อื่นๆ

เล่าเรื่องจริง: คดีฆาตกรรมปิตุฆาต

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เล่าเรื่องจริง: คดีฆาตกรรมปิตุฆาต

เมื่อเด็กอายุเพียงสี่ขวบเป็นพยานในคดีฆาตกรรมสามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่ถูกยิงในห้องนอนขณะกำลังหลับ เด็กคนนี้ให้ข้อมูลกับตำรวจจากสิ่งที่เขาเห็น "มังกรสีเขียว" ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์กับการสืบสวนคดีและทำให้ยืนยันได้ว่าเด็กคนนี้ได้เผชิญหน้ากับคนร้ายจริงๆ

เช้าตรู่วันหนึ่งครูอนุบาลของโบสถ์ที่อยู่ในชุมชนเล็กในสหรัฐอเมริกาได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง เมื่อเปิดดูเห็นเด็กชายที่เป็นนักเรียนยังอยู่ในชุดนอนและใส่รองเท้าบูทยืนอยู่เพียงคนเดียว เด็กน้อยร้องตะโกนบอกคุณครูให้ไปดูตาและยายของเขาหน่อยเพราะทั้งสองคนกำลังละลายอยู่บนเตียง คุณครูโทรหาตำรวจพร้อมขอความช่วยเหลือตามคำบอกเล่าของเด็กชายคนนี้

เครดิตภาพโดยผู้เขียน

เมื่อตำรวจไปตรวจสอบเห็นศพสามีภรรยาวัยเกษียณถูกยิงประชิดตัว จากบาดแผลที่เกิดขึ้นทำให้ทราบว่าสามีถูกยิงก่อนเพราะภรรยามีลักษณะยกแขนป้องกันตัวและน่าจะตื่นขึ้นมาจากเสียงปืนที่ยิงสามี สามีภรรยาคู่นี้คือ แจ็คและลินดา ทั้งคู่เป็นสามีภรรยาที่แต่งงานกันในวัยเกษียณ ทั้งคู่มีครอบครัวแรกของตัวเองมาก่อนและเด็กชายวัยสี่ขวบเป็นเหลนที่นำมาเลี้ยงเพื่อช่วยหลานสาวที่กำลังลำบาก

Advertisement

Advertisement

การฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมและไม่มีของมีค่าหายไปในที่เกิดเหตุทำให้แน่ใจได้ว่าเป็นเรื่องความแค้นส่วนตัว ทำให้มีการสอบปากคำคนรอบข้างทุกคน รวมทั้งลูกชายและลูกสาวจากครอบครัวเก่าของคนทั้งคู่ ลินดากับแจ็คมีกิจการร้านพิซซ่า และที่ดินการเกษตร และกิจการซื้อขายรถมือสอง เบื้องต้นตำรวจไม่พบความขัดแย้งทางธุรกิจ และคนในชุมชนก็รักและเคารพแจ็คและลินดา

เมื่อเด็กชายที่เป็นพยานไม่ถูกทำร้ายทำให้แม่แท้ๆของเด็กสงสัยพ่อของเด็กว่าจะพยายามเอาลูกชายของตัวเองกลับคืน ตำรวจขับรถไปที่เมืองที่พ่อของเด็กอาศัยอยู่เพื่อสอบสวน แต่ก็มีพยานยืนยันว่าพ่อของเด็กไม่ได้อยู่ในสถานที่เกิดเหตุในช่วงเวลานั้น

เมื่อเป็นเรื่องส่วนตัวลูกชายคนโตของแจ็ค "ทราวิส" จึงเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะมีคนเห็นว่าทะเลาะกันรุนแรงก่อนหน้านี้แต่ก็ไม่มีหลักฐานอื่นๆ ยืนยันว่าเขาเป็นผู้กระทำ

Advertisement

Advertisement

พยานคนแรกที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบคดี ว่าเช้าวันเกิดเหตุมีรถมินิแวนสีขาวขับสวนกันจากที่เกิดเหตุตอน 4:40 นาฬิกาซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะพยานขับไปทำงานทุกวัน

พยานอีกคนเป็นเพื่อนของเกร็ก ลูกชายของแจ็ค เขามาแจ้งกับตำรวจว่าเขาได้รับโทรศัพท์ของเกร็กว่าต้องการปืนมาใช้งานเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยเพื่อนคนนี้มีคดีติดตัวมาก่อน ทำให้พยานที่ไม่น่าเชื่อถือนักแต่เมื่อตรวจสอบบันทึกการใช้โทรศัพท์ก็พบว่าเขาทั้งสองคนได้คุยกันจริงๆ ตำรวจจึงเรียกเกร็กมาสอบสวน เขามาถึงด้วยความเครียดและขอถังขยะจากตำรวจเนื่องจากเขามีอาการคลื่นไส้ทั้งวัน ระหว่างการสอบสวน เกร็กพยายามให้ข้อมูลว่ามีคนน่าสงสัยคนอื่นๆ นอกจากเขา เมื่อถามถึงสถานที่ที่เขาอยู่ในช่วงเวลาเกิดเหตุ เขาตอบว่าเขาอยู่ที่ทำงาน ตอกบัตรเข้าทำงานตอน 5:23 นาฬิกา ซึ่งน่าสงสัยว่าทำไมเขาจำได้อย่างแม่นยำและย้ำเรื่องเวลาทำงานหลายรอบ ที่น่าสงสัยอีกอย่างคือเขาไม่โกรธเลยที่ตำรวจบอกว่าเขาเป็นผู้สงสัยฆาตกรรมพ่อของตัวเอง

