งานสำคัญก็จริง แต่สุขภาพก็สำคัญเช่นกันจริงไหมเมื่อพูดถึงงานในยุคปัจจุบัน สำคัญมากสำหรับนักศึกษาจบใหม่ การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยว่ายากแล้วการหางานก็ยิ่งยากกว่า ไปสมัครงานที่ไหนส่วนใหญ่มักจะพิจารณาคนที่มีประสบการณ์ก่อนเสมอ กว่าจะได้งานทำไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และยิ่งยากกว่าการหางานคือการได้งานทำ สังคมในการทำงานไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้เลย ต้องชิงดีชิงเด่นให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับของหัวหน้างานหรือต้องสร้างผลงานตัวเองเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงาน ซึ่งบทความนี้ทางผู้เขียนจะมาแชร์ประสบการณ์ตัวเองว่างานสำคัญก็จริง และสุขภาพสำคัญเช่นกันจริงไหมเราชื่อ กระปุกออมสิน เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ปัจจุบันเราเป็นคนว่างงาน ไม่มีงานทำประจำ แต่ก่อนที่จะว่างงานก่อนหน้านี้เราก็มีงานทำ แต่ด้วยความที่ เราเวลาทำอะไรมักจะทุ่มเทกับสิ่งที่ทำเสมอ เราเคยทำงานกับหน่วยงานเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเข้าข้างเยอะพอสมควร เราใช้ระยะทำงานแค่ 5 ปี ได้เป็นผู้จัดการสาขา การได้เป็นผู้จัดการของเราได้มาไม่ง่ายเลย ต้องผ่านอุปสรรคมากมายในการทำงาน เรียกว่าเวลาที่มีได้ทุ่มเทกับงานไปมาก ทำงานเป็นห่วงงานมากกว่าเป็นห่วงตัวเอง กลัวว่างานออกมาไม่ดี กลัวว่าจะมีปัญหากับเจ้านาย จึงทำให้เราทุ่มเทกับงานจนลืมดูแลตัวเอง เข้างานเช้า ออกจากที่ทำงานดึก จนมีวันหนึ่งเราล้มป่วยด้วยการพักไม่เพียงพอ พักผ่อนน้อย กินอาหารไม่ตรงเวลา เป็นกระเพาะ ส่งผลถึงสุขภาพของเราย่ำแย่ ต้องเข้ารักษาตัวและต้องไปหาหมอตามนัดตลอด จนวันหนึ่งเราตัดสินใจลาออกจากงานเพราะสุขภาพที่ไม่แข็งแรง ก็เลยหางานเสริมอยู่บ้านขายของออนไลน์ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง และเราก็ได้มีเวลาได้คิดทบทวนตัวเองว่างานสำคัญก็จริงแต่สุขภาพของเราก็ต้องมาก่อนเช่นกัน ซึ่งประสบการณ์ครั้งนี้จะบอกกับทุกคนว่า1.แบ่งเวลาตัวเองให้เป็นการที่เราเจอความกดดันจากสังคมการทำงาน ทุกคนล้วนต้องการให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง ต้องการให้เป็นที่ยอมรับของเจ้านาย แต่ควรแบ่งเวลาตัวเองให้ชัดเจน ว่าเวลาไหนเป็นเวลาทำงานเวลาไหนเป็นเวลาส่วนตัว ไม่ควรเอาเวลาตัวเองทั้งหมดไปลงกับงานหมดเพราะสุดท้ายแล้วคนที่กระทบหนักที่สุดจะเป็นตัวเราเอง2.รู้จักแยกแยะให้เป็นการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก เราควรแยกแยะให้ได้ว่าอะไรสำคัญกับชีวิตตัวเอง อะไรที่ไม่สำคัญกับตัวเอง อะไรที่ทำแล้วส่งผลถึงสุขภาพ ส่งผลชีวิตประจำวันมากจนเกินไป ควรรู้จักปล่อยวางบ้าง รู้จักแยกแยะให้ได้ว่าเวลาไหนเป็นเวลางานและเวลาไหนไม่ใช่เวลางาน ถ้าคนเรารู้จักแยกแยะได้เราจะสามารถใช้ชีวิตการทำงานในทุกๆวันของชีวิตอย่างมีความสุข3.หาเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้างร่างกายคนเราล้วนต้องการพักผ่อน ต้องการบำรุงสมองบำรุงชีวิต คนเราถ้าคิดแต่ว่าฉันต้องทำให้ได้ ฉันทำได้ ฉันต้องได้ดีกว่าคนอื่น แต่ไม่เคยคิดถึงร่างกายตัวเองเลยว่าไหวไหม งานสำคัญก็จริงแต่ร่างกายและชีวิตเราก็สำคัญเช่นกัน ควรหาเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนให้เต็มที่บ้าง และที่สำคัญควรพบแพทย์ตรวจสุขภาพประะจำปีบ้าง4.ใส่ใจตัวเองและคนในครอบครัวบ้างแน่นอนว่าเมื่อชีวิตเข้าสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัวแล้ว สิ่งที่ตามมาคงหนีไม่พ้นเวลา เวลาส่วนตัวเริ่มน้อยลง ได้พบกับผู้คนก็น้อยลง แต่ถ้าเราไม่แบ่งเวลาให้ตัวเองและคนในครอบครัว เราก็ไม่ต่างจากทิ้งพวกเขา ควรหาเวลาให้ตัวเองได้อยู่กับคนในครอบครัวบ้าง ดูแลใส่ใจพวกเขาบ้างเพราะสุดท้ายพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นคนดูและคอยอยู่เคียงข้างเราในวันที่เราลำบากดังนั้นจะเห็นว่าคนเราจะเห็นความสำคัญของสุขภาพของตัวเองหรือเห็นคนในครอบครัวของตัวเองในวันที่สายไปแล้วหรือในวันที่ตัวเองประสบปัญหากับชีวิต บางทีชีวิตเราไม่จำเป็นต้องทุ่มเทกับงานจนลืมดูสุขภาพของตัวเอง ควรแบ่งเวลาตัวเองให้บ้าง รู้จักแยกแยะให้เป็น หาเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้างและแบ่งเวลาใส่ใจตัวเองและคนในครอบครัวบ้างเพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาชีวิตเราและสุขภาพเราขึ้นอยู่กับตัวเราเองและที่สำคัญคนในครอบครัวเท่านั้นที่จะคอยอยู่ข้างๆเราในวันที่เราประสบปัญหา ในวันที่เราไม่เหลืออะไรพวกเขายังอยู่คอยให้กำลังใจเรา ฉะนั้นสุขภาพและคนในครอบครัวของมาก่อนงานเสมอ เครดิตภาพภาพปก โดย fauxels จาก pexelsภาพที่1 โดย Andrew Neel จาก pexelsภาพที่2 โดย Vlada Karpovich จาก pexelsภาพที่3 โดย Andrea Piacquadio จาก pexelsภาพที่4 โดย Rheza Aulia จาก pexelsเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !