cr. unsplash ในขณะที่ สถานการณ์ โควิด19 ระบาด ไปทั่วอยู่ดี ๆ ญาติสนิทมิตรสายก็ส่งไลน์มาเตือนว่า ซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่แถวบ้านที่ไปซื้อของบ่อย ๆ นั้นมีข่าวหลุดออกมาว่ามี ผู้ที่มีแนวโน้มติดเชื้อ โควิด19 ไปเดินซื้อของและพักอยู่แถว ๆ นั้นซึ่งหากนับระยะทางก็ถือว่าไม่ไกลจากบ้านเรามากนัก แน่นอนว่าอาการจิตตกมาเยือนทันที เพราะก่อนหน้าที่จะได้รับคำเตือนในวันนี้ (27.3.63) นั้นประมาณสัก 1 สัปดาห์เพิ่งจะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์ มาเก็ตนั้น แต่ที่นั่นก็มีมาตรการป้องกันในระดับหนึ่งคือ 1.วัดไข้ก่อนเข้า (อันนี้แม้เชื่อไม่ได้เต็มร้อยแต่ก็ยังอุ่นใจว่าเราไม่มีไข้) 2.มีเจลล้างมือแทบทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นทางเข้า-ออก โซนของสด หรือ ของแห้ง มีเจลล้างมือเตรียมพร้อม ถุงมือสำหรับหยิบจับของสด แน่นอนว่ามันไม่เพียงพอกับการป้องกัน เพราะผู้ที่ไปจับจ่ายซื้อของนั้นก็ถือว่าเยอะพอสมควร มีทั้งใส่หน้ากากและไม่ใส่หน้ากาก เมื่อได้รับคำเตือนนี้มาแม้ว่าจะจิตตกแต่เมื่อลองวิเคราะห์ความเสี่ยงจากพฤติกรรมตัวเองในวันที่ไปซื้อของที่นั่นก็คิดว่าเราป้องกันตัวเองดีในระดับหนึ่งคือ 1.ใส่ หน้ากากอนามัย ไปด้วย 2.ล้างมือด้วยเจลที่ทางซุปเปอร์มาเก็ตมีให้ตลอดเรียกว่าตรงไหนมีกดล้างมือรัว ๆ 3.หยิบจับของสดใส่ถุุงมือ และไม่ใช้เวลานาน ยืนห่างจากคนอื่น ๆ 4.ใช้เวลาในซุปเปอร์มาเก็ตไม่นานประมาณ 20-30 นาที 5.สังเกตุตัวเองตามระยะเวลา ตั้งแต่ไปซื้อของที่นั่นจนถึงวันนี้อาการปรกติ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก และส่วนใหญ่อยู่ในบ้านมากกว่านอกบ้าน แน่นอนว่าคำเตือนนี้พาเครียด เพราะไม่ใช่แค่เราที่ไปซื้อของที่นั่น คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็นิยมไปซื้อเช่นกัน โดยเฉพาะบรรดาร้านอาหารตามสั่ง ร้านของชำต่าง ๆ เพราะสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด และไม่ไกลจากละแวกบ้านมากนัก แม้ว่าจะมีข่าว สถานการณ์ โควิด19 ระบาด แต่ผู้คนแถวบ้านก็ยังใช้ชีวิตกันปรกติ เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้านกันอยู่แล้ว ผู้คนจะรวมตัวดูคึกคักหนาแน่นก็ช่วงเช้า ๆ ออกมาซื้อของ มาใส่บาตร เพราะตอนเช้าในซอยบ้านจะมีของขายเยอะ พอสายหน่อยก็จะเงียบผู้คนไม่พลุกพล่านแล้ว จึงทำให้ดูสถานการณ์ไม่น่ากลัว แต่ตอนนี้คงจะไม่ใช่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือออกมาว่ามีอาจารย์โรงเรียมัธยมในซอยบ้านติดเชื้อไวรัส แต่ปิดข่าวกัน ก็ผวามาพักใหญ่ ๆ แต่ก็ระวังตัวเองไม่จำเป็นไม่ออกไปไหนนอกจากไปแค่ตลาด กับ ซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ที่มีข่าวลือเท่านั้น สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ 1.เช็คอาการตัวเองตามวิธีการต่าง ๆ เช่นการหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกลั้นหายใจให้นานที่สุดหากไม่มีอาการเจ็บหรือเหนื่อยคือปรกติ 2.ระวังไม่เข้าใกล้คนอื่น จะกักตัวคงลำบากเพราะหากขังตัวเองคงอดตายกันทั้งบ้าน เพราะตอนนี้เราคือเสาหลักต้องทำงาน ต้องดูแลทุกอย่างในบ้านคนเดียว ไม่มีใครรับผิดชอบแทนได้ ก็ระมัดระวังและเช็คสภาพร่างกายตัวเองเท่าทีทำได้ 3.เปลี่ยนสถานที่ซื้อของอันนี้สำคัญมาก คงเลิกออกไปข้างนอกไม่ว่าจะตลาด หรือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต เพราะในซอยยังมีร้านขายของสด เหมือนตลาดเล็ก ๆ เช้า ๆ ยังมีรถกับข้าวแวะเวียนมา หรือ ออกไปหน้าปากซอยก็ยังร้านผักผลไม้มาตั้งขาย ก็ถือว่าไม่ลำบากนัก และปรกติพวกของสดจะซื้อ 3 วันต่อครั้ง ซื้อมากก็ไม่ได้จะเสียไว 4.ตั้งสติ สิ่งที่ทำได้คือตอนนี้ต้องมีสติก่อน มั่นใจในระดับหนึ่งว่าเราไม่ติดแน่ ๆ เพราะนับจากช่วงเวลาที่แจ้งเตือนนั้นห่างจากที่เราไป 1 สัปดาห์คิดในทางที่ดีไว้ก่อนว่า ไม่โดน ไม่ใช่ ไม่ติด เพื่อให้สุขภาพจิตไม่เสีย cr unsplash นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับเราในช่วงที่ โควิด19 ระบาด เรียกว่าได้รับทั้งผลกระทบเรื่องงาน แล้วยังต้องมาระแวงว่าระบาดมาถึงแถวบ้านอีก บอกเลยว่าไม่สนุกจริง ๆ แม้ว่าหากเมื่อผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้ว เหตุการณ์นี้มันจะกลายเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังแบบสนุก ๆ ว่าใครเจออะไรกันมาบ้างก็ตาม ก็ถือว่าเป็นอีกบททดสอบใหญ่เพราะเจอกันทั่วโลก เรียกว่าใครไม่มีเหตุการณ์สั่นสะเทือนจิตใจเกี่ยวกับสถานการณ์นี้คงดูเชยกันไปเลยจริง ๆ เรามีเรื่องมาเล่าให้คุณอ่านแล้ว เรื่องของคุณเป็นแบบไหน แสดงความคิดเห็นกันมานะ แชร์ประสบการณ์กัน ถือซะว่ามีช่องทางผ่อนคลายระบายความเครียดกับสถานการณ์โรคระบาดกันไป สู้ ๆ กันต่อ ตอนที่คุณอ่านบทความนี้ ข่าวลือก็คงมีมาใหม่อีกระลอก ก็คงไม่ทำให้เราจิตตกแล้วล่ะ