รูปภาพปกจาก : pixabayสวัสดีครับวันนี้ผมมีความรู้เกี่ยวกับการบังคับคดีตามกฎหมายแพ่งมาฝาก เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตการณ์ ไวรัสCovid- 19 อาจจะทำให้เพื่อนๆ ถูกเลิกจ้าง หรือว่างงาน จนทำให้การเงินของท่านฝืดเคือง ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเนื่องจากเป็นหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ทางบัตรเครดิตเป็นหนี้เงินกู้ต่างๆ แต่ในที่นี้ขอพูดในส่วนของหนี้ในระบบ ซึ่งเจ้าหนี้อาจจะเป็นธนาคาร สถาบันการเงิน หรือ เจ้าหนี้ ที่ทำสัญญาถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เนื่องจากหนี้ในระบบนั้นกฎหมายคุ้มครองลูกหนี้อยู่อย่างมาก ความรู้ที่บอกกล่าวต่อไปนี้อาจจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนซึ่งอยู่ในสภาวะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดหรือแย่กว่านั้นก็คือ ไม่มีความสามารถชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้เลย และถูกเจ้าหนี้ฟ้องบังคับชำระหนี้และลูกหนี้ถูกศาลพิพากษาให้เป็นฝ่ายแพ้คดีรูปภาพจาก : pixabayอย่างที่ท่านเคยทราบกันแล้วว่า หนี้ทางแพ่งนั้นไม่มีการติดคุกติดตะราง ความคิดนี้ถูกต้องครับ แต่ๆ มีข้อยกเว้นว่า ลูกหนี้ต้อง{ไม่กระทำการอันใดให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ} เช่น รู้ว่าตนจะแพ้คดี เลยทำการโอนทรัพย์ให้กับญาติ หรือคนรู้จัก แล้วทำสัญญาปลอมว่าเป็นการขายทรัพย์ ผมขอ บอกเลยว่าการกระทำแบบนี้จากหนี้ทางแพ่งอาจกลายเป็นคดีอาญาได้ เพราะจะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ฐานโกงเจ้าหนี้ได้ ผมจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับหนี้กับบัตรเครดิตหรือหนี้เงินกู้ แต่จะมาพูดถึงภายหลังจากที่ลูกหนี้ไม่มีความสามารถชำระหนี้ แล้วเจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้ เป็นคดีแพ่งแล้วภายหลังศาลมีคำพิพากษาให้เป็นฝ่ายแพ้คดี และเจ้าหนี้ทำการบังคับคดีตามคำพิพากษารูปภาพจาก : pixabay การบังคับคดีโดยการยึดหรืออายัดทรัพย์สินเนื่องจากเหตุต่อไปนี้เนื่องจากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้โดยเจ้าหนี้ฟ้องร้องจนชนะคดีแพ่งแล้วหลังจากนั้นลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาหรือตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด ศาลท่านจึงออกคำบังคับคดีให้มีการยึดทรัพย์ หรืออายัดทรัพย์ของลูกหนี้นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าหนี้จะไม่สามารถทำการยึดทรัพย์หรืออายัดทรัพย์ของลูกหนี้ได้ด้วยตัวเอง เจ้าหนี้สามารถทำได้โดยการขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนำยึดทรัพย์หรืออายัดทรัพย์แล้วนำทรัพย์นั้นได้ไปขายทอดตลาด หากขายได้เท่าไรแล้วให้นำเงินที่ขายทอดตลาดมาได้นั้น มาชำระหนี้ที่ลูกหนี้ค้างอยู่ ส่วนที่เหลือจากที่ขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีจะคืนให้แก่ลูกหนี้รูปภาพโดย : pixabay แต่ไม่ใช่ว่าเจ้าหนี้จะสามารถยึดทรัพย์ของลูกหนี้ได้ทุกอย่าง