เป็นที่ทราบกันว่า เศรษฐกิจพอเพียง คือ ปรัชญาเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ของคนในสังคมทุกระดับ ให้ดำเนินไปในทางสายกลาง มีหลักคิด หลักปฏิบัติ เพื่อความก้าวหน้าอย่างสมดุลและมั่นคง ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานให้ตั้งแต่ปี 2517 วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศไทยหลายครั้งสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เฉกเช่นเดียวกับวิกฤติโควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่นี้ การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้กับการดำรงชีวิตในช่วงสถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 นั้นทุกคนต้องมีจิตสำนึกที่ดีต่อกัน มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม มีความเอื้อเฟื้อแบ่งปัน ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ใช้ชีวิตด้วยความมีเหตุมีผลในการพิจารณาสาเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมตั้งรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้ความรอบรู้ สติปัญญา แก้ไขปัญหาและวางแผนรับมืออย่างรอบคอบ โดยทุกคนทุกครัวเรือนต้อง “ดำเนินชีวิตบนทางสายกลาง” มีความพอประมาณ เป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใดก็ตาม ต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ทำแล้วเกิดความพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ความมีเหตุมีผล การตัดสินใจกระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยเหตุด้วยผล พิจารณาทุกด้าน ทั้งสาเหตุที่เกี่ยวข้อง และผลที่ตามมาของทุกเหตุการณ์ การมีภูมิคุ้มกันในตัวเองที่ดี การมีความพร้อมเตรียมตัวตั้งรับได้ดีในทุกสถานการณ์หรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยมีตัวช่วยตัดสินใจ 2 เงื่อนไข คือ คุณธรรมที่ควรสร้างเสริม ได้แก่ มีความเพียร รู้จักใช้สติแก้ไขปัญหา มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ว่าจะอาชีพใด การวางแผนต้องมีความรอบคอบ ความรอบรู้ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสมดุลในชีวิต ด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และพร้อมยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลง การดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง...ด้วยการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส การลดรายจ่าย เพื่อเป็นการประหยัด ลดรายจ่ายในครอบครัว และเป็นผลดีต่อสุขภาพ เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว เป็นอาหารสำหรับบริโภคในครัวเรือน ทั้งยังเป็นงานอดิเรกที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ลดความตึงเครียดในช่วงกักตัวอยู่บ้าน ซึ่งอาจปลูกพืชผักสวนครัวในพื้นที่บริเวณรอบบ้าน ในกระถาง หรือในภาชนะต่างๆ ตามของพื้นที่ เลือกปลูกพืชผักอายุสั้น ให้ผลผลิตเร็ว ชนิดที่บริโภคในครัวเรือนก่อนในลำดับแรก เช่น ผักบุ้ง คะน้า ผักกาด กวางตุ้ง พริก มะเขือ กะเพรา เป็นต้น การเพิ่มรายได้ เมื่อมีพืชผักบริโภคเพียงพอแล้ว การเพิ่มรายได้จากผลผลิตพืชผักในครัวเรือนที่มีมากพอก็สามารถทำได้ อาจจะนำไปจำหน่าย หรือนำไปถนอมอาหาร แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตนั้นๆ การขยายโอกาส เกิดจากการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพตนเอง ครอบครัว ชุมชน จนกระทั่งก่อเกิดเป็นรายได้ เป็นอาชีพที่เหมาะสมหรือเข้ากับสถานการณ์ เช่น เมื่อตนเองสามารถแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรจากครัวเรือนได้แล้วอาจคิดต่อยอดด้วยการผลิตขาย สามารถรวมกันผลิต จัดหาตลาด แหล่งเงินทุน และเครือข่ายมาใช้ ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน สร้างแบรนด์ของตนเอง ซึ่งนอกจากจะทำให้ตนเองมีความมั่นคงทางด้านอาหาร และด้านรายได้แล้ว ยังจะส่งผลให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ทั้งนี้ทุกครัวเรือนต้องจดบันทึกจัดทำบัญชีครัวเรือนเพื่อเป็นพื้นฐานการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกด้วย หากทุกคนนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ก็จะทำให้ทุกคนมีความสุขยิ่งขึ้น เพราะอย่างน้อยจะมีอาหารบริโภคเพียงพอ มีรายจ่ายลดลง หากเข้มแข็งขึ้นจะพัฒนาเป็นอาชีพเสริมและอาชีพหลักได้ต่อไป ที่กล่าวมาทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า การใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะทำให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้ “เมื่อพึ่งพาตนเองได้แล้วก็ทำให้จิตใจสงบ เข้มแข็ง ไม่วิตกกังวล เกิดความสุข” ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวข้ามผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปได้ด้วยดีพร้อมๆ กันค่ะ ขอบคุณภาพปกจาก www.canva.com ภาพประกอบบทความโดยผู้เขียน