... สวัสดีครับเพื่อน ๆ ปกติแล้ว นอกจากการขับรถยนต์ ขับมอเตอร์ไซต์ ปั่นจักรยาน เพื่อน ๆ มีวิธีการเดินทางรูปแบบอื่น ๆ กันหรือเปล่าครับ ... หลายคนก็คงจะบอกว่า การขับรถยนต์ ขับมอเตอร์ไซต์ ปั่นจักรยาน ก็น่าจะครบทุกวิธี ในการเดินทางที่คนส่วนใหญ่ใช้กันแล้ว.... แต่ยังครับ ยังไม่หมด ในหลาย ๆ ประเทศได้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่รูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า สกู๊ตเตอร์ (Scooter) เป็นพาหนะในการเดินทาง แตสำหรับในประเทศไทยแล้ว สกู๊ตเตอร์ หลายคนยังนึกถึงเป็นเพียงของเล่นสนุก ๆ ที่เด็ก ๆ ใช้กันเล่นตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ยังไม่ได้ใช้สกู๊ตเตอร์ในลักษณะที่เป็นยานพาหนะเท่าที่ควร .... ซึ่งในวันนี้ผมได้มีโอกาสรับชม สารคดีสนุก ๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างผู้ใช้สกู๊ตเตอร์กับชุมชน จนกลายเป็น "สงครามสกู๊ตเตอร์" กันเลยทีเดียว ... โดยเพื่อน ๆ สามารถหาชมได้ทาง Netflix นะครับ ชื่อสารคดีว่า Follow me ตอน "สงครามสกู๊ตเตอร์" ครับ ภาพจาก www.netflix.com ในสารคดี "ตามติด" ตอน สงคราม สกู๊ตเตอร์ .....เพื่อน ๆ คงจะสงสัยว่า "สกู๊ตเตอร์ " ที่เด็ก ๆ ในหมู่บ้านใช้เล่นกัน ทำไมถึงสร้างประเด็นทางสังคมได้มากมาย ถึงขนาดที่มีผู้ทำสารคดีเกี่ยวกับความขัดแย้งของสกู๊ตเตอร์ สารคดีเรื่องนี้ได้เล่าเรื่องราวของธุรกิจหนึ่ง ที่จะช่วยตอบโจทย์ด้านการขนส่ง ลดมลพิษทางอากาศ ลดความแออัดของระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทาง ซึ่งธุรกิจดังกล่าวได้เลือกพื้นที่ในชุมชนหนึ่ง เพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการสกู๊ตเตอร์แบบเช่า โดยบริษัทเหล่านี้จะนำสกู๊ตเตอร์ ไปจอดทิ้งไว้ตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ หากมีผู้สนใจใช้งาน คุณเพียงแค่ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น ทำการสแกนข้อมูล เพียงเท่านี้ สกู๊ตเตอร์ก็จะทำการปลดล๊อค และคุณก็จะสามารถนำสกู๊ตเตอร์ เพื่อใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน โดยระบบจะทำการคำนวณค่าใช้จ่ายตามเวลาที่ใช้จริง ... ที่สำคัญคุณจะจอดสกู๊ตเตอร์ไว้ที่ไหนก็ได้ภายในเมืองนั้น ภายหลังจากการใช้งาน..... เมื่อมีคนอยากจะใช้ต่อ ก็เพียงแค่ทำการลงทะเบียนแบบเดิม ใช้วนกันไปภายในเมืองนั้นครับ .... ดูผิวเผินแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ด้วยจำนวนสกู๊ตเตอร์ ที่มีจำนวนมากถึงหลักร้อย และการที่สามารถจอดทิ้งไว้ที่ไหนก็ได้ มันกลับสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในชุมชนครับ.... ภาพจาก www.netflix.com ในสารคดี "ตามติด" ตอน สงคราม สกู๊ตเตอร์ ....