ในโลกที่สื่อออนไลน์มีมากมายและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขนาดนี้ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น แต่ก็คงไม่ตกใจกันมากเพราะการเปลี่ยนแปลงค่อย ๆ เกิดขึ้น จึงทำให้คนสามารถเปลี่ยนตามได้ เพื่อให้ทันสมัยอยู่ในยุคของโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ ได้ย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หนังสือเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ มากมาย สมัยเรียนสถานที่ที่ไปบ่อยที่สุดตอนพักกลางวันหรือว่างคือห้องสมุด แต่ไม่ได้ไปอ่านหนังสือวิชาการเท่าไหร่นัก สิ่งที่ชอบอ่านคือนิตยสารต่าง ๆ และหนังสือพิมพ์ เพราะมีข้อมูลและรูปภาพให้ดูประกอบเพลินดี อ่านซ้ำได้บ่อย ๆสมัยก่อนนิตยสารราคาหลักร้อยและการได้สมัครเป็นสมาชิกนิตยสารจะดูโก้เก๋มาก แต่ในปัจจุบัน ไม่น่าเชื่อว่านิตยสารบางฉบับที่เคยโด่งดังเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ต้องปิดตัวลงเพราะโลกออนไลน์ นิตยสารอยู่ได้เพราะโฆษณาต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันการโฆษณาขายสินค้ายังคงมีอยู่แต่เปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ไม่ใช่เฉพาะบนนิตยาสารหรือหนังสือเท่านั้นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ ร้านหนังสือคิโนะคูนิยะ (kinokuniya) คือเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว พร้อม ๆ กับการเปิดห้างสยามพารากอน ดูจากรายการทีวี และบอกว่ามีสาขามาเปิดที่สยามพารากอน ด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัดก็อยากจะไปมาก พอไปก็พบว่าเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่และมีหลายหมวดหมู่มาก หลากหลายภาษาความสุขของการเข้าร้านหนังสือคือการได้ดูและเปิดอ่าน บางเล่มเขาก็หุ้มพลาสติกไว้เป็นสิ่งที่น่าท้าทายว่าร้านหนังสือจะดำเนินอยู่ต่อไปได้ไหม หรือจะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างไร แต่ก็พบว่าหลายแห่งก็มีการขายสินค้าเพิ่มขึ้น มีคาเฟ่ด้วย ซึ่งก็อาจจะยังคงช่วยให้ร้านหนังสือใหญ่ ๆ ยังคงอยู่ต่อไปได้ หรืออาจจะมีการเพิ่มส่วน co-working space ร้านอาหาร ที่พัก หรือสปา ก็อาจจะเป็นไปได้หมดถ้าใครมีเวลาว่างหรือเหนื่อยกับการเลือกซื้อของในห้างแล้ว ก็อยากจะลองแนะนำให้เข้าไปที่ร้านหนังสือคิโนะคูนิยะได้ มีหลายสาขา เช่น สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ เอ็มควอเทียร์ บางทีก็จะมีหนังสือที่จัดโปรโมชั่น ลดราคาเพียงเหลือ 100 บาท ไว้ให้เลือกซื้อกันด้วยขอขอบคุณ TrueID In-Trend เพลตฟอร์มสำหรับทุกคน แชร์ทุกความหลงใหล และ Lifestyle ของคุณภาพถ่ายโดยผู้เขียนFacebook Page เที่ยวไปให้รู้ Travel & Learn