กรุงเทพมหานครไม่ได้มีแต่สีสันแสงเสียง และความโอ่อ่าทันสมัยเพียงอย่างเดียว ความเจริญของเมืองหลวงอีกด้านยังเปี่ยมไปด้วยความงามสิวิไลอันเป็นศิลปะที่ถ่ายทอดลงบนชิ้นงานและสถาปัตยกรรมที่น่าตรึงใจ บทความนี้ชวนไปชมแง่งามของศิลปะแบบชาววังขนานแท้ เดินทอดน่องท่องกรุงชมพระที่นั่งวิมานเมฆ และพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งปัจจุบันนี้พระที่นั่งวิมานเมฆไม่ได้เปิดให้เข้าชมแล้ว บทความนี้จึงถือโอกาสพาไปรำลึกความงดงามของพระที่นั่งวิมานเมฆที่อาจไม่มีโอกาสได้ชมอีก ยามสายเข้าชมพระที่นั่งวิมานเมฆ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาชมกันเยอะแยะ แต่เราพบนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ การเข้าชม คือ ห้ามทุกคนพกมือถือและกล้องถ่ายรูป จะมีวิทยากรพาชมและเล่าประวัติความเป็นมาต่างๆให้ฟัง พระที่นั่งนี้สร้างขึ้นเป็นที่ประทับในรัชกาลที่ 5 จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์รวมทั้งของเชื้อพระวงศ์ท่านอื่นๆด้วย จัดแสดงเป็นห้องต่างๆโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามสีห้อง เช่น ห้องจัดแสดงอาวุธต่างๆ ห้องจัดแสดงงาช้างและเขาสัตว์ โดยวิทยากรเล่าว่าประชาชนมอบให้พระองค์แต่พระองค์ไม่โปรดการล่าสัตว์ ห้องจัดแสดงของเล่นในพระเจ้าลูกยาเธอเมื่อทรงพระเยาว์ เป็นต้น ตามผนังประดับภาพเก่าที่หาดูอยากในเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งภาพถ่ายขณะประพาสต่างประเทศ มีจัดแสดงของต่างๆที่ประเทศพันธมิตรถวายเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี เช่น แจกันและโถเคลือบลายสวยงามจากจีน ญี่ปุ่น เครื่องเรือนจากฝรั่งเศส อังกฤษ ซึ่งของทุกชิ้นล้วนมีอายุ 200 ปีขึ้นไปทั้งสิ้น วิทยากรพาเราไปดูร่องรอยระเบิด 2 ลูก ที่ตกลงพระที่นั่งวิมานเมฆ เมื่อเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าระเบิดทั้ง 2 ลูกด้านดับไปเอง พระที่นั่งวิมานเมฆเป็นพระที่นั่งไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน เราเดินจากพระที่นั่งวิมานเมฆเข้าสู่พระที่นั่งอนันตสมาคมซึ่งไปไกลจากกันนัก ระหว่างทางเราจะพบว่ามีนกกาเยอะ ซึ่งบริเวณนี้คือสวนอัมพร พระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลีทั้งหลัง ภายในสวยงามหรูหรายิ่งนัก แหงนมองด้านบนเพดานมีภาพวาดที่สวยงาม บ้างก็เป็นพระนามพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี เราเดินชมมาถึงบริเวณที่จัดแสดงผ้าทอและข้าวของต่างๆที่ประดับด้วยอัญมณีสีเขียวมรกต วิทยากรเล่าให้ฟังว่า สีเขียวมรกตที่เห็นคือปีกของแมลงทับ เมื่อ 32 ปีก่อน สมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้พาสาวใช้ไปทำความสะอาดพระที่นั่งวิมานเมฆ และได้พบผ้าทอผืนหนึ่งที่เก่ามากจนเนื้อผ้าขาด แต่ปีกแมลงทับที่ติดกับผ้ายังแวววาวอยู่ ท่านจึงได้ศึกษาจึงรู้ว่าแมลงทับเมื่อสิ้นอายุและเราเก็บรักษาปีกของมันไว้ ยิ่งนานปีกก็ยิ่งสวย ท่านจึงได้นำปีกแมลงทับมาประดับข้าวของต่างๆจนสวยงาม และเป็นที่แรกในโลก เราได้เห็นงานแกะสลักจากไม้ชิ้นเดียวเป็นเรื่องราวต่างๆที่สวยงาม พบผ้าปักเป็นภาพเรื่องราวต่างๆบนผ้าผืนเดียวที่น่าอัศจรรย์ ได้ชมเรือสุพรรณหงษ์ทองคำจำลองที่ล้ำค่า และอื่นๆอีกมาก มีนิทรรศการแสดงผลงานฝีมือคนไทย เช่น ผ้าปักลวดลายสวยงาม ตุ๊กตาดินปั้นรูปเด็กไทย งานสานไม้ สานเส้นทองคำเส้นเงินเป็นสิ่งต่างๆ เป็นต้น ศิลป์แผ่นดินไม่ใช่เพียงศิลปะ แต่ยังมีภูมิปัญญาและรากเหง้าความเป็นไทยอยู่ในนั้นด้วย การเดินทางในหนึ่งวันนี้ เต็มไปด้วยความสนุก ความตื่นตา และได้ซาบซึ้งในความเป็นชาติไทย นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาเดินทอดน่องท่องกรุง ชมศิลปะแบบชาว เพราะไม่แน่ว่านับจากนี้เราจะมีโอกาสมาชื่นชมสมบัติอันล้ำค่าของชาติเช่นครั้งนี้อีก หมายเหตุ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน