ความแตกต่างระหว่างมังงะ (Manga) และมังงะไทย โดยปกติแล้วบทความทั่วไปมักจะขึ้นต้นด้วย "หัวข้อ" หรือคำว่า "สวัสดี" แต่ผมไม่ค่อยอยากจะเขียนอะไรแบบนั้นเลยฉะนั้นผมขอแนะนำตัวก่อนละกัน ผมชื่อ Leon อายุ 28 ปีเป็นคนธรรมดาที่มีประสบการณ์ด้านวงการการ์ตูนอยู่พอสมควร เอาและแนะนำตัวเสร็จแล้วอย่ามัวเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่ากับหัวข้อบทความนี้ "ความแตกต่างระหว่าง มังงะ (Manga) และการ์ตูนไทย" ปฏิเสธไม่ได้ฮะว่ามังงะหรือหนังสือการ์ตูนยังคงเป็นหนึ่งในความบันเทิงในปัจจุบันอยู่ ถึงแม้ปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนมากนิยมหันไปอ่านมังงะบนอินเตอร์เน็ตหรือระบบดิจิตอลเป็นส่วนใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายมังงะนั้นลดลงอย่างน่าเป็นห่วง เพราะผู้คนส่วนใหญ่นั้นยังคงนิยมซื้อมังงะอยู่แต่ไม่ได้ซื้อมาอ่านเพียงอย่างเดียวแต่ซื้อมาสะสมและอุดหนุนผลงานของอาจารย์นักเขียนท่านนั้น และอีกอย่างที่นักอ่านทุกคนปฏิเสธไม่ได้ก็คือกลิ่นหมึกในมังงะนั้นมันหอมและเหม็นในเวลาเดียวกันจนน่าติดใจ "ยอมรับเถอะ" ที่นี้ความแตกต่างระหว่างมังงะ 2 ประเทศนี้คืออะไรละ ? คำตอบคือในเรื่องของคุณภาพและความสนุก การ์ตูนญี่ปุ่นนั้นมีมาตรฐานที่สูงจนนากกลัวสำหรับนักวาดบางคนเพราะนอกจากจะต้องวาดภาพให้สวยแล้ว ยังต้องทำเนื้อเรื่องออกมาให้สนุกโดนใจคนอ่านและยังต้องน่าติดตามอีกนี่ยังไม่นับรวมที่ต้องออกแบบตัวละคร คุยงานกับบรรณาธิการหรือ บ.ก. (ถ้าใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง "บาคุมัง" จะรู้ดีว่านักเขียนการ์ตูนทำงานยังไง)ที่สำคัญยังทำให้เสร็จอย่างสม่ำเสมออีกด้วย เรียกได้ว่านอกจากมาตรฐานจะสูงแล้วยังเหนื่อยอีกต่างหาก แต่เพราะแบบนั้นผลตอบแทนของวงการอาชีพนี้เลยสูงอย่างน่าประหลาดใจเพราะต้นฉบับ 1 หน้านั้นราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3000-5000 บาทต่อหน้า (ราคาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสำนักพิมพ์) ซึ่งถ้าการ์ตูนเรื่องนั้นได้รับความนิยมสูงค่าต้นฉบับต่อหน้าก็จะสูงไปด้วยนี่ยังไม่รวมรายได้ด้านอื่นๆอีกนะ ถึงมาตรฐานการ์ตูนญี่ปุ่นจะสูงแต่ใช่ว่านักวาดการ์ตูนคนไทยนั้นจะเอาชนะไม่ได้ แต่คำถามคือจะเอาชนะมาตรฐานเหล่านั้นไปทำไมละ มังงะไทยนั้นแตกต่างกับญี่ปุ่นเป็นอย่างมากในด้านของการทำงาน เพราะที่ญี่ปุ่นนั้นจะมีสำนักพิมพ์จำนวนมากคอยรองรับผลงานและมีขั้นตอนและกำหนดการที่ชัดเจนแต่ที่ประเทศไทยไม่ใช่แบบนั้น ประเทศไทยนักเขียนส่วนใหญ่นิยมเขียนการ์ตูนลงเว็บหรือเขียนและผลิตเองเพราะเนื่องจากไม่คอยมีสำนักพิมพ์ที่รองรับผลงานและทำงานจริงจังเหมือนที่ญี่ปุ่นมากหรือถ้ามีส่วนมากก็จะเจ๋งไปซะส่วนใหญ่ ทำให้มาตรฐานนั้นตกลงไปโดยปริยาย เพราะไม่มีบรรณาธิการคอยให้คำแนะนำอีกทั้งยังไม่ต้องรับความเสี่ยงใดๆเหมือนกับการ์ตูนญี่ปุ่นเช่น "การตัดจบเป็นต้น" ทำให้การ์ตูนไทยนั้นอยากแต่งเนื้อเรื่องยังไงก็แต่ง อยากวาดภาพยังไงก็วาด อยากทำการ์ตูนตอนไหนก็ทำเพราะไม่มีกำหนดการ ทั้งหมดนี้ทำให้การ์ตูนไทยไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนและมีมาตรฐานที่แตกต่างกับมังงะญี่ปุ่น รูปภาพถ่ายและแคปโดยนักเขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !