“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564 ในวันที่อากาศดีมากยามเช้าวันนี้หนุ่ม-สุทนพานั่งเขียนเล่าเรื่องให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวเหมือนเดิมครับ สำหรับวันนี้พาทุกท่านไป กราบขอพร "องค์เจ้าแม่ทับทิม" ศาลเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่เชิงสะพานซังฮี้ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ศาลเจ้าแม่ทับทิม อยู่เชิงสะพานซังฮี้ พาทุกท่านไปรู้จัก "ศาลเจ้าแม่ทับทิมหรือตุ่ยบ๊วยเต็งเหนี่ยง" เทพเจ้าแห่งสายน้ำชาวจีนในเกาะตอนใต้สุดของจีนแผ่นดินใหญ่หรือประเทศจีนทุกวันนี้ ส่วนองค์เจ้าแม่ทับทิมพบครั้งแรกที่เกาะตอนใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ชาวประมงทะเลคือชาวจีนไหหลำออกทะเลจับปลาก็พบขอนไม้ลอยมาติดข้างเรือแล้วพบสิ่งมหัศจรรย์ แล้วเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในท้องทะเล จึงนำมาแกะสลักเป็น องค์เจ้าแม่ทับทิม ตามความเชื่อของชาวจีนไหหลำเมื่อครั้งอดีตกาล สำหรับศาลเจ้าแม่ทับทิม แห่งนี้ตั้งอยู่เชิงสะพานซังฮี้ ซึ่งแต่เดิมคือทุ่งนาสามเสนเขตพระนครหรือวังหลวงกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนความเป็นมาของศาลเจ้าแม่ทับทิมนั้นหนุ่ม-สุทนขอเขียนเล่าเรื่องให้นักอ่านทุกท่านอ่านและศึกษาแบบเข้าใจง่ายเป็นเรื่อง ๆ ไปครับ โดยเริ่มต้น เรื่องที่ 1 ในปี พ.ศ. 2385 ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีชาวจีนไหหลำจากเกาะตอนใต้สุดของแผ่นดินจีนหรือประเทศจีนในปัจจุบันได้ขออาศัยเรือสำเภาซึ่งเป็นเรือสินค้าเดินทางมากรุงรัตนโกสินทร์หรือประเทศสยามเมื่อครั้งกระนั้น การเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลของชาวจีน ในสมัยนั้น มักจะบนบานศาลกล่าวถึงองค์เจ้าแม่ทับทิมที่ประดิษฐานอยู่ในเกาะตอนใต้สุดของแผ่นดินจีนเพาะชาวจีนไหหลำเคารพนับถือมาก ๆ ก็จะขอให้เดินทางถึงแผ่นดินสยามด้วยความปลอดภัย เรื่องที่ 2 เมื่อเรือสำเภาเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายราตรีก็มาขึ้นที่ทุ่งนาสามเสนเมื่อครั้งกระนู้น!!! เป็นทุ่งนาอุดมสมบูรณ์แต่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นชุมชนตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีชาวญวนจากเวียดนามอพยพหนีภัยสงครามเข้ามาพึ่งพระบารมีสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์ท่านทรงโปรดฯ ให้ตั้งบ้านเรือนและทำนาข้าวอยู่ในบริเวณนี้ ส่วนชาวโปรตุเกสสันนิษฐานว่าน่าจะเข้ามาเมื่อครั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ต่อมาคือชาวเขมรหรือกัมพูชา แล้วก็ชาวจีนไหหลำพอชาวจีนมาตั้งบ้านเรือนแล้วก็ร่วมกันสร้างศาลขึ้นเป็น "ศาลเจ้าแม่ทับทิม" ลักษณะเป็นศาลไม้เล็ก ๆ อยู่ริมน้ำเจ้าพระยาในปี พ.ศ. 2394 ซึ่งตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตอนนั้นเป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าและมีวัดตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันคือ วัดส้มเกลี้ยงหรือกาลเวลาต่อมาคือวัดราชผาติการามวรวิหาร แล้วต่อมาชาวจีนไหหลำหรือชาวจีนที่เข้ามาอยู่ในสยามประเทศ (เปลี่ยนชื่อมาเป็น "ประเทศไทย" ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2482-2484) ได้มาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าแม่ทับทิมแล้วประสบผลสำเร็จในธุรกิจการค้า จึงสร้างศาลเจ้าแม่ทับทิมขึ้นมาใหม่เป็นลักษณะศาลเจ้าแบบเก่งจีนสวยงาม ถึงทุกวันนี้ครับ ศาลเจ้าแม่ทับทิม สวยงามมากครับ สำหรับเรื่องที่ 3 สะพานกรุงธน หรือสะพานซังฮี้สร้างขึ้นมาที่หลังศาลเจ้าครับ สร้างขึ้นสมัยรัฐบาลท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม ในปี พ.