แนะนำคาเฟ่ในบรรยากาศบ้านเก่าให้เพื่อนๆ ปักหมุดไว้ก่อน หลังสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายค่อยไปกัน เริ่มกันที่ Na Café at Bangkok 1899 บ้านเก่าของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี หรือครูเทพ ผู้วางรากฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวะ แต่งตำราแบบเรียนมากมาย รวมทั้งแต่งเพลงกราวกีฬา และเพลงชาติไทยฉบับเก่าด้วย บ้านหลังนี้พระยาศรีภูริปรีชา (กมล สาลักษณ์) สร้างเป็นเรือนหอให้ลูกสาว คุณถวิลกับนายสนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา ซึ่งต่อมาได้รับบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี โดยบ้านหลังนี้สร้างครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2442 เป็นครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น มีใต้ถุนสูง 1 เมตร ต่อมาปี 2457 เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีว่าจ้างนาย อี. ฮีลี อาจารย์ใหญ่โรงเรียนเพาะช่างออกแบบต่อเติมบ้าน จึงเห็นลวดลายปูนปั้นแบบตะวันตกประดับที่บ้าน ภายหลังเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีลาออกจากราชการแล้ว บุตรสาวเปิดโรงเรียนสตรีจุลนาคขึ้นที่บ้าน ปัจจุบันบ้านเก่าอายุกว่าร้อยปียังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและอยู่ในสภาพสวยงาม ต่อมาทายาทปรับปรุงบ้านหลังนี้เป็นคาเฟ่ในบ้านเก่าใช้ชื่อ Na Café at Bangkok 1899 ซึ่ง 1899 ก็คือปีค.ศ.ที่สร้างบ้านหลังนี้นั่นเอง ตอนแรกที่ไปถึงเดินวนอยู่หนึ่งรอบเกือบหาทางเข้าไม่เจอ หน้าบ้านอาจจะไม่เห็นป้ายของคาเฟ่ แต่ถ้าเห็นป้ายสีน้ำตาลแนะนำสถานที่สำคัญของ ก.ท.ม เขียนว่าบ้านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีก็เดินเข้าไปได้เลย บรรยากาศรอบบ้านร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ยิ่งเป็นวันธรรมดาจึงค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนต้องการความเงียบนั่งทำงาน บรรยากาศภายในบ้าน ที่นี่เน้น zero waste ใช้แก้วและหลอดกระดาษ เป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน ที่นี่น่าจะเหมาะกับคอกาแฟ ส่วนเราลองสั่งชามะนาวน้ำผึ้ง (70 บาท) สดชื่นดี ไปต่อกันที่คาเฟ่ดังประจำย่านเมืองเก่ากรุงเทพมหานคร บ้านขนมปังขิง บ้านขนมปังขิงนิยมสร้างกันมากในช่วงรัชกาลที่ 6 ลวดลายฉลุไม้สวยงาม แต่เนื่องจากวัสดุไม้ ทำให้บ้านขนมปังขิงหลายหลังทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่เป็นเรื่องน่าดีใจที่บ้านขนมปังขิงหลังนี้ได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง บ้านขนมปังขิงหลังนี้สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2456 อำแดงหน่าย ภรรยาของรองอำมาตย์โทขุนประเสริฐทะเบียน (ขัน) ซื้อที่ดินเปล่า 47 ตารางวาจากหลวงบุรีพิทักษ์ และก่อสร้างเรือนขนมปังขิงบนที่ดินผืนนี้ หลังอำแดงหน่ายเสียชีวิต บ้านถูกขายต่อให้กับท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ทันตแพทย์ประจำพระองค์รัชกาลที่ 9 ผู้เป็นทายาทของท่านผู้หญิงเนื่องสนิท (ลูกสาวคนที่ 2 ของขุนประเสริฐทะเบียน) รายการเครื่องดื่ม ที่นี่มีทั้งเครื่องดื่ม ขนมไทย ไอศกรีมและเค้ก ชั้นล่างจะติดแอร์ ส่วนชั้นบนจะเปิดโล่งรับลม สั่งเครื่องดื่มและจ่ายเงินที่ชั้นล่าง ถ้าเรานั่งข้างบนพนักงานจะยกมาให้ ไอศกรีมใบเตยบัวลอย (120 บาท) บัวลอยนุ่มหนึบกำลังดี แต่รสชาติหวานไปหน่อย เมื่อเทียบกับราคาแล้วออกจะได้น้อยไปหน่อย และช็อคโกแลตมินท์ (95 บาท) เข้มข้นไม่หวานมาก มีรสมินท์เย็นๆ กลมกล่อมอร่อยใช้ได้ บ้านขนมปังขิงเสาร์อาทิตย์คนค่อนข้างเยอะ หาที่นั่งยาก แนะนำว่าถ้าสะดวกให้ไปวันธรรมดาจะดีกว่า ปิดท้ายกันที่ Craftsman X บ้านอาจารย์ฝรั่ง (เราเคยแนะนำบ้านสวยในบริเวณนี้ไว้ในตอนกิจกรรมนำชมบ้านสกุลไกรฤกษ์ shorturl.at/euCH3) ที่นี่เป็นบ้านเก่าของสกุลไกรฤกษ์ที่ขายต่อให้กองทัพบก และมีการค้นพบจากภาพถ่ายของลูกสาวอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ทำให้ทราบว่าอ. ศิลป์เคยพำนักที่นี่ จึงมีการนำบ้านหลังนี้มาทำเป็นร้านกาแฟโดย Craftsman และนิทรรศการหมุนเวียนที่ชั้น 2 ของอาคาร Sparkling Tamarind น้ำมะขามโซดา ไซรัปมะขามน้ำผึ้งผสมน้ำแร่อิตาเลียน San Pellegrino (135 บาท) เปรี้ยวซ่าเหมาะกับอากาศร้อนๆ และชีสเค้กเนื้อเนียนซอสราสเบอรี่อร่อยมาก จบไปแล้วกับคาเฟ่ในบ้านเก่าที่่นำชีวิตกลับมาสู่บ้านเก่าอีกครั้ง หวังว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เราจะได้ออกไปสำรวจย่านเก่าและคาเฟ่อีกครั้ง เพื่อต่อลมหายใจให้บ้านเก่าต่อไป Na Café at Bangkok 1899 134 ถนน นครสวรรค์ แขวง วัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เวลาเปิดปิด 10AM–9:30PM (ปิดวันจันทร์) บ้านขนมปังขิง (เสาชิงช้า) 47 ถนน ดินสอ แขวง เสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เวลาเปิดปิด 11AM–8PM (เสาร์-อาทิตย์ เปิด 09:00) Craftsman x บ้านอาจารย์ฝรั่ง 153 ถนน ราชวิถี แขวง วชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 เวลาเปิดปิด 7AM–8PM **ภาพประกอบโดย food.travel.addict