ราล์ฟ ลอเรน คือชื่อของชายผู้สร้างประวัติศาสตร์ตำนานที่ยังหายใจให้แก่วงการแฟชั่น เขาเรียนการออกแบบมาเหรอ? ...เปล่าเลย หรือเขาผ่านการเรียนตัดเย็บมาใช่มั้ย ...ก็ไม่ใช่อีก เขาเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า เสื้อผ้าผู้ชายที่มีขาย หรือสั่งตัดกันอยู่นั้น มันไม่มีแบบที่เขาต้องการเลย เขาจึงรังสรรค์สิ่งที่เขาต้องการเพียงแค่สวมใส่เอง ด้วยตัวของเขาเอง ราล์ฟ ในวัยเด็ก จากปากคำของเพื่อนฝูงพี่น้อง บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เขามีรสนิยมที่ดีเลิศและโดดเด่น ราล์ฟชอบไปที่ร้านขายเสื้อผ้าเก่าเอาแจ็กเกตบางตัวขึ้นมาสวมใส่ แล้วผู้คนก็ ว้าว มองเขาเป็นตาเดียว... ต่อมาราล์ฟ เริ่มทำธุรกิจขายเนคไท เขาเริ่มต้นเส้นทางสายแฟชั่นด้วยการผลิตเนคไทเส้นโต ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เก่าเรื่องหนึ่ง เขาเดินเข้าไปที่ห้างบลูมมิ่งเดล ห้างใหญ่ใจกลางเมืองแมนฮัตตัน ที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแฟชั่น เรียกกว่าถ้าต้องการอะไรเด็ดๆ นำสมัย และเก๋ล้ำกว่าใคร ให้ไปที่บลูมมิ่งเดล หากได้ขายที่นี่ ที่ไหนก็อ้าแขนต้อนรับเขา ราล์ฟคิด ...แต่ความเป็นจริงคือ บลูมมิ่งเดล กลับปฏิเสธเขาซื่อๆ ซ้ำยังขอให้เขาปลดป้ายชื่อแบรนด์ของเขาออก หากต้องการจะขายสินค้าที่นี่อีกด้วย ชายชื่อราล์ฟ กลับมาพร้อมกลับกระเป๋าเนคไท ดีไซน์ไม่เหมือนใคร เขาไม่ยอมแพ้ และไม่ยอมแม้กระทั่งจะคิดแกะป้ายสินค้าออก แม้จะได้ขายในห้างใหญ่ก็ตาม เพราะนี่คือชื่อของเขา คือสิ่งที่เขาคิดขึ้น นอกจากนั้นมันยังเป็นผลิตผลอันเกิดจากเรี่ยวแรงของพี่น้องผองญาติของเขาและของภรรยา ทั้งหมดช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อเดินตามความคิดฝันอันบรรเจิด ซึ่งต่อมา ห้างบลูมมิ่งเดล ก็โทรศัพท์มาง้อให้เขานำสินค้ากลับไปขาย และที่นั่น ชื่อแบรนด์ POLO ก็ถือกำเนิดขึ้นเป็นที่แรก POLO คือชื่อกีฬาแห่งชนชั้นสูง มันเป็นกีฬาการตีลูกเข้าประตู โดยผู้เล่นต้องขี่ม้าถือไม้ตีลูก ซึ่งราล์ฟมองว่ามันเป็นชื่อที่ดี ฟังดูสปอร์ต คล่องตัว และดีกว่าตั้งชื่อแบรนด์ของตนเองว่า บาสเก็ตบอลหรือฟุตบอลเป็นไหนๆ (ฮ่าฮ่าฮ่า) ซึ่งคำว่าโปโลก่อนนี้ก็เป็นชื่อที่ใช้เรียกเสื้อรูปแบบหนึ่ง คือ เสื้อโปโล เป็นเสื้อมีปก ผ้ายืด มีกระดุมที่คอเพียง 2-3 เม็ด เริ่มจากการใช้ในวงการกีฬาอย่างแพร่หลาย จนต่อมาก็ได้รับการนำไปใช้ในองค์กรธุรกิจรูปแบบต่างๆ จากเนคไทดีไซน์ใหญ่โตเกินมาตรฐานของยุคนั้น Ralph Lauren ขยับขยายไลน์สินค้าของแบรนด์ไปถึงเสื้อและกางเกง จากของผู้ชาย ราล์ฟก็ขยายไปเป็นของผู้หญิงด้วย และจากแบรนด์ที่ดูกึ่งสปอร์ตคล่องตัวจนเกือบคล้ายเสื้อผ้ากีฬาไปซะทั้งหมด ราล์ฟก็เริ่มทำให้ POLO กลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น แม้ว่าเจ้าตัวมักจะปฏิเสธอยู่บ่อยๆ ว่าตนเองไม่ใช่ดีไซเนอร์ หรือผู้อยู่ในวงการแฟชั่นก็ตามที วลีสุดคลาสสิคจากปากของเขา ที่เราได้ยินอยู่เสมอก็คือ... I don't design clothes, I design dreams "ผมไม่ได้ออกแบบเสื้อผ้า แต่ผมดีไซน์ความฝัน" ...ประโยคล้ำๆ ที่ทำให้ สาวก Ralph Lauren ณ เวลานั้น แทบจะเลิกสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์อื่นไปเลย โดยเฉพาะเมื่อราล์ฟขยับตัวสินค้าของเขาให้ขยายกว้างไกลไปถึงสินค้าอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวผู้คน เช่น กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา ของแต่งบ้าน กระทั่งเสื้อผ้าของเด็กๆ มาถึงจุดนี้ Ralph Lauren กลายป็นบุคคลที่ฮอตที่สุดในวงการแฟชั่นยุคนั้น และยุคนี้ก็เช่นกัน ชายคนนี้พาตัวเองพ้นจากวิกฤติทางการเงิน จนกลายมาเป็นอภิมหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ที่มีสาขามากกว่า 900 แห่งทั่วโลก... ขอบคุณภาพจาก www.ralphlauren.com