บาหลีเกาะสวรรค์ ที่มีทั้งทะเล สายลม แสงแดด ศิลปะวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ออกมาอย่างน่าตะลึง ความสวยงามที่ว่านี้มันช่างน่าจดจำและน่าดื่มด่ำเป็นที่สุด จากทริปที่แล้วของเรา ที่ได้ไปนั่งชิงช้าและถ่ายรูปกับรังนกสวยๆ(Bali Swing) และได้ลองลิ้มชิมกาแฟที่แพงที่สุดในโลกอย่าง กาแฟขี้ชะมด (Luwak coffee) ไปแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างที่สุดของการมาเที่ยวบาหลี ก็คือ นาขั้นบันได (Tegalalang Rice Terrace) นั้นเองค่ะ เรายังอยู่กันที่ตอนบนของเมืองอูบุด ซึ่งนาขั้นบันได (Tegalalang Rice Terrace) อยู่ไม่ไกลจาก Bali Swing มากนัก พอเดินทางมาถึงก็มาเจอกับความเขียวขจีของนาข้าวกับต้นมะพร้าวที่สูงเด่น ที่ดูแล้วสดชื่นและสบายตาเป็นที่สุด เนื่องจากเรามากันในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งต้นข้าวยังโตไม่เต็มที่ ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝนด้วย บรรยากาศจึงดูอึมครึ้ม แต่วิวสวยๆและความเขียวขจีของนาข้าวก็ยังทำให้เรารู้สึกทึ่งอยู่ดี เนื่องจากพื้นที่ในเกาะบาหลีบางส่วนเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชัน ซึ่งอินโดนีเซีย ถือว่าเป็นประเทศแรกๆที่บุกเบิกการทำนาขั้นบันได พันธุ์ข้าวที่ปลูกก็เป็นพันธุ์ข้าวอินโดนีเซีย พันธุ์พื้นเมืองท้องถิ่นที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศและทนทานต่อโรคและแมลงเป็นอย่างดี ซึ่งนาขั้นบันไดเหมาะกับสภาพภูมิประเทศที่มีเนินเขาหุบเขาเป็นส่วนใหญ่ และขาดแคลนพื้นที่ราบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกให้มากขึ้น ช่วยลดปัญหาหน้าดินพังทลายจากการถูกน้ำฝนชะล้าง ทำให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนอีกด้วย หลังจากที่เราซื้อตั๋วเข้ามาเรียบร้อยแล้ว ก็เดินลงมาเรื่อยๆ จะเห็นว่าบริเวณใกล้เคียงจะมีร้านคาเฟ่และร้านอาหารต่างๆหลายร้าน ให้นั่งจิบเครื่องดื่มหรือทานอาหารพร้อมกับชมวิวสวยๆของนาข้าว ถัดมาอีกสักหน่อย ก็จะเจอจุดที่มีการรับบริจาคจากนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชม ซึ่งเงินที่ได้จากการบริจาคนั้นก็จะนำไปใช้สำหรับการดูแลนาข้าว ซึ่งตรงจุดนี้ใครจะสะดวกบริจาคกันคนละเท่าไหร่ก็ได้ตามศรัทธาไม่ว่ากันค่ะ เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เราจึงสามารถเดินลงไปชมนาข้าวได้อย่างใกล้ชิดเลยละค่ะ เรียกได้ว่าเดินไปทั่วเลยก็ว่าได้ ถ้าขยันเดินอ่ะนะ เพราะเส้นทางค่อนข้างลาดชันพอสมควร 555 นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเรามาในช่วงบ่ายกันแล้ว คนจึงเยอะพอสมควร ถ้ามาตอนเช้าๆหน่อยกำลังดีเพราะคนน้อย ถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน กว่าจะหามุมได้ เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาตลอด หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เตรียมตัวกลับกันเพราะบรรยากาศครึ้มๆ และฝนที่ตั้งเค้าส่งสัญญานบอกเราว่า ฝนจะตกลงมาเร็วๆนี้นะจ๊ะ ส่งท้ายกันด้วยภาพข้าวของอินโดนีเซีย เมล็ดจะสั้นกว่าพันธุ์ข้าวหอมมะลิของไทยเรา แต่ก็อร่อยนุ่มถูกปากใช้ได้ ส่วนอาหารที่เราสั่งมาทานกัน ถูกปากเป็นบางอย่าง ถึงจะมีเครื่องเทศที่ช่วยให้รสชาติจัดจ้าน แต่อาหารบางอย่าง อย่างผัดผักรวม ก็ค่อนข้างจืดชืดสำหรับคนไทยเราไปสักหน่อยค่ะ จากที่สอบถามมาจึงได้รู้ว่า เขาผัดผักใส่แค่เกลือกับพริกไทยเท่านั้น แฮ่ะๆ มิน่าละ สำหรับใครที่ชอบความเขียวขจีและวิวสวยๆ ที่ดูแล้วสดชื่นสบายตา มาบาหลีทั้งทีก็อย่าลืมแวะมาถ่ายภาพสวยๆที่ นาขั้นบันไดกันนะคะ แล้วตอนหน้าจะพาไปชมวัดน้ำพุสักดิ์สิทธ์กันค่ะ ( เครดิตภาพ : ผู้เขียน )