จากจำนวนที่มากของสกู๊ตเตอร์ และจุดขายของบริษัทสกู๊ตเตอร์ ที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถจอดทิ้งไว้ที่ไหนก็ได้ เพราะเป็นการเช่าตามชั่วโมงการใช้งาน ... แต่เมื่อมีคนชอบก็มีคนไม่ชอบครับ ประเด็นเรื่องสกู๊ตเตอร์ กลายเป็นข้อพิพาทถึงขั้นต้องขึ้นศาลกันเลยทีเดียว เนื่องจากชาวเมืองบางส่วน ต้องปวดหัวกับจำนวนสกู๊ตเตอร์ที่มากเกินขีดจำกัด และด้วยความคล่องตัวของมัน มันทำให้ทุกที่ในเมืองเต็มไปด้วยสกู๊ตเตอร์ครับ ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน บนทางเท้า บททางจักรยาน .... ทุก ๆ ที่ ล้วนแต่มีสกู๊ตเตอร์ครับ ความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นมีคนที่ไม่ชอบ โยนสกู๊ตเตอร์เหล่านี้ ทิ้งลงไปในถังขยะ หรือแม้กระทั่งโยนลงในทะเลเลยก็มีครับ.... ภาพจาก www.netflix.com ในสารคดี "ตามติด" ตอน สงคราม สกู๊ตเตอร์ ..... สารคดีชุดนี้ได้พยายามนำเสนอความต้องการของทั้งสองฝ่าย และพยายามหาความสมดุลระหว่าง "ความปลอดภัยกับความรำคาญ" ฝั่งผู้ที่ใช้สกู๊ตเตอร์ ก็มีการรวมตัวเพื่อแสดงความต้องการสกู๊ตเตอร์ เพราะถือเป็นทางเลือก ในการเดินทางให้แก่ผู้มีรายได้น้อย และได้ยกเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับการเป็นยานพาหนะที่เป็นพลังงานสะอาดและปลอดมลพิษ แต่อีกฝั่งหนึ่งของชุมชนก็แสดงเหตุผลของความไม่ปลอดภัย และยกตัวเลขของผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกสกู๊ตเตอร์ชนบนทางเท้า บนถนน หรือแม้กระทั่งบนทางจักรยาน .... ซึ่งผู้นำของการเรียกร้องนั้น ขอให้สภาเมืองยุติการทำธุรกิจสกู๊ตเตอร์ และเรียกร้องให้นำสกู๊ตเตอร์ออกไปจากเมืองทั้งหมด .... เพื่อน ๆ หล่ะครับ เชียร์ฟังไหนมากกว่ากัน ระหว่างผู้สนับสนุนการใช้สกู๊ตเตอร์ หรือ ผู้ต่อต้านสกู๊ตเตอร์ แต่สำหรับผมมองว่า เราสามารถที่จะหาความเหมาะสมได้ครับ หากมีการพูดคุยกันของทุก ๆ ฝ่าย ทั้งผู้ใช้สกู๊ตเตอร์ ผู้ต่อต้าน และบริษัทผู้ผลิต อีกทั้งสารคดีเรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่า "บริษัทสกู๊ตเตอร์" ยังไม่ได้มีส่วนร่วม ในการเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งเท่าที่ควร จึงทำให้ปัญหาเริ่มรุนแรง และกลายเป็นความขัดแย้งภายในชุมชน .... สารคดีเรื่องนี้เพื่อน ๆ สามารถหาชมได้ทาง Netflix นะครับ ชื่อสารคดีว่า Follow me ตอน "สงครามสกู๊ตเตอร์" ... เพื่อน ๆ อาจจะนึกไม่ถึงว่า สกู๊ตเตอร์คันเล็ก ๆ นี้ จะสร้างปัญหาได้ขนาดนี้... ภายหลังจากรับชมสารคดีเรื่อง สงครามสกู๊ตเตอร์จบ ผมคิดว่า ความขัดแย้งระหว่างผู้ใช้สกู๊ตเตอร์ กับผู้ต่อต้านนั้น ที่ยังไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาได้ คือ การที่ไม่มีคนกลางในการไกล่เกลี่ย ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องความต้องการของตัวเองครับ บริษัทผู้ผลิตสกู๊ตเตอร์ หากต้องการทำธุรกิจในชุมชนใด ก็ควรให้ความสำคัญกับวิถีชีวิต และควรรับฟังปัญหา ความต้องการของคนในชุมชน มากกว่าที่จะมุ่งไปที่การทำธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียวครับ ภาพหน้าปกจาก canva.com ภาพประกอบบทความ จาก www.netflix.com ในสารคดี "ตามติด" ตอน สงคราม สกู๊ตเตอร์