ทำบุญยังไงให้ได้บุญ (วิธีทำบุญสำหรับคนไม่มีเวลาทำบุญ) สวัสดีครับ เพื่อนๆสงสัยกันไหม ทำบุญยังไงให้ได้บุญ การทำบุญมีแค่การให้ การกราบไหว้บูชา การบริจาคเงินให้วัดจริงหรอ หากเราเป็นมนุษย์เงินเดือนวันๆทำแต่งาน ไม่มีเวลาไปทำบุญ เรามีวิธีไหนบ้าง ที่จะสามารถทำบุญง่ายๆ และเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับการทำบุญที่เพื่อนๆสงสัย ทุกคำตอบเรารวบรวมไว้ที่นี่แล้ว เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยนะครับ การทำบุญมีอยู่ด้วยกันหลักๆอยู่ 3 แบบ คือ ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งแต่ละแบบจะให้อานิสงค์ หรือผลบุญตอบแทนแตกต่างกันกัน โดยผมจะเริ่มต้น อธิบายจาก "ทาน"การให้ทาน "ทาน" คือ การให้ทรัพย์สิ่งของ สมบัติ อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งใดๆที่เป็นของของเราเองแก่ผู้อื่น ด้วยความเมตตา เพื่อต้องการให้ผู้ที่รับทาน ได้นำสิ่งที่เราให้ไปใช้ประโยชน์ ใช้จุนเจือสิ่งที่เขาขาดหายหรือลำบาก และต้องการให้เขารับรู้ความรู้สึกปรารถนาดีจากเรา อานิสงค์หรือผลตอบแทนที่เราจะได้รับคือ ในชาตินี้จะทำให้ทำมาค้าขายรุ่งเรือง มีทรัพย์สินเงินทอง มีโชคมีลาภ หากตายไปชาติหน้าได้เกิดเป็นมนุษย์ก็จะทำให้เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย มั่งคั่ง สมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์ หรือไม่ก็เป็นผู้ที่มีลาภมาก ทำมาหากินขึ้น ร่ำรวย ทรัพย์สมบัติไม่วิบัติหายนะไปเพราะวินาศภัย เช่น โจร ไฟไหม้บ้าน พายุถล่ม ภัยธรรมชาติการรักษาศีล "ศีล" คือ ปกติ ซึ่งผู้ถือศีลได้ครบถ้วนอย่างน้อยศีล 5 จะเรียกว่า "มนุษย์" ส่วนผู้ที่ไม่ถือศีลหรือถือไม่ครบ จะเรียกว่า "คน" ศีลนั้นมีหลายระดับ คือ ศีล5 ศีล8 ศีล10 และศีล227 ซึ่งหลักการในการรักษาศีลเพื่อเป็นการเพียรพยายามระงับโทษทางกายและวาจา อันเป็นเพียงกิเลสหยาบ ไม่ให้กำเริบขึ้น และเป็นการบำเพ็ญบุญบารมีที่สูงขึ้นกว่าการให้ทาน ทั้งในการถือศีลด้วยกันเองก็ยังได้บุญมากน้อยต่างกันไปตามลำดับคือ - การให้ทานแม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล 5 แม้จะถือเพียงครั้งเดียวก็ตาม - การถือศีล 5 แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล 8 แม้จะถือเพียงครั้งเดียวก็ตาม - การถือศีล 8 แม้จะมากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล 10 คือการบวชเป็นสามเณร แม้จะบวชเพียงวันเดียวก็ตาม - การบวชเป็นสามเณร แล้วรักษาศีล 10 ไม่ขาด ไม่ด่างพร้อย แม้จะนานถึง 100 ปี ก็ยังได้บุญน้อยกว่าผู้ที่ได้บวชเป็นพระ ถือศีล 225 ข้อ แม้จะบวชได้เพียงวันเดียวก็ตามดังนั้นในการถือศีลแล้ว ผู้ที่ได้บุญมากที่สุด คือ ผู้ที่บวชเป็นพระการเจริญภาวนา "ภาวนา" คือ การทำจิตใจให้สงบ เห็นหลักความจริงของโลก เป็นการสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จัดว่าเป็นแก่นแท้ และได้บุญมากกว่าการถือ ศีลและการทำทาน การภาวนานั้นจะแบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ สมถภาวนา(การทำสมาธิ) และ วิปัสสนาภาวนา(การเจริญปัญญา) ซึ่งในพระพุทธศาสนาจะมีการอธิบายไว้อย่างละเอียดมาก แต่ผมจะสรุปเพียงสั้นๆ ให้ได้นำไปปฏิบัติกัน - สมถภาวนา คือ การทำสมาธิ การทำจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน วิธีปฏิบัติง่าย เพียงเรานั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ หายใจเข้า "พุทธ" หายใจออก "โท" ตัดความคิดเรื่องอื่น ๆ ออกไป ให้ใจจดจ่อ กับการกำหนดลมหายใจ อานิสงค์ของการทำสมาธิ มีมากกว่าการรักษาศีล จนเทียบกันไม่ได้ ดังคำตรัสของพระพุทธเจ้าที่ว่า "แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุ รักษาศีล 227 ข้อ ไม่ด่างพร้อยมาถึง 100 ปี ก็ยังได้บุญกุศลน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิเพียงให้จิตสงบเพียงชั่วไก่กระพือปีก ช้างกระดิกหู" - วิปัสสนาภาวนา คือ การเจริญภาวนา โดยก่อนจะเจริญภาวนา เราต้องทำสมาธิก่อน เราต้องเข้าใจความเป็นไปของโลกและชีวิต โดยหลักสำคัญก็คือ ขันธ์ 5 ให้ระลึกไว้เสมอว่า สังขารไม่เที่ยง สังขารไม่สามารถอยู่ในสภาพเดิมได้ ความไม่ใช่ตัวตน ซึ่งหลักการนี้ยากนักที่จะเข้าใจ แต่อานิสงค์มากล้นถึงที่สุด ในพระพุทธศาสนาสรุป ผมขอเรียงลำดับการทำบุญที่ง่าย และได้บุญเยอะ ตามลำดับ ดังนี้ 1. การทำสมาธิ ไม่ต้อเสียเงินทอง แถมยังได้บุญมากกว่าการถือ ศีล และ ทำทาน 2. การถือศีล เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เราควรถือศีล 5 ไว้เสมอ 3. การทำทาน หากมีเวลาว่าง ก็ไปทำบุญที่วัดบ้างเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในวันนี้ วันพรุ่งนี้ และในโลกหน้า ผมก็อยากให้เพื่อน ๆ ทำการสะสมบุญกันไว้เยอะๆนะครับ ขอขอบคุณรูปภาพจากภาพปก www.freepik.comภาพให้ทาน www.freepik.comภาพการรักษาศีล www.freepik.comภาพนั่งสมาธิ www.freepik.com