"GUNPLA" เป็นคำศัพท์ที่ย่อมาจาก Gundam Plastic Model ซึ่งเป็นการนำหุ่นยนต์จากการ์ตูนซีรีส์กันดั้มหลากหลายภาคมาทำเป็นโมเดลพลาสติกขนาดเล็กให้เราได้ประกอบกัน ปกติผมจะใช้คำว่า "ต่อกันพลา" เพราะค่อนข้างสั้น กระชับ และเข้าใจได้ทันทีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายคนยังคงสงสัยว่า ของเล่นแบบนี้เราจะซื้อมาต่อทำไม? เสียเงินโดยใช่เหตุ? ผมขอบอกเลยครับว่าการต่อกันพลามีประโยชน์กว่าที่ทุกท่านคิดไว้ครับ ถ้าไม่ได้มาลองสัมผัสเองจะไม่มีทางรู้เลย วันนี้ผมจึงขอเปิดตอนที่ 1 ของบทความซีรีส์ ต่อ GUNPLA ได้อะไร? ด้วยเรื่องของการฝึกสมาธิครับต้องเกริ่นนำก่อนเลยว่าผมเป็นคน ๆ หนึ่งที่มีสมาธิค่อนข้างแย่ ไม่ใช่เพราะว่าผมสมาธิสั้นโดยกำเนิด แต่ด้วยปัญหาความเครียดต่าง ๆ ที่รุมเร้าเข้ามาในชีวิต ทำให้ทุกครั้งที่ผมจะตั้งสมาธิอ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งจะเล่นเกมก็ตาม ความเครียดทั้งที่ผ่านไปแล้วและกำลังจะมาอนาคตล้วนถล่มใส่เข้ามาทำให้ผมไม่สามารถทำกิจกรรมนั้น ๆ ต่อได้ ทำให้ผมเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขหรือคลายเครียดได้อีกต่อไปแล้วแหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : ภาพ โดย Pexels จาก Pixabay ผมจึงตัดสินใจซื้อกันพลาตัวแรกมาต่อ ซึ่งไม่รู้ว่าโชคดีหรืออย่างไร ช่วงนั้นเป็นช่วงสิ้นปีที่ร้านค้ากำลังลดราคาของเล่นกันแบบจัดเต็ม ผมเลยได้ซื้อกันพลาราคาสูงในราคาย่อมเยาว์ แต่ผมไม่มั่นใจว่าผมจต่อมันได้สำเร็จหรือเปล่าผมจึงซื้อมาแค่ตัวเดียว แล้วก็เดินวนหาซื้ออุปกรณ์แบบบ้าน ๆ ที่ใช้ในการต่อกันพลาเท่าที่หาข้อมูลมาได้จนเสร็จเรียบร้อย แหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : "BANDAI GUNPLA MG" by othree is licensed under CC BY 2.0 พอกลับมาถึงบ้านผมแกะกล่องออกมาครั้งแรกผมถึงกับต้องตกใจ เพราะมีชิ้นส่วนจำนวนมากติดอยู่ในแผงพลาสติก!! (ซึ่งแผงพลาสติกนี้เราเรียกว่ารันเนอร์) สิ่งที่ผมต้องทำคือเปิดคู่มือการประกอบและค่อย ๆ ตัดชิ้นส่วนออกมาทีละชิ้น อย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงใช้กรรไกรตัดเล็บหน้าตรงค่อย ๆ ตัดพลาสติดส่วนเกินให้ได้มากที่สุด แล้วค่อยใช่มีดตัดโมเดลค่อย ๆ ปาดส่วนเกินให้เนียนที่สุด ในช่วงแรกผมใช้เวลาในการแกะชิ้นส่วน 1 ชิ้นออกมาถึง 10 นาทีเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ผมรู้สึกคือ ในระหว่างที่ผมกำลังแกะชิ้นส่วน ตัดแต่งให้เนียน และนำมาประกอบกันนั้น ผมมีสมาธิมากขึ้นและความเครียดต่าง ๆ ไม่ได้เข้ามารุมเร้าเหมือนทำกิจกรรมอย่างอื่นเลยแหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : ภาพ โดย Kristal Arce จาก Pixabay หลังจากนั้นผมก็สังเกตตัวเองมาเรื่อย ๆ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ผมพบว่าการที่ผมมีสมาธิเพิ่มขึ้น เพราะในการต่อกันพลาเราได้ใช้ความคิดตลอดเวลาว่าเราจะต้องต่อทำอะไรต่อ ชิ้นส่วนไหนต้องประกอบก่อนชิ้นไหน เป็นต้น นอกจากความคิดแล้วสติก็ต้องมีด้วย เพราะเรากำลังใช้อุปกรณ์มีคมสุดแสนอันตราย หากขาดสติไปแม้แต่พริบตาเดียวอาจเกิดเหตุนองเลือดได้ ดังนั้นผมได้ใช้ทั้งสมาธิและสติทำงานไปพร้อมกัน ประกอบกับความสนุกที่เรารู้สึกเพลิดเพลินไปกับเป้าหมายในการทำให้กันพลาของเราออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด จึงไม่แปลกที่ความเครียดต่าง ๆ จะไม่เข้ามายุ่งในช่วงเวลานั้น เพราะแค่ต่อกันพลาผมก็ยุ่งพออยู่แล้วแหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : "BANDAI GUNPLA MG" by othree is licensed under CC BY 2.0 ผู้อ่านบางท่านอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่า แล้วอ่านหนังสือกับเล่นเกมมันไม่ฝึกสมาธิกับใช้สติตรงไหน? มันก็เหมือน ๆ กัน? ผมไม่เถียงครับ มันคือเรื่องจริง แต่สำหรับผมนั้นการอ่านหนังสือผมใช้แค่สมาธิในการจดจ่อกับตัวหนังสือและอ่านในใจ ซึ่งการอ่านในใจมันทำให้ผมถูกแทรกแซงได้ด้วยความเครียดต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า ส่วนการเล่นเกมนั้นจริงอยู่ที่ใช้สมาธิและสติ แต่ก็ไม่ใช่ทุกเกมนะครับ เกมที่ผมชอบเล่นเป็นแนว Strategy RPG ที่ไม่ได้ใช้ทั้งสติหรือสมาธิ ใช้แค่ความขยันกับการวางแผนการเล่นแค่นั้นเอง ดังนั้นผมอยากให้ผู้อ่านที่กำลังมองว่ากันพลาเป็นแค่ของเล่นสิ้นเปลือง ลองปรับมุมมองใหม่ว่ากันพลาเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ของเราให้ดีขึ้นนะครับ ผมยังอยากแนะนำให้ผู้ปกครองซื้อกันพลาให้ลูกต่อมากกว่าการยื่นโทรศัพท์มือถือให้เล่นด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องคอยดูแลเรื่องการใช้ของมีคมด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนแล้ว พบกันใหม่ตอนที่ 2 ครับ สวัสดีครับFacebook Fanpage ของผู้เขียนบทความ : https://www.facebook.com/PDEsterTheCreator/แหล่งอ้างอิงรูปภาพประกอบบทความ : "BANDAI GUNPLA MG" by othree is licensed under CC BY 2.0