เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนแล้วผลผลิตทางการเกษตรหลายชนิดกำลังออกผลเตรียมจำหน่ายตามท้องตลาด และผลไม้ที่เป็นที่นิยมในหน้าร้อนและทำเงินรายได้อย่างมหาศาลอย่าง "ทุเรียน" ก็กำลังออกมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พูดถึงทุเรียนในปีที่แล้ว 2562 ไทยเราส่งออกทุเรียนไปจำหน่ายในประเทศจีนทั้งทุเรียนสดและทุเรียนแช่แข็ง สร้างรายได้นับหมื่นล้านบาทให้แก่เกษตรกรชาวสวนทุเรียน แต่มาปีนี้เค้าลางการส่งออกทุเรียนดูไม่ดี เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ที่ระบาดหนักในจีนตั้งแต่ต้นปี 2563 มานี้ ทำให้ประเทศจีนปิดประเทศ เพื่อป้องกันการระบาดของโรค ซึ่งแน่นอนมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยแน่ๆ โดยกระทบหลักๆ เลยคือ การท่องเที่ยว, การค้าการลงทุน, การส่งออกสินค้า ทุกอย่างสะดุดหมด ทัวร์ท่องเที่ยวจีนมาไทยถูกระงับชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์ของการระบาดของโรคจะดีขึ้น ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสนี้จะลากยาวไปถึงเมื่อไหร่ ภาพจาก : pixabay.com ถ้าพูดถึงเรื่องการท่องเที่ยวเมืองไทยเรามีรายได้หลักจากการท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาก็เป็นรายได้จากการค้าการส่งออกพวกสินค้าเกษตร นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวคนจีนกว่า 80% ถ้าจีนปิดประเทศไปนั่นหมายถึงรายได้จากการท่องเที่ยวก็หายไปเกินครึ่งเช่นกัน ผู้ที่ได้รับผลกระทบหลักจะเป็นกลุ่มผู้ที่ให้บริการการท่องเที่ยว อย่างบริษัททัวร์, สายการบิน, โรงแรม, รีสอร์ท, แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อันเป็นที่นิยมของคนจีนรวมไปถึงห้างสรรพสินค้าต่างๆ พ่อค้าแม่ขายตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือตามตลาดต่างๆ ที่ต้องพึ่งพารายได้จากการมาเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าค้าขายไม่ดีเลย คนมาเที่ยวก็ลดลงรายได้เริ่มไม่พอกับรายจ่าย คนที่หมุนเงินไท่ทันต้องกู้หนี้ยืมสินกันอีก อย่างโรงแรมรีสอร์ทในช่วงนี้หลายแห่งมีการลดราคาที่พักกันเยอะ ซึ่งในปีที่ผ่านๆ มามันน่าจะเป็นช่วง High Season ช่วงของธุรกิจท่องเที่ยวกอบโกยรายได้ แต่ต้นปีนี้กลับตรงกันข้าม พนักงานโรงแรมบางแห่งต้องเว้นวันมาทำงาน เนื่องจากคนเข้าพักน้อยลง ถ้าธุรกิจท่องเที่ยวเหล่านี้เกิดขาดทุนจะเกิดอะไรขึ้น พนักงาน, ไกด์พาเที่ยว ล่ามแปลภาษาจีนก็จะทยอยกันว่างงาน ในเมื่อคนไม่กล้าที่จะออกไปเที่ยวที่ไหนเพราะกลัวว่าจะติดโรคระบาด จึงทำให้หลายอาชีพได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่านี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงประเทศไทยเพียงประเทศเดียว อาจกระทบจะทั่วทั้งเอเชียเลยด้วยซ้ำ ภาพจาก : pixabay.com / pixabay.com กลับมาที่เรื่องการส่งออกสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตรผลไม้ไทยอย่างมะพร้าว, ทุเรียน ที่กำลังออกผลผลิต เมื่อจีนปิดกั้นการนำเข้าสินค้าต่างๆ ชาวสวนผลไม้ไม่สามารถส่งผลผลิตสินค้าขอวตนเองไปยังประเทศจีนได้จะทำอย่างไร จะส่งไปประเทศอื่น หรือว่าจะเก็บไว้ขายภายในประเทศ ถ้าส่งไปประเทศอื่นคือมันต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่นะ และก็ไม่รู้จะคุ้มทุนหรือเปล่า ถ้าส่งไปประเทศไกลๆ จะเกิดปัญหามีความเสี่ยงไหม แต่ถ้าเก็บไว้ขายในประเทศไทยเองก็แน่นอน ถ้าผลผลิตออกมามากจนล้นตลาด ราคาผลไม้ก็จะถูกลงเราก็อาจจะได้กินทุเรียนคุณภาพราคาถูกจากสวน ซึ่งชาวสวนผลไม่ก็จะยังพอขายได้ในราคาที่คุ้มทุน บางเจ้าอาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ ภาพจาก : pixabay.com ฉะนั้นคนไทยเราต้องร่วมกันฟันฝ่าปัญหาต่างๆ เหล่านี้ไปด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการควบคุมโรคระบาด ปัญหาคนในสังคมที่กำลังจะตกงาน ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ปัญหาเศรฐกิจที่ชะลอตัว คนที่พอมีเงินมีกำลังซื้อต้องช่วยกันอุดหนุนใช้จ่ายซื้อสินค้าไทย ท่องเที่ยวในเมืองไทย ส่วนคนที่ไม่มีเงินก็ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ทางรัฐจะต้องออกมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อดึงมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของสินค้าไทย (GDP)ไม่ให้ต่ำไปมากกว่านี้ ถ้าปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ยังยืดยาวไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้าผมคิดว่าเราต้องช่วยกันประคองเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปให้ได้มิฉะนั้นคงต้องแย่กว่านี้อีกเป็นแน่ บทความโดย : กัมบี้บ็อกซ์ ภาพประกอบทั้งหมดจาก : pixabay.com