ศ. 2497 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2501 ซังฮี้เป็นชื่อเครื่องถ้วยชามของชาวจีนลักษณะลวดลายสวยงามถือว่าเป็นชื่อมงคลแปลว่า "ยินดี" สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสันนิษฐานว่ามีขายมากที่ถนนข้าง ๆ พระราชวังดุสิต จึงเป็นที่มาของชื่อถนนซังฮี้และเป็นที่รู้จักของชาวสยามเมื่อครั้งกระนั้นพอสร้างสะพานข้ามฝั่งพระนครไปฝั่งธนบุรีชาวพระนครจึงเรียกชื่อ "สะพานซังฮี้" ส่วนชื่อทางราชการคือ "สะพานกรุงธน" ก็เลยทำให้ศาลเจ้าแม่ทับทิมอยู่เชิงสะพานซังฮี้ครับ สะพานกรุงธน หรือสะพานซังฮี้ ท่านผู้อ่านทุกท่านถ้าหากเดินทางไปกราบบูชาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าแม่ทับทิมไปได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ภายในศาลเจ้าแม่ทับทิมการกราบบูชานั้นจะมีจุดแนะนำให้ทั้งหมดครับ เราควรเริ่มตามจุดและจบตามที่ป้ายแนะนำได้เลยครับ เพื่อให้ทุกท่านได้สมหวังสมปรารถนากันทุกท่านครับ สำหรับ การขอพรองค์เจ้าแม่ทับทิมหรือตุ่ยบ๊วยเต็งเหนี่ยงนั้น สามารถกราบขอพรได้ตามความเชื่อของแต่ละคนได้เลยครับ โดยส่วนใหญ่ก็จะขอเรื่องการค้า การลงทุนและเรื่องสุขภาพกายให้แข็งแรง ขอโชคลาภ ขอให้มีบุตรหรือจะขอเรื่องความรักก็ได้เช่นกัน ส่วนของที่จะแก้บนขอยกตัวอย่าง เช่น การแสดงงิ้วและโปรยทานในการแสดงงิ้วหรือแก้บนด้วยขนมบ๊ะจ่างและขนมหวานต่าง ๆ หรือจะเป็นผลไม้ก็ได้ครับ ส่วนนี้สามารถติดต่อที่ศาลเจ้าได้ครับ หรือการแก้บนด้วยอย่างอื่นก็สามารถเตรียมไปตามสะดวกอันนี้แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละท่านได้เลยครับ ภายในศาลเจ้าแม่ทับทิมยังมีจุดให้บริการเทียนสีแดงขนาดใหญ่ จุดเพื่อสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตาให้เจริญรุ่งเรืองตลอดไปทุกท่านสามารถบูชาแล้วนำไปจุดได้ครับ จะจุดที่มีบูชาอยู่แล้วหรือจะบูชาใหม่เป็นชุดของตัวเองเพื่อถวายองค์เจ้าแม่ทับทิมก็ได้เช่นกันครับ กราบขอพร องค์เจ้าแม่ทับทิม คือจุดสำคัญที่สุดภายในศาล จุดแดงสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตาให้เจริญรุ่งเรืองตลอดไป ถวายข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อร่วมบุญแจกให้ผู้ยากไร้ ศาลเจ้าแม่ทับทิม เชิงสะพานซังฮี้ถนนราชวิถี แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อกราบขอพรเจ้าแม่ทับทิมแล้วเสร็จ ขอบอกในบริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิมมีร้านขนมจีนไหหลำ เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ลองชิมขนมจีนไหหลำคล้าย ๆ ก๋วยเตี๋ยวหมูรสชาติน้ำซุปอร่อยมากครับ แต่ขอบอกเป็นเพียงร้านขนมจีนไหหลำเล็ก ๆ เท่านั้นครับ ซึ้งลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนในชุมชนใกล้ ๆ ศาลเจ้าครับ ร้านเจ๊นิตขนมจีนไหหลำ ภายในศาลเจ้ามีที่จอดรถสะดวกครับ สำหรับการเดินทางไปศาลเจ้าแม่ทับทิมถ้าใช้บริการรถเมล์ประจำทางมีสาย 28 สาย 56 และรถเมล์ปอ.515 ลงป้ายรถเมล์ก่อนขึ้นสะพานกรุงธนหรือสะพายซังฮี้ครับเดินทางสะดวกท่องเที่ยวสะบายใจ สำหรับในช่วงนี้ศาลเจ้าเปิดให้เข้าได้ตามปกติทุกท่านต้องปฏิบัติตามกฏคือใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด 19 การเดินทางก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษครับ “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับ ไปกราบขอพร องค์เจ้าแม่ทับทิม กันครับ ขอให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองตลอดไป เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟสบุ๊ก : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ 0869992756 #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !