หลายๆคนคงสงสัยว่า PM 2.5 คืออะไร? PM 2.5 ก็คือฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เป็นฝุ่นที่เล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมปอด และกระแสเลือดโดยตรง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง PM 2.5 ก่อให้เกิดอันตรายอะไรบ้าง? PM 2.5 ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคผิวหนัง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็งปอด โรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจส่วนล่าง ซึ่งกลุ่มเสี่ยง PM 2.5 ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคปอดหรือโรคหัวใจ ที่ต้องระวังและควรมีการป้องกันเป็นพิเศษ แนวทางป้องกันฝุ่น PM 2.5 1. ปิดประตูหน้าต่าง หมั่นทำความสะอาดบ้าน 2. ลดการใช้รถยนต์ ไม่เผาขยะ เพราะการเผาจะก่อให้เกิดควันและฝุ่นละอองมากขึ้น 3. เลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกาย แนะนำให้ออกกำลังกายในฟิตเนสหรือในอาคารก่อนนะคะ เพราะ อากาศภายนอกอาคารมีแต่มลพิษและฝุ่นที่อาจก่อให้เกิดโรคมากกว่าจะป้องกันโรคค่ะ บางคนที่ใส่หน้ากากวิ่งออกกำลังกาย อันนี้ห้ามทำโดยเด็ดขาดค่ะ เพราะหน้ากากจะเป็นการปิดกั้นทางเข้าออกซิเจนที่จะนำไปแลกเปลี่ยนก๊าซ จะทำให้เราขาดอากาศหายใจ อาจหมดสติได้ค่ะ 4.ใช้หน้ากากที่มีประสิทธิภาพ หน้ากากที่แนะนำคือหน้ากาก N95 ประสิทธิภาพการกรองต่ำสุด 95% หรือหน้ากากชนิด P2 หรือ FFP2 ประสิทธิภาพการกรองต่ำสุด 94% หรือจะลดลงมาหน่อยจะเป็นหน้ากากชนิด P1 หรือ FFP1 ประสิทธิภาพการกรองต่ำสุด 80% ข้อแนะนำ สามารถสวมใส่ต่อเนื่องเป็นเวลานานได้ และสามารถใช้ซ้ำได้จนกว่าจะสกปรกหรือชำรุด หากรู้สึกอึดอัด หายใจลำบาก ควรถอดหรือเปลี่ยนหน้ากากใหม่ การประยุกต์หน้ากากป้องกันฝุ่นเอง (กรณีหาหน้ากาก N95 ไม่ได้) การประยุกต์ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่น เมื่อฝุ่นเพิ่มขึ้น สิ่งที่ขาดตลาดก็คือหน้ากากN95 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ยิ่งต้องการ ยิ่งหายากมากขึ้น เราจึงมีวิธีการประยุกต์หน้ากากที่สามารถนำมาใช้ป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ซึ่งมีประสิทธิภาพการกรองได้พอๆกับ N95 โดยการใส่ “หน้ากากอนามัย พร้อมกับกระดาษทิชชู 1แผ่น พับครึ่ง” ซึ่งทางคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทำการทดลองแล้วพบว่าประสิทธิภาพการกรองใกล้เคียงกัน (ภาพประกอบเป็นภาพที่นักเขียนจัดทำขึ้นเองเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น) ในช่วงนี้ฝุ่นมีปริมาณมากอยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีนะคะ เพราะฝุ่นที่เรารับเข้าไปอาจไปสะสมซึ่งอาจไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายในทันทีแต่ในระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคได้ค่ะ