Advertisement

Advertisement

เครดิตภาพโดยผู้เขียน

ขณะที่สอบสวนแฟนของเกร็กนั่งรออยู่ด้านนอก และถูกสอบสวนในเวลาต่อมา แฟนของเกร็กบอกว่าเธอก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเช้าตรู่วันเกิดเหตุเกร็กออกจากบ้านไปทำงานเช้าผิดปกติ เธอโทรหาเกร็กเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นแต่เขาไม่รับสาย ทำให้ตำรวจได้ช่วงเวลาที่แน่นอนในการก่อเหตุจากบันทึกการใช้โทรศัพท์ของแฟนเกร็กและคำจากพยานที่เห็นรถมินิแวน จากคำให้การของแฟนเกร็กทำให้เกร็กถูกจับจากการเป็นผู้ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตามตำรวจยังต้องสืบสวนต่อไปเพื่อทำคดีให้ถึงที่สุดเมื่อตรวจค้นที่บ้านเขาพบว่าเกร็กมีรถมินิแวนสีขาวและตำรวจได้ลองขับรถจากที่เกิดเหตุไปที่ทำงานของเกร็กเพื่อดูระยะเวลาที่ได้ข้อมูลมา ปรากฎว่าใช้เวลาได้ตรงกัน แต่ตำรวจก็ยังไม่มีวัตถุพยานที่ยืนยันตัวฆาตรกรได้เลย

การหาอาวุธในการใช้ก่อเหตุ ตำรวจโทรหาร้านขายปืนในเมืองเพื่อหาผู้ซื้อกระสุนตรงตามที่ตกในที่เกิดเหตุ และเมื่อเจอตำรวจได้ตรวจสอบว่ามีการจ่ายด้วยบัตรของขวัญตรงตามหมายเลขบัตรของขวัญที่เจอในกระเป๋าเงินของเกร็ก และที่สำคัญคือกล้องวงจรปิดที่ยืนยันได้ว่าเกร็กไปที่นั้นเพื่อซื้อกระสุนจริงๆ

เครดิตภาพโดยผู้เขียน

จากกล้องวงจรปิดตำรวจเห็นพฤติกรรมของเกร็กที่บอกถึงเจตนาอย่างชัดเจนในการวางแผนฆ่าพ่อของตัวเองและแม่เลี้ยง เกร็กพาลูกของเขาไปซื้อของด้วย โดยซื้อของให้ลูกและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในการฆาตรกรรม นอกจากปลอกกระสุนก่อนก่อเหตุเพียง 1วัน เกร็กได้ไปซื้ออุปกรณ์ที่เขานำมาดัดแปลงเพื่อทำปลอกเก็บเสียง และเป็นหลักฐานที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

ตำรวจยังค้นหาหลักฐานอื่นต่อโดยการค้นหาตามเส้นทางต่างๆ รอบเมืองที่คิดว่าเกร็กน่าจะทิ้งวัตถุพยานไว้ รวมทั้งแม่น้ำคลองต่างๆรอบเมือง และในที่สุดตำรวจก็เจออาวุธปืนตกอยู่ในลำคลองแห่งหนึ่งถึงแม้หมายเลขอาวุธจะถูกขูดเพื่อลบทำลายหลักฐาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ใช้สารเคมีเพื่อทำให้เห็นตัวเลขบางส่วนได้ เมื่อไปตรวจสอบในหนังสือพิมพ์ขายปืนตำรวจใช้บันทึกการใช้หมายเลขโทรศัพท์ตั้งแต่หมายเลขแรกก็มีการติดต่อจากเกร็ก และหนึ่งในนั้นก็ได้ขายปืนให้เกร็ก โดยตำรวจให้ผู้ขายปืนมาชี้ตัวผู้ซื้อที่สถานีตำรวจและเขาก็ชี้ตัวเกร็กอย่างไม่ลังเล

เครดิตภาพโดยผู้เขียน

แล้วในที่สุดหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดก็ได้ถูกค้นพบเมื่อตำรวจได้เจอถุงขยะสีดำใบหนึ่งในแม่น้ำ ในถุงดำนั้นมีชุดพลาสติกเต็มตัวสีเขียว ถุงมือยางใช้แล้ว ม้วนเทปพันสายไฟ รองเท้า อุปกรณ์ที่นำมาทำปลอกเก็บเสียง

จากคำบอกเล่าของเด็กชาย "มังกรสีเขียว" ตรงตามชุดที่พบ ถุงมือทำให้ตำรวจเจอลายนิ้วมือของเกร็ก จากปลอกเก็บเสียงที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุมีเทปกาวพันอยู่เมื่อนำมาเทียบกับม้วนเทปกาวที่เจอสามารถต่อกันได้สนิท รองเท้ามีรอยที่ตรงกับที่เจอตรงหน้าต่างที่งัดเข้าไป

หลังจากที่เกร็กถูกจับครอบครัวของเกร็กให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจว่าก่อนหน้านี้เกร็กมายืมเงินกับแจ็คพ่อของเขาแต่พ่อของเขาไม่ให้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาวางแผนฆาตกรรม เขายังเชื่อด้วยว่าเขาจะได้รับมรดกและเงินจากประกัน หลังจากที่พ่อเขาถูกฆาตกรรมเขาถามตำรวจเรื่องมรดกและเงินประกันทันที

จากหลักฐานที่พบทำให้ศาลตัดสินเกร็กผิดทุกข้อหาและจำคุกตลอดชีวิต

เล่าเรื่องจริง

เครดิตภาพโดยผู้เขียน


เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์