กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัดวังงามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย กรุงเทพฯ เมืองแห่งความน่าประหลาดใจ พูดแบบนี้ผู้อ่านอาจจะนึกไม่ออกว่าเมืองที่เราอยู่มีอะไรสิ่งที่น่าประหลาดใจด้วยหรือ ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ตามที่ได้อ่านกันไปข้างต้น คำขวัญจังหวัดที่ดูจะสั้นกว่าชื่อเต็มและชื่อเต็มที่ดูจะยาวที่สุดในโลก แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องราวที่ทุกคนต่างรับรู้กันอยู่แล้ว วันนี้เราจึงขอพูดความน่าประหลาดใจอีกสิ่งที่ได้เห็นกันในช่วงนี้ นั้นก็คือ การหยุดพักผ่อนของทั้งสิ่งก่อสร้างและผู้คนโดยนัดหมาย ย้ำว่าโดยนัดหมาย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้เห็นภาพแบบนี้ในเมืองหลวงของไทย เมืองหลวงที่เป็นดั่งสรวงสวรรค์ของคนมีฐานะ กลับกันเมืองแห่งนี้ก็เป็นนรกในชีวิตจริงให้กับคนที่ต้องพึ่งพากำลังกายเพื่อต่อสู้กับค่าแรงรายวันเช่นกัน โลกมันมีสองขั้วเสมอ สัจธรรมในชีวิตที่ว่าเหรียญมีสองด้านยิ่งเห็นชัดมากยิ่งขึ้นในสภาวะที่โลกโหดร้ายกับเราแบบนี้ หากพูดถึงเมืองท่องเที่ยว มีไม่กี่เมืองที่เรามีภาพในหัวโผล่ขึ้นมาทันที หากให้เขียนเป็นช้อยส์ มั่นใจว่าหนึ่งในสามต้องมีเมืองหลวงแห่งนี้อยู่แน่นอน เมืองที่ไม่รู้จักหลับนอน เมืองที่สามารถเดินออกไปจากแหล่งที่อาศัยเพื่อหาของกินและที่ท่องเที่ยวได้เสมอ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องมลพิษทางอากาศและเสียง เมืองที่ต้องเผื่อเวลาก่อนออกจากบ้านหนึ่งถึงสองชั่งโมง เมืองที่กำลังเงียบสงัดโผล่ให้เห็นเพียงไฟสีเหลืองอ่อนยามค่ำแทนที่จะเป็นไฟจากหน้าป้ายร้านให้บริการทางใจนับหมื่นนับแสนล้าน ในวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพที่ได้เห็นตอนนี้พาใจที่มีหล่นหายไปไม่ใช่น้อย แต่เหมือนที่กล่าวไว้ว่าเหรียญมีสองด้าน ตราบใดที่โลกยังคงอยู้ให้ตัวเราได้ยืนหยัดและใช้ชีวิต ตราบนั้นก็ยังนับเป็นสิ่งที่ดีงามเสมอ ต่อให้วันนี้ภาพที่เห็นจะพาใจหรือวิถีชีวิตของเราหล่นหายไปบ้างแต่เหรียญอีกด้านก็อดชื่นชมไม่ได้เลยว่ามันเกิดจากการเคารพกฏหมายและเคารพซึ่งกันและกัน ในคราที่เมฆก้อนใหญ่ปกคลุมผืนฟ้ามันให้ความร่มเย็นก็จริงแต่เราก็ย่อมรู้ว่าหลังจากนั้นฝนจะตก และแน่นอนว่าผู้ใดมีร่มย่อมไม่เปียกปอน เตรียมพร้อมเถิด โลกยังจะสอนเราอีกมาก