พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระพุทธรูปที่หล่อมาจากทองคำแท้ทั้งองค์ที่กินเนสบุ๊คได้มีการบันทึกเอาไว้ว่าเป็นพระพุทธรูปทองทำแท้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีน้ำหนักถึง 5.5 ตัน (5,500 กิโลกรัม)ตามคำบอกเล่าสืบต่อกันมาและประวัติของทางวัด สันนิฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญมากองค์หนึ่งตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย ที่มีการบันทึกไว้ว่า เป็นพระพุทธรูปทองคำแต่ด้วยวิถีในสมัยก่อนที่มีการสู้รบกันไปมาระหว่างอาณาจักร จึงมักการนำปูนมาพอกองค์ และลงรักปิดทององค์พระเพื่อเป็นการอารักขาภัยองค์พระพุทธรูป ไม่ให้ถูกเผาทำลายเพื่อหลอมเอาทองไป จนเวลาล่วงมาถึงสมัย ร.๑ ทรงมีพระราชประสงค์ให้ชะลอองค์พระพุทธรูปต่าง ๆ จากสุโขทัยมาไว้ที่กรุงเทพมหานคร จนพระพุทธรูปองค์นี้ได้มาประดิษฐานอยู่ที่วัดพระยาไกร (บริเวณเอเชียทีคในปัจจุบัน) แต่ต่อมา วัดพระยาไกรร้างลง เหลือพระพุทธรูปปูนองค์นี้ไว้ซึ่งวัดไตรมิตรก็ได้รับพระพุทธรูปองค์นี้มา แต่ทางวัดยังไม่มีปัจจัยในการสร้างวิหาร พระพุทธรูปองค์นี้ก็ตากแดดตากฝนอยู่เป็นเวลาถึง 20 ปี การสร้างวิหารใหม่แล้วเสร็จจึงทำการเคลื่อนย้ายองค์พระเพื่อนำเข้าไปประดิษฐานที่พระวิหาร แต่ระหว่างการเคลื่อนย้าย สายยกได้ขาด องค์พระจึงได้หล่นกระแทกพื้นและปูนที่พระอุระ (หน้าอก) ได้กระเทาะแตกออก เผยให้เห็นเนื้อทองคำแท้สุกสว่างขององค์พระ จึงเป็นที่ประจักษ์แกทุกคนว่าท่านเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ที่งดงามและประเมินค่ามิได้ผู้คนมากมายมีความศรัทธาและโดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนละแวกวัดมีความเชื่อกันว่า การกราบไว้ขอพระพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรที่วัดไตรมิตรนี้จะส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในเรื่องการงานและเงินทอง โดยมีพื้นฐานความเชื่อดังนี้วัดไตรมิตรวิทยารามนี้ เดิมชื่อวัดสามจีน เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยพ่อค้าชาวจีน 3 ท่าน ที่เดินทางเข้ามาค้าขายและอาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้ประกอบกิจการค้าจนมีเงินทองขึ้นมา และมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก จึงได้ลงขันกันสร้างวัดไตรมิตรแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อสืบทอดพระศาสนา และให้มีสถานที่ประกอบศาสนกิจในชุมชนที่พวกตนอยู่อาศัยและทำมาหากิน จึงมีความเชื่อกันว่าหากอยากมีกิจการงานที่มั่นคง มีการเงินที่มั่งคั่งและมีมิตรที่ดีแบบท่านผู้สร้างวัดทั้งสามท่านนี้ก็ควรจะมาทำบุญและกราบขอพรที่วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำแท้ ซึ่งแต่เดิมมีการพอกปูนและลงรักปิดทองไว้ จึงไม่มีใครเลือกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดไหน เหลือท่านเพียงองค์เดียวไว้ให้กับวัดไตรมิตรซึ่งผู้คนเชื่อกันว่าท่านทรงเลือกเองที่จะมาประดิษฐานอยู่ที่วัดไตรมิตรนี้บริเวณวัดไตรมิตร ถือเป็นพื้นที่บริเวณหัวมังกร ตามความเชื่อของชาวจีนในประเทศไทย เป็นจุดเริ่มต้นของเยาวราช ซึ่งทุกคนในประเทศไทยรู้จักกันดีว่าเป็นถนนสายทองคำ เป็นถนนที่การค้าขายคึกคักที่สุดในกรุงเทพมหานคร ผู้คนที่ทำมาค้าขายในย่านนี้ก็มีความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงขึ้นมาเป็นลำดับด้วย 3 เหตุหลัก ๆ นี้เองทำให้ผู้คนต่างมีความเชื่อว่าการมาทำบุญและกราบไหว้พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรที่วัดไตรมิตรแห่งนี้จะทำให้ตนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงิน และมีความมั่นคงในชีวิต โดยเฉพาะในเทศกาลตรุษจีน ผู้คนจะหลั่งไหลกันมาวัดนี้อย่างเนืองแน่นทุกปีการบูชาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรนั้นก็เป็นธรรมเนียมการเข้ากราบพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยกัน จะมีชุดดอกไม้ ธูป เทียน ของทางวัดที่จัดไว้ให้บูชากัน แต่ในช่วงนี้ที่เป็นภาวะโควิด-19 ระบาด การจะเวียนดอกไม้บูชาพระก็ไม่น่าจะเป็นการถูกสุขลักษณะนัก เราอาจจะเตรียมนำดอกไม้มาเอง แนะนำว่าควรเป็นพวงมาลัยดอกมะลิ หรือ พวงมาลัยดอกดาวเรืองคนละ 1 พวง ไม่ต้องจุดธูปเทียน นำดอกไม้ไปกราบอธิษฐานขอพรด้านหน้าองค์หลวงพ่อ โดยทางวัดมีการจัดที่นั่งปูพรหมสีแดงเอาไว้ให้กราบขอพร แต่อีกหนึ่งวิธีของพุทธศาสนิกชนคือการตั้งจิต ตั้งใจมั่นในการกราบบูชาพระด้วยหัวใจของเราที่มีความเคารพนอบน้อมเป็นสูงสุด มีสมาธิและกล่าวคำบูชาพระที่ถูกต้องก็จะช่วยให้เราสื่อสารกับท่านได้ โดยคาถาบูชาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรนี้ได้ยกเอาการสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้าทั้ง ๒๘ พระองค์ไว้ในพระคาถาด้วยดังนี้ พระคาถาบูชาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำสุโขทัยไตรมิตร)นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)อิ สวา สุ สวา สุ อิ สุ สวา อิ พุทธปิติอิ นะชาลีติ ประสิทธิ เมนะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินังตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโสสะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโรโกณทัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโค ปุริสาสะโภสุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโนโสภิโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโมปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถีปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโลสุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภอัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโทสิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโรปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโมสิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโกกะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโฆกัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักยะปุงคะโวต*หมายเหตุ : พระคาถาปรากฎอยู่ที่หน้าองค์หลวงพ่อทองคำ ซึ่งทางวัดจัดไว้ให้ประชาชนทั่วไปได้สวดถวาย เมื่อลงมากจากพระวิหารแล้ว มีอีก 2 แห่งที่แนะนำให้เข้าไปกราบสักการะในวัดไตรมิตรด้วยคือ พระอุโบสถ์ที่ประดิษฐาน “พระพุทธทศพลญาณ” หรือชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อโตวัดสามจีน” เนื่องด้วยการค้าขายในสมัยก่อนมักจะเป็นการโล้สำเภามาจากประเทศจีน ชาวจีนส่วนมากจะมีความเชื่อว่าหลวงพ่อโตจะทรงช่วยปกป้องอันตรายจากการเดินทางและการขนสินค้ามาขายได้อย่างราบรื่นและเกิดความเจริญรุ่งเรืองไม่ว่าจะเดินทางไปไหนทั่วทุกสารทิศ (ทิศทั้งสิบ)และสุดท้ายก่อนกลับ ไม่อยากให้พลาดการกราบสักการะและขอพรอย่างใกล้ชิดกับหอพระบรมสารีริกฐานของพระพุทธเจ้าทั้ง ๒๘ พระองค์และพระปัจเจกพระพุทธเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุดของชีวิต และขอให้พรต่าง ๆ ที่มากราบขอเกิดความสำเร็จดังปรารถนาด้วยค่ะการเดินทางมาวัดไตรมิตรก็สะดวกสบายนะคะ จะขับรถส่วนตัวมาก็ได้ ทางวัดมีที่จอดรถรับรองได้พอประมาณ หากต้องการเดินทางมาด้วยรถเมล์ ก็มีรถเมล์หลายสายผ่านหน้าวัดได้แก่ สาย 4, ปอ.4, ปอ.7, 25, 40, ปอ.40, 53 หรือสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ลงที่สถานีหัวลำโพง หรือรถไฟใต้ดินลงที่สถานีหัวลำโพงเช่นกันแล้วเดินต่อมาที่วัดได้เลยค่ะแผนที่ : วัดไตรมิตรวิทยารามภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”