หลายท่านคงจะทราบว่า ภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ส่วนใหญ่นั้นถูกดัดแปลงมาจากชุดนิยายวรรณกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Harry Potter ภาพยนตร์ที่โด่งดัง ซึ่งดัดแปลงมาจากชุดนิยาย 7 เล่ม จากนักเขียนชื่อดังอย่าง เจ. เค. โรว์ลิ่ง หรือภาพยนตร์เรื่อง Fifty Shades ภาพยนตร์แนวอีโรติก โรมานซ์ ก็ยังดัดแปลงมาจากชุดนิยายทั้งสามเล่มจากนักเขียน อี. แอล. เจมส์ บางคนอาจจะได้ไปชมภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมหลายเรื่องมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้อ่านชุดนิยายที่ดัดแปลงมา ซึ่งวันนี้เราจะพาท่านไปชมเหตุผลที่ควรย้อนกลับไปอ่านหนังสือนิยายถูกดัดแปลงจากภาพยนตร์พร้อม ๆ กัน ขอบคุณภาพจาก pixabay.comเนื้อหาที่แตกต่าง 1.เนื้อหาที่แตกต่างหรือขาดหายไปเนื่องจากเป็นสิ่งที่ดัดแปลงมาจากชุดนิยาย ซึ่งภาพยนตร์นั้นมีข้อจำกัดเรื่องเวลาไว้ด้วยเวลาไม่เกินสองชั่วโมง ทำให้บางเนื้อเรื่องหรือบางฉากอาจจะถูกตัดออกไปหรือแตกต่างจากหนังสืออย่างสิ้นเชิง ซึ่งแตกต่างจากนิยายที่ผู้เขียนสามารถเล่ารายละเอียดต่าง ๆ ได้ดี ดังนั้นเราอาจจะขาดสีสันที่ควรมีบางฉากออกไป เช่น อย่างเรื่อง Harry Potter ภาคศิลาอาถรรพ์ ในฉากด่านป้องกันศิลาอาถรรพ์ ถ้าตามในเนื้อหาหนังสือจะมีฉากแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ได้ใช้ขลุ่ยของแฮกริด ทั้งสามคนได้ขี่ไม้กวาดช่วยกันจับกุญแจบินได้ และเฮอร์ไมโอนี่ยังแสดงทักษะการคิดในด่านขวดยาของสเนป แต่ในภาพยนตร์ตัดออกเหลือแต่แฮร์รี่ขี่ไม้กวาดไล่จับกุญแจบินได้คนเดียว ส่วนเฮอร์ไมโอนี่อยู่ดูแลรอนหรือจะเป็นตัวละครบนหนังสือนั้นไม่มีตัวตนอยู่ในโลกของภาพยนตร์ เช่น ตัวละคร วิลลี่ วอดเดอร์ชินส์ ซึ่งในนิยายเรื่อง Harry Potter มีชื่อเสียงวีรกรรมเลื่องลือมากในด้านพ่อมดนักต่อต้านมักเกิ้ลที่ชอบเล่นพิเรนทร์กับมักเกิ้ล แต่ในภาพยนตร์เขาผู้นี้กลับไม่มีตัวตนทั้งนี้สาเหตุที่ตัดเนื้อเรื่องหรือเปลี่ยนแปลงออกไปนั้นอาจจะมาจากข้อจำกัดเรื่องเวลาของภาพยนตร์ที่ไม่สามารถเล่าได้หมดทุกอย่าง อาจจะเป็นเรื่องของงบประมาณ หรือดัดแปลงออกไปเพื่อสีสันที่แปลกใหม่ ภาพจาก pixabay.comรายละเอียดที่มากกว่า2.มุมมอง รายละเอียดที่มากกว่าในภาพยนตร์นิยายนั้นมีการเขียนบรรยายมากมาย ทำให้รับรู้ถึงอารมณ์และมีอารมณ์ร่วมไปได้มากกว่าภาพยนตร์ เนื่องจากในนิยายนั้นสามารถบรรยายรายละเอียดสิ่งของ บรรยายอารมณ์ของตัวละครว่ารู้สึกอย่างไรได้ดีกว่าภาพยนตร์ที่ฉายแค่ภาพหน้าของตัวละคร ซึ่งหากไม่ได้สังเกตเราอาจจะไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้ตัวละครเรารู้สึกเศร้ามากแค่ไหน และด้วยรายละเอียดสิ่งของต่าง ๆ จึงทำให้นิยายนั้นแสดงออกมาได้ดีกว่าภาพยนตร์ในบางครั้ง ภาพจาก pixabay.comเมื่อภาพยนตร์ไม่ได้ไปต่อ3.ภาพยนตร์ไม่ได้สร้างต่อจนจบเล่มจากนิยายมีหลากหลายภาพยนตร์ที่นำชุดซีรี่ส์นวนิยายมาดัดแปลง แต่แล้วก็ไม่ได้ไปต่อจนเนื้อหาจบลง ทำให้เหล่าแฟน ๆ มิน้อยต่างพากันเศร้าใจ หนทางเดียวที่จะรู้ว่าตอนจบของเรื่องเป็นอย่างไรคือการเข้าไปอ่านนิยายที่ทางภาพยนตร์ได้นำมาดัดแปลง ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ภาพยนตร์นั้นสร้างไม่จบ อาจจะมีสาเหตุเรื่องงบประมาณ หรือทำกำไรได้ไม่ดี จึงทำให้ไม่มีภาคต่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองแบบก็มีจุดเด่นและด้อยในตัวของมันอยู่ภาพยนตร์ จะมีจุดเด่นในเรื่องของไม่ต้องคิดจินตนาการมากมาย เพราะมีภาพออกมาให้ชมเลย แต่ก็อาจจะมีข้อเสียตามที่ได้กล่าวข้างต้นไป คือ ในเรื่องของรายละเอียดยิบย่อยที่เรานั้นอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าภายในจิตใจตัวละครคิดยังไงนิยายวรรณกรรม ก็จะมีจุดเด่นในเรื่องของอารมณ์ศิลป์ สามารถทำให้เราเข้าใจได้ลึกซึ้งมากกว่า เพราะบรรยายอารมณ์ บรรยากาศ ตัวละคร แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันคือในส่วนของคนที่ไม่ชอบในส่วนนี้นะครับ ก็จะไม่ชอบเลย คือ ในการอ่าน ซึ่งตัวหนังสือมีนับล้านพัน ไม่ก็จะนึกภาพจินตนาการไม่ออก ทั้งสองแบบจึงดีกันในคนละแนว ในส่วนของภาพยนตร์จะดีในเรื่องของไม่ต้องใช้คิดภาพตาม แต่ในส่วนของนิยายก็บรรยาย เข้าได้ได้ลึกซึ้งกว่า จึงดีและด้อยไม่แพ้กันเลย แล้วแต่ตัวบุคคลว่าชอบแบบไหนทั้งนี้ผู้เขียนบทความไม่ได้มีเจตนาที่จะบอกว่านิยายที่ถูกนำมาดัดแปลงนั้นดีกว่า แต่มีข้อเสนอแนะมาให้ได้ตัดสินใจเลือก เหมือนกับว่าเรากำลังตามเก็บเนื้อเรื่องสะสมเรื่องที่เราชอบ ขอขอบคุณภาพทั้งหมดจาก pixabay.com