เคยสงสัยกันไหมครับว่า “คนกรุงเทพฯหรือคนบางกอก” คือใคร นี่เป็นคำถามใหญ่สำหรับผม เมื่อต้องเข้ากรุงไปเรียนรู้วิถีชีวิตคนเมืองหลวง ชั่งใจอยู่ว่าจะเลือกไปไหนก่อนดีถึงจะตรงเป้าในการมาครั้งนี้ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ชุมชนเมืองหรือห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ หลังจากหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ ผมจึงเลือกไปที่พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกหรือชื่ออย่างเป็นทางการก็คือ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนแบบบ้าน ๆ ที่น่าจะช่วยคลายความสงสัยข้อนี้ของผมได้ในแผนที่บอกว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร หลังจากเดินวกไปวนมาอยู่พักใหญ่ ผมก็มายืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง กำแพงสีขาวซีดมีต้นตีนตุ๊กแกเลื้อยคลุมเกือบตลอดกำแพง ประตูทำจากไม้สีเทาขาวตัดกันดูแปลกตา ลวดลายเป็นแบบเรขาคณิตเหมือนสมัยเก่า พอเดินเข้าไปด้านในก็มีอาสาสมัครเจ้าหน้าที่ประจำพิพิธภัณฑ์แจกแผ่นพับและแนะนำความรู้ทั่วไปว่า พิพิธภัณฑ์จัดตั้งขึ้นโดย รศ.ดร.วราพร สุรวดี ปัจจุบันท่านเสียชีวิตแล้ว มีวัตถุประสงค์ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนบางกอกในพื้นที่เขตบางรักสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะเกิดขึ้น ก่อนจะกำชับว่า อาคารทั้ง 3 หลังนี้เก่าแก่มากกว่า 100 ปี ขอให้เดินเบา ๆ อย่างระมัดระวังและช่วยถอดรองเท่าก่อนขึ้นอาคารทุกหลังด้วย ที่สำคัญที่นี่เป็นเพียงแค่สถานที่จำลองชีวิตส่วนหนึ่งของคนบางกอกเท่านั้น แต่ก็ลองดูน้องอาจจะได้จิ๊กซอว์อีกตัวหนึ่งที่จะเชื่อมให้ได้คำตอบที่สงสัยอยู่ก็ได้มาเริ่มต้นที่อาคารหลังแรกก่อนครับ อาคารหลังนี้เป็นอาคาร 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ทรงปั้นหยา แต่เดิมนั้นเป็นบ้านพักจริง ๆ ของเจ้าของกับครอบครัว ด้านในมีห้องต่าง ๆ เหมือนบ้านของชนชั้นกลางทั่วไปสมัยนั้น ชั้นล่างประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก และห้องอาหาร ชั้นบนมีห้องหนังสือ ห้องนอน ห้องแต่งตัวและห้องน้ำ หน้าต่างทำเลียนแบบช่องลม สามารถเปิดปิดได้ตามต้องการ ด้านหลังมีระเบียงยื่นออกไปเป็นที่นั่งเล่นชมสวนไม้ดอกและสระน้ำขนาดเล็กอาคารหลังที่สอง เป็นอาคาร 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้เช่นกัน แต่เดิมคุณหมอฟรานซิส คริสเตียน จะสร้างเป็นคลินิกให้บริการประชาชนที่ซอยงามดูพลี เริ่มสร้างได้ไม่นาน พอท่านป่วยและเสียชีวิต ญาติจึงจำลองมาสร้างไว้ที่นี่แทนเพื่อเป็นการระลึกถึงท่าน ด้านบนชั้น 2 จึงเป็นที่รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้และห้องสำหรับให้บริการทางการแพทย์แบบดั้งเดิมและของใช้ส่วนตัวของท่าน ที่ผมสนใจมากคือ ท่านได้ถ่ายรูปกับท่านรพินทรนาถ ฐากุร นักปรัชญาคุรุเทพเอกอุของประเทศอินเดีย ซึ่งผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านงานเขียนของท่านมากอาคารหลังที่สาม เป็นอาคารที่น่าจะใกล้เคียงกับคำถามของผมมากที่สุด เป็นอาคาร 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้เช่นกัน ด้านในชั้นล่างเป็นคลังข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องมือ เครื่องประดับ มุมจำลองเครื่องครัว ชั้นบนแบ่งเป็น 2 โซน โดยโซนด้านในเป็นนิทรรศการถาวรบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่เขตบางรักและกรุงเทพมหานครตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โซนระเบียงด้านนอกเป็นนิทรรศการผลงานของ รศ.ดร.วราพร สุรวดี โดยเฉพาะเรื่องอักษรภาพจีนโบราณที่ท่านชอบมากเป็นพิเศษ จนออกแบบและพัฒนาเป็นอักษรภาพภาษาไทยที่มีอยู่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น เช่น เพลงจันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า เพลงหนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือ ยอมรับว่าท่าเก่งและมีความพยายามมากจริง ๆหลังจากดูเรื่องราว ข้าวของเครื่องใช้ในพิพิธภัณฑ์จบ ผมก็ยังไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ว่า “คนกรุงเทพฯหรือคนบางกอก” คือใคร แต่จะสำคัญอะไรหล่ะ ในเมื่อถิ่นที่อยู่แถบนี้ถูกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำอยู่ทำกินตั้งแต่ดึกดำบรรพ ทุกเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ล้วนเป็นหนี้พื้นที่แถบนี้ในการดำรงชีวิตสร้างชุมชน เมือง อาณาจักรและประเทศทั้งนั้น ทั้งภาษา อาหาร เครื่องแต่งกาย วิถีชีวิต ถูกถ่ายทอดส่งไขว้ผสมกลืนประสานกันจนแทบหาจุดกำเนิดไม่เจอ คำถามที่ผมถามข้างต้นจึงไม่สิ่งสำคัญแต่อย่างใด เพราะแท้จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชนชาติหรือเผ่าพันธุ์ใด เราก็เป็นแค่ช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกที่พร้อมจะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปไม่สิ้นสุดอยู่นั่นเอง ที่ตั้ง : เลขที่ 273 ซอยสะพานยาว แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานครวันเวลาเปิดปิด : 10.00 - 16.00 น. วันพุธ - วันอาทิตย์ (หยุดจันทร์และอังคาร)เบอร์โทรติดต่อ : 02 233 7027อัตราค่าบริการ : ไม่เสียค่าเข้าชมภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน : อนุญาตให้ใช้เพื่อการศึกษาได้ฟรี