ตอนนี้เชื่อว่าหลายๆคน โดยเฉพาะแฟนอาหารญี่ปุ่นตัวยง น่าจะต้องเคยได้รู้จักกับคำว่า โอมากาเสะ ผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้ว เนื่องจากเทรนด์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะ กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เห็นได้จากรีวิวของบล็อกเกอร์ ยูทูปเบอร์ หรือกระทั่งเหล่าเซเลป ดารา ที่พากันอัพโหลดรูปภาพหรือวีดีโอที่ตนเองกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่บนที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ ของร้านอาหารญี่ปุ่นหลากหลายร้าน บางคนเห็นแล้วก็อาจจะสงสัยว่าที่จริงแล้วการรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบที่เรียกกันว่า “โอมากาเสะ” นั้น เป็นอย่างไรและอะไรคือเสน่ห์ของโอมากาเสะที่ทำให้ได้รับความนิยม เราจะมาเฉลยให้ทุกคนได้ทราบกัน คำว่า โอมากาเสะ นั้นเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่แปลความหมายได้ว่า แล้วแต่คุณ ซึ่งหมายถึงเราให้อีกฝ่ายเป็นผู้ตัดสินใจแทนเรา ดังนั้นเมื่อเราเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วบอกกับเชฟว่า โอมากาเสะ ก็เท่ากับว่าเราให้เชฟเป็นคนเลือกเสิร์ฟเมนูให้กับเราตามที่เชฟอยากจะนำเสนอได้เลย โดยปกติแล้วเมนูที่เชฟเลือกเสิร์ฟให้กับลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารแบบ โอมากาเสะ จะมีทั้งซูชิ ซาชิมิ เมนูอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่น ซุป รวมไปถึงของหวาน เสิร์ฟเป็นคอร์สโดยจะเป็นอาหารจานเล็กๆเรียงกันไป เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอาหารที่หลากหลายไปจนจบคอร์ส แต่สิ่งสำคัญคืออาหารแต่ละจานที่เสิร์ฟจะต้องมีคุณภาพสดใหม่และมีรสชาติที่อร่อยที่สุด ดังนั้นเมนูที่เสิร์ฟอาจจะไม่เหมือนกันในแต่ละวัน เพราะขึ้นอยู่กับความสดของวัตถุดิบ และวัตถุดิบบางชนิดอาจหาได้เฉพาะตามฤดูกาล นอกจากเรื่องความสดและคุณภาพของวัตถุดิบแต่ละอย่างแล้ว เชฟบางท่านอาจจะมีเมนูเด็ดหรือเคล็ดลับวิธีการปรุงอาหารเฉพาะตัว ที่ทำให้อาหารที่ใช้วัตถุดิบธรรมดาๆที่เราเคยได้รับประทานมีหน้าตาและรสชาติแตกต่างไปจากเดิม เรียกได้ว่าเป็นการสั่งอาหารแบบที่เปิดโอกาสให้เชฟได้แสดงฝีมือการปรุงอาหารตามความคิดสร้างสรรค์ของเชฟแต่ละท่านได้อย่างเต็มที่ แถมเราเองยังได้ลุ้นว่าการไปรับประทานโอมากาเสะแต่ละครั้งจะมีอะไรให้เราได้เซอร์ไพรส์ เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการรับประทานโอมากาเสะนั้น ก็คือการได้นั่งรับประทานอาหารแบบใกล้ชิดกับเชฟสุดๆ โดยร้านที่มีบริการอาหารแบบโอมากาเสะส่วนใหญ่นั้นจะตัดที่ให้บริการลูกค้าเป็นเคาน์เตอร์บาร์ โดยเราจะได้เห็นเชฟเตรียมอาหารแต่ละจานที่กำลังจะเสิร์ฟกันได้อย่างเต็มที่ แถมเรายังได้มีปฏิสัมพันธ์กับเชฟอีกด้วย เพราะเชฟมักจะอธิบายคุณสมบัติของวัตถุดิบต่างๆที่ปรุงให้เราทาน แนะนำวิธีการรับประทาน หรืออาจจะคุยเล่นหยอกล้อกับลูกค้าได้โดยตรง ทำคุณได้รับความเพลิดเพลินในการรับประทานอาหารมื้อนั้นอีกด้วย หากคุณคิดจะลองรับประทานอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบโอมากาเสะแล้วละก็ สิ่งสำคัญก็คือคุณควรเปิดใจลองทุกเมนูที่เชฟได้บรรจงปรุงออกมาเสิร์ฟ หากไม่ได้มีอาการแพ้ต่ออาหารชนิดนั้นจริงๆ (โดยปกติแล้วเชฟจะถามเราก่อนเริ่มคอร์ส) เพราะรับรองได้ว่าอาหารแต่ละจานที่เชฟจัดให้จะต้องเป็นเมนูจานเด็ดที่เชฟแต่ละท่านตั้งใจคัดสรรและปรุงอย่างสุดฝีมือจริงๆ