคารที่ร่วมกันพัฒนาปรับปรุงขึ้นมาเอง เชื่อว่าในอนาคตบริการกดเงินสดโดยไม่ใช้บัตรก็ต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เราก็จะต้องติดตามกันต่อไป เพราะบริการดังกล่าวก็มีกันแล้วเกือบทุกธนาคาร การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นับเป็นก้าวที่สำคัญของธนาคารกรุงเทพเลยก็ว่าได้ ด้วยความเก่าแก่ของธนาคารที่ทำให้คนติดภาพลักษณ์เรื่องความโบราณคร่ำครึ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตู้ ATM เก่า สาขาธนาคารที่ไม่เคยปรับปรุงสักที ความล่าช้าในการให้บริการหรือระบบคอลเซนเตอร์ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รับสาย แต่ผู้เขียนเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะต้องได้รับการแก้ไขไปทีละเล็กทีละน้อย วันนี้ที่มีการปรับปรุงทางเลือกการทำธุรกรรมบนโทรศัพท์มือถือ ก็สะท้อนให้เราเห็นว่าธนาคารกรุงเทพไม่ได้อยู่เฉย แต่รับฟังเสียงของลูกค้าและผู้ใช้บริการอยู่เสมอ ในสังคมปัจจุบันที่วงการธนาคารมีการแข่งขันสูง แต่ละแห่งขยันออกผลิตภัณฑ์มาตอบสนองผู้บริโภค การซื้อใจลูกค้าด้วยบริการที่ดี จึงเป็นกำไรของพวกเราที่จะได้รับบริการทางการเงินที่เป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต รูปภาพทั้งหมดได้จากการจับภาพหน้าจอโดยผู้เขียน ศึกษาวิธีการใช้งานและรายละเอียดของโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพได้ที่ Bangkok Bank Mobile Banking