ทรัพย์ที่เจ้าหนี้สามารถยึดได้นั้น เป็นของมีค่าไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับต่างๆ เช่น ทองคำ เพชร นาฬิกา หรือของสะสมที่มีมูลค่า เจ้าพนักงานบังคับคดีสามารถยึดนำขายทอดตลาดได้ และบ้านหรือที่ดิน ถึงแม้ว่าจะติดจำนองอยู่ก็สามารถนำยึดได้เช่นกัน รถยนต์หรือจักรยานยนต์ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้ แต่หากลูกหนี้พิสูจน์ได้ว่าเป็นเครื่องมือทำมาหากินของลูกหนี้เจ้าหนี้จะยึดไม่ได้ นอกนั้นยึดได้หมดรูปภาพจาก : pixabay ***สิ่งนี้สำคัญมากครับเงินเดือนหากไม่เกิน 20,000 บาทเจ้าหนี้จะทำการอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ไม่ได้เลย นี่เป็นส่วนที่กฎหมายใหม่บังคับใช้ เนื่องจากกฎหมายเก่ากำหนดไว้เพียง 10,000 บาท***อีกส่วนก็คือ สิ่งใดที่เจ้าหนี้ไม่สามารถอายัดได้ยกตัวอย่าง เช่นเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพของลูกหนี้ซึ่งมีมูลค่ารวมกันแล้วไม่เกิน 20000 บาท หากเกินเจ้าหนี้สามารถยึดได้พวกเงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ บำเหน็จ เบี้ยหวัด ที่เป็นในส่วนของลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการส่วนนี้จะไม่สามารถอายัดได้เลยหากเป็นเอกชนเจ้าหนี้จะอายัดได้ในส่วนที่เกิน 20,000 บาททั้งหมดและพวกเงินเบี้ยเลี้ยงชีพที่ทางรัฐบาล หรือ ทางราชการจ่ายให้ เช่นเงินฌาปนกิจสงเคราะห์อย่างนี้เจ้าหนี้จะนำอายัดไม่ได้เลยรูปภาพจาก : pixabayผมขอสรุปทางออกของการถูกบังคับคดีมีดังนี้ครับท่านต้องไม่สร้างหนี้ใหม่ หากท่านไม่สามารถที่จะชำระหนี้ที่มีอยู่ก่อนแล้วได้ เช่น ไปกู้หนี้นอกระบบมาชำระหนี้ในระบบ อย่างนี้ผิดมหันต์เลยครับลดรายจ่ายเพิ่มรายรับ เช่น หาอาชีพเสริม หรือ ตัดกิเลศออก อย่างปกติติดเที่ยวก็งด ของใช้ที่ไม่ใช้ก็เอามาขายมือสอง เป็นต้นเจรจากับเจ้าหนี้ ขอลดดอกเบี้ย การเจรจานี้ท่านทำได้ตลอด หรือ แม้แต่หากท่านถูกบังคับคดีแล้ว การเจรจากับเจ้าหนี้ถือเป็นทางออกที่ดีอายุความบังคับคดี มีอายุ 10ปี ในระยะเวลานี้ เจ้าหนี้เขาก็จะสืบทรัพย์ไป ตัวลูกหนี้ก็สามารถขอเจรจากับเจ้าหนี้ได้ตลอด และที่ดีมากๆคือ กรมบังคับคดีเขามีหน่วยงานในการไกล่เกลี่ย ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ด้วยสำคัญที่สุดคือ เป็นหนี้ก็ต้องใช้คืนให้เขา แต่หากวันนี้เราต้องมีสติ เป็นสิ่งสำคัญ อย่าเครียดจนเกินไปรูปภาพโดย : pixabayหากท่านเป็นลูกหนี้ซึ่งไม่ได้เจตนาที่จะไม่ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้นั้น ผมมองว่าในสภาวะแบบนี้ท่านใช้การเจรจาหรือทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้ จะเป็นผลดีทั้งตัวท่านเองและเจ้าหนี้ แต่หากตกลงกันไม่ได้ ก็ถือว่าการมีความรู้ในเรื่องการบังคับคดีนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ลูกควรรู้และท่านพึงจำไว้เลยว่า ทุกปัญหามีทางออกเสมออย่าเครียดจนเกินไป หากลูกหนี้ไม่กระทำการใดๆที่เป็นการโกงเจ้าหนี้แล้วนั้น แน่นอนว่าลูกหนี้ไม่มีความผิดทางอาญาซึ่งจะนำพาลูกหนี้ติดคุกได้อย่างแน่นอน ขอท่านใช้ชีวิตอย่างมีสติครับ