กรุงเทพฯ เมืองฟ้า #1 ชีวิตในเมืองกรุงนั้น ต่างคนต่างเร่งรีบ ทำตามความฝันของตนเองหรือเพื่อคนอื่น จนอาจลืมการพักผ่อนของชีวิต ครั้งนี้เลยขอนำเสนอการเที่ยวแบบ Haft-day trip ครึ่งวันก็เที่ยวได้ สายบุญต้องตาม สายใกล้บ้านต้องลอง เข้าวัดไหว้พระ อาหารอร่อยเข้าปาก เราเริ่มต้นออกการเดินทางในครั้ง ณ. เวลา 12.29 น. ที่พิกัด 13.752653,100.493997 เอาฤกษ์ เอาชัยเริ่มต้นกันที่ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญต้นๆของบ้านเมือง ถือเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของประชาชนในแต่ละเมือง และเพื่อความสิริมงคลของบ้านเมืองและตัวเอง โดยสังเกตได้จากผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาไหว้ขอพร อย่างไม่ขาดสาย เดินข้ามมาอีกฝั่งตรงข้ามศาลหลักเมือง คือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พิกัด 13.751387,100.493247 เป็นพระอารามหลวงในพระบรมมหาราชวัง ภายในประดิษฐาน "พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร" เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย หลังจากเดินชมความงามของสถาปัตยกรรมจนถึงเวลา 14.02 น. ซึ่งเลยมื้อเที่ยงมานานเราจึงนั่งเรือข้ามฟากจากท่าช้างไปยังท่าพรานนก เพื่อหาของกิน ณ. ตลาดวังหลัง พิกัด 13.755200,100.484854 แหล่งช้อปปิ้งสุดชิคของทุกวัย ซึ่งจะพลาดไม่ได้เลยกับการต่อคิวอันยาวนานของซูชิวังหลัง byอรทัย เมื่อถึงเรียกคิวของเรา ก็จัดเต็มสั่งทั้งซาซิมิ ซูชิหลากหลายหน้าและถึงจะขึ้นต้นชื่อร้านว่าเป็นร้านซูชิ แต่ของคาวไปแล้วของหวานต้องมาเพื่อล้างปากกันซะหน่อย กับบิงซูสตรอว์เบอร์รี หวานหอมชื่นใจ หลังจากท้องเราอิ่มเราก็ออกเดินทางกันต่อดวยการนั่งตุ๊กๆ (TUK-TUK คนละ10บาท) สามล้ออันเป็นเอกลักษณ์เด่นของกรุงเทพฯ [ถ้าเที่ยวกรุงเทพฯแล้วไม่ได้นั่งตุ๊กๆถือว่าไม่ถึงกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้] มุ่งหน้าสู่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) พิกัด 13.743310,100.488732 วัดที่ความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่ประดับด้วยเซรามิกในอดีตอันประเมินค่าไม่ได้ โดยวัดแห่งนี้ได้เป็นแหล่งยอดฮิตสำหรับการถ่ายรูปของนักเที่ยวไทยและเทศ เพื่อแสดงว่ามาเยือนกรุงเทพฯ แห่งนี้ไปแล้ว ใกล้เย็น พลบค่ำเข้ามาแล้วยังเหลืออีกหนึ่งสถานที่นั้นคือวัดโพธิ์ เราจึงนั่งเรือข้ามฟากกลับฝั่งพระนคร โดยนั่งจากท่าเรือข้ามฝากวัดอรุณฯ ไปยังท่าเตียน แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อยก้จะพบกับวัดโพธิ์ (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร) พิกัด 13.746575,100.491864 ซึ่งประดิษฐานพระไสยาส พระพุทธรูปขนาดใหญ่ติดอันดับต้นๆของประเทศไทย ภายในบริเวณวัดจะพบกับ ฤาษีดัดตน ศาสตร์กายภาพบำบัดของไทย ที่ใช้สอนผ่อนคลายจนถึงปัจจุบัน และตุ๊กตาจีนแต่งกายแบบฝรั่ง ที่เรามักจะทักเรียกว่าตัวอับเฉา นั้นไม่ใช่อับเฉา แต่เป็นมาร์โคโปโล ฝรั่งคนแรกที่เดินทางเข้าจีนต่างหาก และยังมีพระมหาเจดีย์สี่รัชกาลซึ่งเป็นเจดีย์ย่อไม้สิบสอง ประดับกระเบื้องเคลือบและกระเบื้องเครื่องถ้วยลวดลายต่างๆรวมทั้งพระระเบียง ที่สร้างรอบพระอุโบสถถึง 2 ชั้น โดยแบ่งเป็นชั้นใน 150 องค์ ชั้นนอก 244 องค์ สุดท้ายก่อนกลับ หลังจากเดินทางเหนื่อยมาทั้งวั้น เราแวะพักผ่อนดื่มดำบรรยากาศของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าผ่านหลังวัดอรุณฯ และชมเรือต่างๆที่ล่องอยู่แม่น้ำเจ้าพระยา ในยามย่ำค่ำ ที่ The deck by arun residence พิกัด 13.744870,100.491206 "การเดินทางนั้นมีคุณค่าเสมอ อย่าใช้ขออ้างเรื่องเวลามาจำกัดการเรียนรู้และพบโลกกว้างของคุณ" พบกันใหม่ทริปหน้า^^ เรื่องและภาพ: Journey NORTHi