คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ. ถือเป็นหน่วยงานสำคัญของระบบการศึกษาไทย โดยมีหน้าที่สำคัญ คือ การดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย จนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย การดูแลของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ. จึงมีความสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของนักเรียนก่อนก้าวเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาเป็นอย่างมาก นโยบายสำคัญล่าสุดที่น่าสนใจของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ. คือ การวัดแววความสามารถพิเศษด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เป็นแนวทางการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพนักเรียนบนฐานพหุปัญญา ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสำคัญของการวัดแววความสามารถพิเศษ คือ การพัฒนาศักยภาพผู้เรียนบนพื้นฐานของทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มทักษะพื้นฐาน (Foundation Literacies) กลุ่มทักษะด้านการจัดการปัญหา (Competencies) และกลุ่มด้านคุณลักษณะ (character qualities) โดยครูผู้สอนจำเป็นจะต้องวิเคราะห์ความสามารถของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสามารถออกแบบแผนพัฒนาผู้เรียนรายบุคคลได้ชัดเจน และถูกต้อง ผ่านกระบวนการสำรวจวัดแววความสามารถพิเศษ ก่อนหน้านี้กระบวนการสำรวจวัดแววความสามารถพิเศษ เป็นเรื่องยาก เพราะครูผู้สอนต้องพัฒนาเครื่องมือกการวัดแววเอง ดังนั้นเมื่อทางคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ. ได้เล็งเห็นความสำคัญในส่วนนี้จึงได้มี การวัดแววความสามารถพิเศษด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสะดวกในการใช้งานสำหรับครูผู้สอน ทำให้การพัฒนาผู้เรียนให้ตรงตามตัวชี้วัดคุณภาพของผู้เรียนที่ต้องมีศักยภาพด้านความรู้ ด้านทักษะอาชีพ ด้านทักษะชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของการเสริมสร้างศักยภาพนักเรียนบนฐานพหุปัญญา ซึ่งเป็นการพัฒนาผู้เรียนในรูปแบบที่หลากหลาย ส่งเสริมให้ผู้ที่มีความสามารถพิเศษนำไปต่อยอดการสร้างอาชีพได้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งการพัฒนารูปแบบการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น และความถนัดรายบุคคล โดยการพัฒนาผู้เรียนบนฐานพหุปัญญา ครูผู้สอนต้องเน้นที่กระบวนการเรียนรู้ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม และวิธีการสอนเหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างสุดความสามารถ สรุปได้ว่า การวัดแววความสามารถพิเศษด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกมาล่าสุดนี้ ถือได้ว่ามีประโยชน์อย่างมากในการเสริมสร้างศักยภาพนักเรียนบนฐานพหุปัญญา ครูสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนการสร้างหน่วยการเรียนรู้ จัดแผนการเรียนรู้รายบุคคล และออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ โรงเรียนใช้ข้อมูลในการส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน ส่วนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ใช้ในการขับเคลื่อคุณภาพการศึกษาระดับเขต ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำข้อมูลที่ได้จากทั้งประเทศมาใช้ในการกำหนดนโยบายทางการศึกษาเครดิตรูปภาพหน้าปก by stokpic from Pixabayภาพที่ 1 โดย ArtsyBee จาก Pixabayภาพที่ 2 โดย White77 จาก Pixabayภาพที่ 3 โดย klimkin จาก Pixabayภาพที่ 4 โดย NWimagesbySabrinaEickhoff จาก Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !