กลับมาอีกครั้งกับซีรีส์น้ำดีจากทาง NETFLIX แนวใส ๆ จริงใจ สะเทือนอารมณ์ ที่ดูตอนแรกไม่คิดอะไรที่แต่พอดูต่อ ๆ ไปทำเอาน้ำตาตกในกันเลยทีเดียว กับเรื่อง Anne with an "E" หรือ แอนน์ที่มี "น์" ซึ่งเป็นซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวของเด็กสาวกำพร้าที่มีจินตนาการ ความมุ่งมั่น และกล้าที่จะกำหนดโชคชะตาของเธอเอง เรื่องย่อ แอนน์ที่มี "น์" https://www.youtube.com/watch?v=S5qJXYNNINo&t=10s&ab_channel=Netflixเล่าเรื่องราวของ แอนน์ที่มี "น์" เด็กสาวกำพร้าที่มีผมสีแดงวัย 13 ปี ซึ่งชีวิตของเธอนั้นต้องทำงานตั้งแต่จำความได้จึงทำให้เธอมีความแตกต่างจากเด็กวัยเดียวกัน ตัวแอนน์นั้นมีนิสัยที่มีความมั่นใจตัวเอง กล้าคิด กล้าทำและเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูง อีกทั้งเธอก็เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมากเลยทำให้เป็นคนที่เพ้อฝัน พูดมากและชอบใช้คำศัพท์ยาก ๆ เวลาคุยกับคนอื่นจนเป็นที่น่ารำคาญต่อผู้อื่น อีกทั้งสิ่งนี้ยังส่งผลทำให้เธอถูกเพื่อนคนอื่น ๆ กลั่นแกล้งเป็นอยู่ประจำวันหนึ่งสองพี่น้องตระกูลคัตเบิร์ต (แม้ทธิวและมาลิลลา) ต้องการเด็กผู้ชายมาช่วยงานที่ฟาร์มเนื่องจากพวกเขาค่อนข้างอายุมากแล้ว แต่ทว่าทางบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้ากลับส่งแอนมาแทนเนื่องจากเธอทำตัวดี แต่แอนน์กลับทำให้พวกเขาผิดหวังเมื่อเธอไม่ใช่เด็กผู้ชายที่พวกเขาต้องการ จึงจำเป็นต้องส่งเธอกลับไป แต่แอนน์กลับไม่ยอมให้โอกาศนี้หลุดมือไปเลยขอพิสูจน์ตัวเองว่าเธอนั้นสามารถช่วยงานพวกเขาได้ไม่แพ้กันเรื่องราวต่อจากนี้จะเล่าถึงสิ่งที่เธอต้องต่อสู้เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในครอบครัวคัตเบิร์ตและสิ่งที่เธอต้องเผชิญต่อการว่าร้ายของชาวเมืองที่แสนจะหัวโบราณและเอาตัวเองเป็นใหญ่ ทำให้เธอจะต้องเผชิญต่อคำเหยียดต่าง ๆ มากมายของเพื่อนใหม่และชาวเมืองในอาวอนลี รีวิว แอนน์ที่มี "น์"Anne with an "E" เป็นซีรีส์แนวใส ๆ จริงใจ แต่ทว่ากลับสะเทือนอารมณ์อย่างที่สุด ที่เด็กสาวคนหนึ่งต้องเผชิญกับความโหดร้ายของโลกใบนี้เพียงลำพังมาตั้งแต่เด็ก ขาดการอบรมณ์สั่งสอนจากพ่อแม่จนบางครั้งไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเธอพูดและสิ่งเธอที่ได้กระทำนั้นมันผิดและไม่สมควรโดย แอนน์ที่มี "น์" นั้นมีทั้งหมด 3 ซีซั่นซึ่งใน Anne with an "E" ซี่ซั่นที่ 1 จะเป็นการปูเรื่องราวของแอนน์เด็กสาวผู้กล้าหาญและมีความมุ่งมั่นที่จะให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับของพี่น้องตระกูลคัตเบิร์ต ส่วน Anne with an "E" ซีซั่นที่2 หลังจากที่แอนน์ได้เป็นคนของตระกูลคัตเบิร์ตโดยชอบธรรมแล้วแต่ทว่าหลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องประสบปัญหาด้านการเงินจนต้องหารายได้เพิ่มจากการเปิดเช่าจนต้องพบปัญหาใหม่เมื่อแขกที่เข้ามาพักได้สร้างความแตกตื่นให้กับชาวเมืองว่ามีทองอยู่ในอาวอนลีส่วนกิลเบิร์ต ไบลธ์ เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของแอนน์หลังจากพ่อเสียชีวิตเขาก็ได้ออกจากโรงเรียนเพื่อออกผจญภัยในโลกกว้างเป็นเวลานานหลายเดือนจนได้พบกับเพื่อนใหม่ที่เป็นชาวตรินิแดด(คนผิวสี) หลังจากนั้นเขาก็เลือกที่จะกลับมาเมืองกรีน เกเบิลส์ อีกครั้งเมื่อแอนน์ดันส่งจดหมายบอกเขาว่าฟาร์มของเขาอาจมีทองและ Anne with an "E" ซีซั่นที่3 ซีซั่นสุดท้าย เมื่อแอนน์อายุครบ 16 ปี เธอก็เกิดอยากจะรู้เรื่องราวตระกูลตัวเองจนต้องออกเดินทางเพื่อหาคำตอบ ไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาความสัมพันธ์ของเธอและกิลเบิร์ตที่เริ่มต้นกันไม่ค่อยดี แต่ทว่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายทำให้พวกเขาต้องเลือกที่จะปกปิดความรู้สึกที่ดีต่อกันเอาไว้โดย Anne with an "E" ทั้ง 3 ซีซั่นที่กล่าวมานั้นถ้ายกให้เป็นเดอะเบสของเรื่องสำหรับฮาคุแล้วขอยกให้กับซีซั่น 1 ซึ่งเป็นการปูเรื่อง 6 ตอนจบที่เรียกได้ว่าเข้มข้นมาก *ระวังสปอยล์ด้านการดำเนินเรื่อง ทุกคนจะได้เห็นสภาพสังคมที่ย้อนกลับไปในสมัยปลายศตวรรษที่ 19 ยุคที่มีการใช้ม้าในการเดินทางและเป็นยุคที่ผู้ชายเป็นใหญ่ มีการเหยียดผิว เหยียดเพศ กันอย่างรุนแรง ภายใต้ภาพบรรยากาศที่มีทั้งความสวยงามของการทำฟาร์มในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมและฤดูใบไม้ผลิที่มีสีทองอร่าม ท่ามกลางความตึงเครียดและสะทือนอารมณ์ผ่านคำพูดและการกระทำของทุก ๆ ตัวละคร ภายในเรื่องที่มีทั้งความน่ารำคาญและน่าหมั่นใส้ ซึ่งเรื่องนี้หลากหลายอารมณ์มากแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวฮาคุก็รู้สึกชอบทุก ๆ ตัวละครที่ต่างมีความเชื่อมโยงกันทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เติบโตไปพร้อม ๆ กับพวกเขาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นความรักของสองพี่น้องตระกูลคัตเบิร์ตที่มีต่อแอนน์จากตอนแรกทำทุกวิถีทางที่จะส่งตัวเธอกลับไปแต่สุดท้ายแพ้ทางในความแข็งแกร่ง และสดใสของเธอจนรู้สึกไม่อยากที่จะเสียเธอไปตลอดกาล ส่วนตัวละครที่ชอบมีหลายคนมาก คนแรกคือ แมทธิว คัตเบิร์ต(Richard Farnsworth) ชายโสดหรือพ่อบุญธรรมของแอนน์ ซึ่งลุงแกนั้นเป็นตัวละครที่อบอุ่นมาก เป็นตัวละครที่ไม่ค่อยพูด แต่เก็บทุกรายละเอียด และฮาคุชอบประโยคที่แกพูดประมาณว่าเขาไม่อยากจะมีความรักเพราะไม่อยากให้ใครมาแทนที่แอนน์ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่มีความอบอุ่นหัวใจแบบสุด ๆ คนที่สอง คือ โจเซฟีน แบร์รี่ (Charmion King) คุณป้าของ ไดอาน่า แบร์รี่ เพื่อนสาวคนสนิทของแอนน์ที่ตอนแรกเป็นเหมือนกับมนุษย์ป้าแต่กลับกลายเป็นว่าเป็นตัวเป็นตัวละครฮีโร่ของเด็ก ๆ ที่พร้อมสนับสนุน ช่วยเหลือและปลุกพลังใจให้พวกเขาได้กล้าที่จะทำตามความฝันของตัวเอง ซึ่งชอบมากเวลาป้าแกใช้ความรวยแก้ปัญหาให้กับเด็ก ๆ ได้อย่างง่ายดาย และจุดพีคที่ชอบที่สุดคือแกเป็นเลสเบี้ยนนั่นเองคนต่อไปที่ขาดไม่คือ แอนน์ เชอร์ลี่ย์ ( Megan Follows) ชอบในความเอเนอร์จี้ โอเวอร์แอคติ้ง ความใช้คำศัพท์ยาก