ต้นกำเนิด การไหว้พระอาทิตย์ หรือ สุริยนมัสการ (Surya Namaskar) นั้น ไม่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดและใครเป็นผู้ริเริ่ม แต่ก็มีเรื่องเล่าหนึ่งที่ว่ากันว่าเป็นที่มาของการไหว้พระอาทิตย์...เป็นเรื่องของ “หนุมาน” (Hanuman) ตัวละครกึ่งเทพรูปลักษณ์เป็นลิงที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่การกล่าวถึงต้นกำเนิดและรายละเอียดรูปร่างลักษณะของหนุมานนั้นก็แตกต่างกันไปตามแต่ปลายปากกาของผู้เขียนหรือผู้เล่าแต่ละคนจะแต่งขึ้นมาเบบี้หนุมานกินดวงอาทิตย์ในเรื่องรามายณะของฮินดู ได้เล่าว่าหนุมานผู้เป็นบุตรของพระวายุ (Vayu) มีความชื่นชอบพระอาทิตย์ (Surya) มาตั้งแต่เกิดแล้ว เมื่อตอนที่เขาเป็นเด็กน้อย ยังไม่รู้จักดวงอาทิตย์ พอได้เห็นดวงแสงเจิดจ้าสีแดงโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาครั้งแรกก็เข้าใจว่าเป็นผลไม้น่ากิน (บางเรื่องเล่าบอกว่าเป็นมะม่วง) ซึ่งแม้ว่าหนุมานจะยังเล็กแต่ก็มีอิทธิฤทธิ์และพละกำลังมหาศาล สามารถกระโดดขึ้นไปคว้าเอาดวงอาทิตย์เข้าปากได้ ฉับพลันจักรวาลก็มืดลง แม้จะร้อนจนลวกปากแต่เด็กดื้อก็ไม่ยอมคายดวงอาทิตย์ออกมาพระอินทร์ (Lord Indra) ที่เห็นเหตุการณ์ได้ขว้างอาวุธสายฟ้า (วัชระ-Vajra) เข้าใส่ปากของหนุมานจนเด็กน้อยอ้าปากคายดวงอาทิตย์ออกมา ถึงจักรวาลจะกลับมาสว่างดังเดิม แต่วัชระของพระอินทร์ก็ทำให้กรามหนุมานหลุด บ้างก็ว่าหนุมานตกลงมากระแทกก้อนหินด้านล่างจนกรามหัก ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไงกันแน่ แต่บุตรของพระวายุก็ได้ชื่อว่า “หนุมาน” หรือ “ผู้มีกรามหัก” ตั้งแต่นั้นมา (หนุ-Hanu-กราม และ มาน-Man-เสียหาย)จากเหตุการณ์นี้ทำให้เหล่าเทพต้องริบพลังของหนุมานเอาไว้ก่อนชั่วคราว (หรือใช้ได้ไม่เต็มร้อย) แต่ก็เอ็นดูสงสารที่กรามหัก จึงพากันให้พร ซึ่งก็มีตั้งแต่ความแข็งแกร่ง ความเร็ว ความสามารถในการแปลงกาย ความจำเป็นเลิศ ความซื่อสัตย์ ให้รางวัลแห่งการครองตนเป็นโสด (ในตำราฮินดูหนุมานไม่ได้เจ้าชู้เหมือนของไทย) รวมถึงพระอินทร์ยังรับปากว่าวัชระจะไม่สามารถทำอะไรหนุมานได้อีก แต่ลิงน้อยจะใช้พรเหล่านี้ได้ก็ต่อเมื่อเขาได้เจอกับพระราม (พระนารายณ์อวตาร) ในอนาคตแล้วนั่นล่ะ รับข้าน้อยเป็นศิษย์ด้วยเถิดเวลาผ่านไปหนุมานโตขึ้นจนถึงวัยศึกษาเล่าเรียน แต่ก็ไม่รู้จะไปเรียนกับใคร นางอัจนา (Anjana) ผู้เป็นแม่ได้แนะนำขึ้นมาว่าให้ไปลองถามพระอาทิตย์ดูสิ ท่านนั่งรถม้าไปทั่วโลกในทุกๆ วัน ท่านได้เห็นทุกสิ่งบนทุกแห่งของโลกนี้ ท่านรู้ทุกอย่างที่อยู่ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ แล้วท่านก็ยังบินได้สูงกว่าตัวเขาอีก และป่านนี้ท่านก็น่าจะลืมเรื่องขี้ปะติ๋วที่หนุมานเคยกินดวงอาทิตย์เมื่อตอนเป็นเด็กน้อยแล้วล่ะด้วยเหตุผลนี้ หนุมานจึงได้ไปขอให้พระอาทิตย์มาเป็นครูของเขา แม้ท่านจะให้อภัยที่เคยถูกหนุมานกิน แต่ด้วยตารางงานที่รัดตัว ทุกวันต้องเดินทางไปข้างหน้าเรื่อยๆ (พระอาทิตย์หรือสุริยเทพนั้นจะมีปกติโคจรจากทิศตะวันออกมาทิศตะวันตก ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงจึงลับขอบฟ้า แล้วก็จะโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาอีกครั้งทางทิศตะวันออกในเวลา 12 ชั่วโมงต่อมา ท่านจะเดินทางเช่นนี้เป็นนิจสินชั่วนิจนิรันดร์ พระอาทิตย์จึงได้ชื่อว่า “เทพเจ้าผู้จรชั่วนิจนิรันดร์”) เมื่อพระอาทิตย์ไม่สามารถหยุดรถม้าเพื่อมาสอนหนุมานได้ หรือหากสอนโดยต้องเคลื่อนไหวไปข้างหน้าตลอดเวลาเช่นนี้ หนุมานก็จะเรียนได้อย่างทุลักทุเลเกินไป พระอาทิตย์จึงบอกปฏิเสธการเป็นครูของหนุมานไปจ่ายค่าเทอมด้วยนมัสการแม้จะถูกปฏิเสธหนุมานก็ไม่ลดละ ตามตื้อจนพระอาทิตย์เห็นถึงความพยายาม ชื่นชมในความพากเพียรจนยอมสอนในที่สุด ทุกๆ วันเจ้าลิงจะบินขึ้นไปหาพระอาทิตย์ เขาจะหันหน้าเข้าหาพระอาจารย์ และต้องเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ ในขณะที่พระอาทิตย์เคลื่อนที่ไปข้างหน้า รูปแบบการเรียนการสอนที่แปลกไม่เหมือนใครนี้เองที่ว่ากันว่าเป็นต้นแบบในการไหว้พระอาทิตย์หรือสุริยนมัสการ ที่เมื่อฝึกเราจะหันหน้าเข้าหาครูของเรา และทำอาสนะที่ต้องก้าวไปด้านหลังเสื่อก่อนแค่ภายในสัปดาห์เดียว หนุมานก็สามารถเรียนคัมภีร์พระเวทได้อย่างเชี่ยวชาญ เมื่อจบการศึกษา พระอาทิตย์ได้กล่าวว่าการเห็นลูกศิษย์ทุ่มเทเรียนรู้เช่นนี้ถือเป็นรางวัลสำหรับท่านแล้ว ไม่ต้องมีค่าจ้างสอนอื่นใด เช่นนั้นหนุมานจึงได้ทำความเคารพด้วยความกตัญญู (นมัสการ-Namaskar) แก่พระอาทิตย์เป็นสิ่งตอบแทน12 อาสนะ 12 พระนามการไหว้พระอาทิตย์ประกอบด้วยการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องกัน 12 ท่วงท่า (อาสนะ) มาจากความเชื่อที่ว่า พระอาทิตย์จะนั่งรถม้าเคลื่อนผ่านกลุ่มดาว (จักรราศี) ทั้ง 12 บนสวรรค์ และพระนามของพระอาทิตย์ก็จะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งของดาวเป็น 12 พระนามด้วย ดังนี้มิตรา (Mitra) : ผู้เป็นมิตรกับสรรพสิ่ง : ราศีเมษ (Mesha)ระวี (Ravi) : ผู้เป็นที่ยกย่องโดยทั่ว : ราศีพฤษภ (Vrishabha)สุริยา (Suriya) : ผู้มีไหวพริบชาญฉลาด : ราศีเมถุน (Mithuna)ภาณุ (Bhanu) : ผู้ให้ความงามและความรุ่งโรจน์ : ราศีกรกฎ (Karka)คาคะ (Khaga) : ผู้เปิดประสามสัมผัส : ราศีสิงห์ (Simha)ปุสนา (Pushan) : ผู้หล่อเลี้ยงชีวิต : ราศีกันย์ (Kanya)หิรัญคารภา (Hiranyagarbha) : ผู้มีพลังงานและอำนาจ : ราศีตุลย์ (Tula)มริสา (Maricha) : ผู้พิชิตโรคภัย : ราศีพิจิก (Vrishchika)อาทิตย์ (Aditya) : ผู้มีเสน่ห์น่าดึงดูด : ราศีธนู (Dhanu)สาวิตรี (Savitri) : ผู้ส่งเสริมเมตตาธรรม : ราศีมังกร (Makara)อักกะ (Aqha) : ผู้ที่สมควรได้รับการสรรเสริญ : ราศีกุมภ์ (Kumbha)ภัสกระ (Paskar) : ผู้ที่สำเร็จมรรคผล : ราศีมีน (Meena)พระอาทิตย์นับว่าเป็นเทพผู้ทรงพลังหาคู่แข่งได้ยากยิ่ง เปี่ยมด้วยอิทธิฤทธิ์ ทั้งยังได้ชื่อว่า “เป็นผู้ประทานพลัง” ด้วย กล่าวกันว่าหากไหว้พระอาทิตย์อย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้ได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ แม้แต่ในเรื่องรามายณะ พระรามเองก็ได้รับพลังกายใจที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นจากการทำสุริยนมัสการด้วยเช่นกัน จากเรื่องเล่านี้เอง โยคะจึงให้ความสำคัญกับการไหว้พระอาทิตย์เป็นอย่างมาก เหล่าโยคี / โยคีนีที่ฝึกอย่างถูกต้องครบถ้วน จะรู้สึกได้ว่าทั้งร่างกายและจิตใจมีพลังมากขึ้น จึงนิยมไหว้พระอาทิตย์เป็นการวอร์มอัพก่อนจะฝึกอาสนะอื่นๆ ต่อไปดูท่าไหว้พระอาทิตย์ทั้ง 12 ท่า Classic Sun Salutation : ไหว้พระอาทิตย์แบบเดิมๆไม่ว่าต้นกำเนิดของการไหว้พระอาทิตย์จะเป็นมาอย่างไร พระอาทิตย์ถือเป็นเทพผู้นำทางและส่องสว่างชีวิตรวมถึงจักรวาลแห่งนี้ ผู้คนในอดีตได้แสดงความภักดีและความกตัญญูผ่านการเคลื่อนไหวท่วงท่าทั้ง 12 ตามพระนาม ด้วยความตั้งใจและความเคารพสูงสุด เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !