สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่ารัก ช่วงเวลาได้อยู่บ้านช่วยชาติยาว ๆ แบบนี้ สาวไทยใหญ่น้อยทั่วบ้านทั่วเมือง ต่างพากันพลีใจให้ ‘โอปป้าหน้าหยก ‘ เพื่อบรรเทาอาการซึมเศร้าเหงาอารมณ์กันไป ซีรีส์เกาหลีเรื่องแล้วเรื่องเล่า มีให้ชมให้เฝ้าติดตามตอนต่อไปแบบใจจดใจจ่ออาการ ‘ เกาหลีขึ้นสมอง ‘ จึงบังเกิดขึ้นกับฉันจนได้...เฮ้อ ถึงเวลาเข้าครัว เพื่อพักสายตาสักประเดี๋ยวแล้วค่ะ วันนี้มีเวลาจำกัดนะ จะมัวโอ้เอ้ได้ยังไง ก็พระเจ้าอีกน ( The King : Eternal Monarch ) กำลังจะขี่เจ้าม้าแม็กซีมุส ข้ามมาโลกคู่ขนานเพื่อตามหาศัตรูที่ฆ่าพ่อน่ะสิ! เริ่มด้วยการสำรวจวัตถุดิบคงเหลือในตู้เย็นกันก่อน ฉันมีกุ้งแชบ๊วยตัวโต ที่คุณน้องสามีจัดมาให้จากตลาดทะเลไทย นอนสงบเยือกเย็นเป็นกุ้งจำศีลในช่องแช่แข็งตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ถึงเวลาออกมาปฏิบัติหน้าที่ช่วยชาติได้แล้ว ฉันมีน้ำพริกแกงเผ็ดเจ้าอร่อยสั่งตรงมาจากเมืองกาญจนบุรี เหลือก้นถุงพอดี ผสมกับหัวขมิ้นสดอีกสักแง่ง พริกจินดาแดงอีกหยิบมือ น่าจะพอเข้มข้นกำลังดี และทีเด็ดสุดคือ ต้นยี่หร่าในกระถางหน้าบ้าน กำลังแตกยอดอ่อนแรกรุ่นดรุณี เชิญชวนให้เด็ดมาเชยชิมเสียเหลือเกิน แค่ปลิดยอดเบา ๆกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ล้ำลึกกว่าใบกะเพรา ก็ฟุ้งกระจายออกมาเตะจมูก กระตุ้นต่อมน้ำลายให้ทำงานทันที ในที่สุดการแท็คทีมวัตถุดิบที่ลงตัวที่สุดจึงพลันบังเกิด ฉันปรารถนาจะตั้งชื่อเมนูวันนี้เพื่อเป็นการให้เกียรติสหายจากเกาหลีใต้ของฉันว่า ‘ ยี่หร่าจอมยุ่ง กับเจ้าชายกุ้งจ้าวสมุทร ‘ จะต้องเป็นการประชันบทบาทเผ็ดร้อน เชือดเฉือน สะเทือนกระพุ้งแก้ม ลืมไม่ลงกันอย่างแน่นอน วัตถุดิบหลัก กุ้งแชบ๊วย หรือ กุ้งสายพันธุ์ใดก็ได้ที่รักที่ชอบ 5 - 10 ตัว ( แล้วแต่ขนาด ) ถ้ากุ้งตัวใหญ่ ปอกเปลือกแล้ว หั่นท่อนพอคำรอไว้ น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ขีด ขมิ้นสดเล็กน้อย เพื่อความหอม และสีสันสวยงาม ใบยี่หร่า ขั้นตอนการปรุง 1. ตำพริกแกงเผ็ด กับขมิ้นสดและพริกจินดาแดงให้ละเอียดเข้ากันดี 2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย ตักพริกแกงลงใส่ ผัดให้หอม ระหว่างผัดเครื่องแกงให้เติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่าทีละน้อย แล้วคั่วพริกแกงจนแห้ง จึงเติมน้ำลงคั่วต่ออีก ทำแบบนี้ซ้ำสัก 3-4 ครั้ง เพื่อให้พริกแกงสุก หอม ขั้นตอนนี้ต้องเตรียมระบายอากาศในครัวให้ดี มิฉะนั้นแม่ครัวอาจสำลักกลิ่น ไอ จามจนหมดสวยได้ค่ะ แล้วจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะคะ 3. เครื่องแกงหอมดีแล้ว เติมน้ำซุปพอขลุกขลิก แล้วใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา ชิมให้ได้รสชาติมัดใจคุณสามีในขั้นตอนนี้เลย เพราะกุ้งสุกง่าย ถ้าเสียเวลาในการปรุงรสนานเกินไป เนื้อกุ้งจะแข็งกระด้าง เหมือนทานหนังสติ๊กผัดเผ็ด ไม่อร่อยค่ะ 4. กุ้งสุกดีแล้ว ปิดท้ายด้วยใบยี่หร่า ฉีกๆ เสียหน่อยให้น้ำมันหอมระเหยฟุ้งกระจาย ตลบอบอวลเรียกแขกไป 3 บ้าน 8 บ้าน เคาะกระทะส่งสัญญาณอีก 2-3 โป๊ก เป็นอันเสร็จสิ้นยุติยุทธภูมิตะหลิวทองคำ ณ.บัดนี้ เคล็ดลับปลายตะหลิว 1. ก่อนปอกเปลือกกุ้ง ล้างหลาย ๆ น้ำให้สะอาดที่สุด เสร็จแล้วต้มเปลือกกุ้งโดยใส่น้ำพอดีกับปริมาณเปลือกกุ้ง จะได้น้ำซุปรสกุ้งเข้มข้น เอาไว้เติมตอนผัดแทนน้ำเปล่า อร่อยนัวแบบไม่ต้องง้อผงชูรสเลยนะคะ และเปลือกกุ้งที่ต้มสุกแล้ว ขุดหลุมฝังกลบในกระถางต้นไม้ เป็นปุ๋ยชั้นดี 2. หลังจากตักผัดกุ้งใบยี่หร่าใส่จานแล้ว เหลือติดก้นกระทะ เอาข้าวเย็นที่เหลือก้นหม้อ หรือข้าวสุกใหม่ก็ได้ค่ะ ใส่ลงไปคลุกในกระทะ ผัดไฟแรงสักครู่เดียว จะได้ข้าวคลุกก้นกระทะร้อน ๆ หอม ๆ แถมกระทะสะอาดล้างง่ายขึ้นด้วย ตอนเป็นเด็กนี่ชอบหนักหนา แย่งจับจองข้าวผัดก้นกระทะกันให้จ้าละหวั่น ครื้นเครงตามประสาเด็ก อบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่คิดถึงวันวานในวัยเยาว์ เมนูง่าย ๆ ใช้เวลาน้อย แต่อร่อยเว่อร์ ยังรอเวลามาโชว์ตัวอีกเยอะ ติดตามกันต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้ทานให้อร่อย สุขภาพดีกันถ้วนหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ ภาพประกอบโดยผู้เขียนทั้งหมด