ระยะหลังมานี่ผู้คนพูดถึงคำว่า “คุณธรรม” กันมากขึ้น อ้างคำว่า “จริยธรรม” กันมากขึ้น ทั้งที่จริง ๆ แล้วคำว่า คุณธรรม หรือ จริยธรรม แทบจะเป็นนามธรรมที่พิสูจน์ทราบกันได้ยากเหลือเกิน ยิ่งหากถูกครอบทับด้วยมายาคติ หรืออคตินี่ก็ยิ่งยากไปกันใหญ่ มนุษย์เราถึงได้มีการเขียนกฎหมายขึ้นมาเป็นบรรทัดฐานรับใช้สังคมยังไงล่ะ ทุกสังคมจึงมีการเขียนกฎเกณฑ์เป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมา เพื่อให้คนในสังคมยึดถือปฏิบัติให้สอดคล้องร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere การใช้ตัวบทกฎหมายปกครองสังคม ก็เพื่อหวังมุ่งเน้นขจัดปัญหาความขัดแย้งที่จะนำไปสู่การละเมิดสิทธิ์ซึ่งกันและกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม กฎหมายก็ขึ้นอยู่กับการตีความตามเจตนารมณ์ได้อีกเหมือนกัน และช่วงหลัง ๆ เหมือนเราจะได้ยินคำอีกคำบ่อยขึ้น นั่นก็คือคำว่า “สองมาตรฐาน” นั่นก็เพราะแต่ละคนได้รับผลในทางปฎิบัติจากตัวบทกฎหมายที่ผลลัพธ์อาจจะแตกต่างกัน และพอฝ่ายตัวเองไม่ได้ตามที่ใจพึงปรารถนา ก็ปักใจเชื่อว่าไม่ได้รับความยุติธรรม เป็นอย่างนั้นไปซะอีก แต่ในโลกของความเป็นจริง มนุษย์จะอยู่ร่วมกันเป็นสังคมได้ คงไม่ใช่เพราะการยึดถือกฎหมายอย่างเดียวได้ซะเมื่อไหร่ มนุษย์เรายังต้องมีคุณค่าทางสังคมอย่างอื่นให้ยึดถือควบคู่กันไปด้วย อย่างเช่น คุณค่าทาง คุณธรรม-จริยธรรม ที่ว่ามานั่นแหละ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น กฎหมายก็อาจถูกใช้เป็นเครื่องมืออย่างพร่ำเพรื่อ จนเกินขอบเขตที่พอเหมาะพอควรได้เหมือนกัน ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere หรือหากจะยึดถือกันจนเป็นวิถีธรรมเนียมของสังคมว่า ปัญหาขัดแย้งทุกเรื่องต้องจบ ต้องยุติด้วยการใช้กฎหมายเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ๆ ต่อให้เป็นประเทศที่มีระบบกฎหมาย มีระบบยุติธรรมที่ดีที่ก้าวหน้ามาก ๆ และหากสังคมที่มีความขัดแย้ง โดยที่แทบทุกเรื่องต้องไปจบกันด้วยการขึ้นโรงขึ้นศาลเพียงเท่านั้น เราตอบกันได้ไหมว่าสังคมจะน่าอยู่จริงหรือเปล่า? สิ่งเหล่านี้นี่ก็สะท้อนถึงคำว่าคุณธรรม-จริยธรรม หรือความมีสปิริตของคนในสังคมได้ว่า จริง ๆ แล้วเรามองสังคมกันแบบไหน ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere แต่การจะมีสังคมที่คุณธรรม-จริยธรรมที่ก้าวหน้าได้จริง ๆ นั้น เราต้องมีรัฐ มีประเทศ มีการปกครองที่มีระบบระเบียบที่ดีมากเสียก่อน สังคมต้องมีความสมดุลทางโครงสร้าง มีความเข้าใจเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐาน เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอิฐก้อนล่างที่ก่อร่างสร้างกำแพงคุณธรรม-จริยธรรม ขึ้นมาเป็นป้อมปราการ และด้วยหลักจริยธรรมพื้นฐานนี่เอง ที่เราใช้วัดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่มีอารยธรรม แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ทุกวันนี้สังคมเรากำลังขาดแคลนคุณค่าเหล่านี้ลงไปทุกขณะ ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere แต่สิ่งนึงที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวังก็คือ การใช้มายาคติเหล่านี้ไปมุ่งทำร้ายคนอื่น ไปกล่าวหาคนอื่น หากใช้ขึ้นมาจะนับเป็นผลร้ายแรงยิ่งกว่าผลของเหตุอย่างอื่นมากมายทีเดียว อย่างในสังคมโบราณที่มีการล่าแม่มดกันเกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผลนั่นแหละ เพราะในสังคมสมัยใหม่ที่คนหลากหลายอาศัยอยู่ร่วมกัน เราไม่สามารถไปชี้นิ้วบอกใครได้อย่างชัดเจนว่า ใครคนไหนจะเป็นคนดีมากกว่าใคร สังคมไม่มีเครื่องชั่ง ตวง วัด คุณค่าเหล่านี้ ไม่มีใครมีไม้บรรทัดจริยธรรม ที่จะใช้วัดคุณค่าของผู้หนึ่งผู้ใด และคุณธรรม-จริยธรรมไม่ได้มีไว้แอบอ้างกดทับสิทธิ์คนอื่น หรือยกตนข่มท่านว่าอยู่เหนือกว่าใคร ๆ ด้วยเช่นกัน พื้นฐานของสังคมนอกจากอยู่ร่วมกันได้ด้วยกฎหมายฉบับเดียวกันแล้ว ยังต้องอยู่ร่วมกันได้ด้วยคุณค่าทางจิตใจที่เคารพยึดถือในแบบอย่างที่เหมือน ๆ กันด้วย นี่ต่างหากจึงจะทำให้สังคมที่เราอยู่ร่วมกันเกิดความสุขสงบอย่างแท้จริง ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere และภาพปกจาก pxhere