ๆ เวลาพูดที่คนอื่นไม่ค่อยเข้าใจของเธอ ชอบในความเพ้อฝันเหมือนกับมีพล็อตนิยายในหัวตลอดเวลา ชอบในความพูดคนเดียว ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรเธอก็สามารถจินตนาการเป็นเรื่องเป็นราวได้ และสุดท้ายคือชอบในความมีมิติของตัวละครนี้ กับการที่ต้องทำงานมาตั้งแต่เด็ก โดนทำร้าย โดนกลั่นแกล้งสารพัดจนทำให้เป็นคนที่แข็งแกร่งมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน ไปที่ไหนก็มีแต่คนรังเกียจ และเหยียดหยาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอพูดมากจนโดนสั่งให้หยุดพูด หรือการพูดโดยไม่รู้ถูกรู้ผิดเพราะไม่มีใครอบรมสั่งสอน การที่เธอกระตือรือล้นมากเกินไปจนทำให้ไม่ว่าจะทำอะไรก็กลายเป็นคนที่ผิดเสมอ และในเรื่องที่เธอผมสีแดงมีกระบนใบหน้าโดนเหยียดว่าเป็นคนไม่สวย เมื่อโดนต่อว่าเป็นประจำก็ทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองจนพลอยเกลียดในรูปลักษณ์ของตัวเองไปด้วยเห็นอย่างนี้แล้วเราอาจจะคิดว่าเธอช่างหน้าสงสารเสียจริงแต่ทว่าหลังจากที่เธอได้รับการยอมรับแล้ว ฮาคุกลับไม่ชอบในบางมุมของเธอที่บางทีมันก็ช่างน่ารำคาญและเกินจะรับได้ ซึ่งตัวแอนน์ถึงแม้จะดูเป็นเด็กที่น่ารัก จิตใจดี แต่บางมุมเธอก็เอาแต่ใจจนเกินไปซึ่งเป็นการเอาแต่ใจที่ไม่ยอมรับฟังคนอื่นและดูเป็นคนไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ซึ่งส่วนนี้มันสะท้อนให้เราได้เห็นถึงการที่เธอได้เผชิญโลกนี้เพียงลำพังตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ไม่มีใครที่คอยอบรมณ์สั่งสอนจนทำให้เธอกลายเป็นคนที่แยกถูกผิดไม่ได้ จนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้นั่นเองคนต่อไปคือ Jerry Baynard (Aymeric Jett Montaz (AJ) ) หรือ เด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศสที่พ่อแม่มีลูกหลายคนจนต้องออกมาทำงานในฟาร์มของตระกูลคัธเบิร์ต ซึ่งตัวละครนี้แทบจะไม่ได้มีบทสำคัญหรือเป็นตัวเด่นในเรื่องนี้เลยแต่กลับกลายเป็นว่าเราให้ความสนใจ หลงรักในความซื่อ ๆ ความจริงใจ น่าเอ็นดู และความโบ๊ะบ๊ะที่กลายมาเป็นคู่หูคู่ซี้ของตาลุงแมทธิว ที่ทั้งเรื่องแทบไม่ต้องทำอะไรแต่สามารถแย่งซีนคนอื่นได้เกือบทุกตอนและคนสุดท้าย ท้ายสุด นั่นก็คือ กิลเบิร์ต ไบลธ์ (โจนาธาน ครอมบี้) นั่นเอง สิ่งที่ชอบในตัวละครนี้คือเป็นเด็กหนุ่มที่มีความเป็นสุภาพบุรุษและเหมาะแก่การเป็นพ่อของลูกมาก เป็นตัวละครที่มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่สูง มีเสน่ห์ ที่ต้องคอยลุ้นคอยเชียร์ในความสัมพันธ์ของเขากับแอนน์ตลอดซีซั่นเลยก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายที่โมเมนต์ของคู่นี้ช่างหายากเหลือเกินจากที่กล่าวมาทั้งหมด แอนน์ที่มี "น์" เห็นครั้งแรกคุณอาจจะคิดว่าเรื่องนี้จะมาในแนวใส ๆ จริงใจแต่กลับหากติดตามตั้งแต่ต้นจนจบคุณจะพบว่าการเล่าเรื่องบีบหัวใจตั้งแต่ตอนแรกจนตอนสุดท้ายจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเนื่องจากเรื่องนี้หากคุณดูตอนแรกอาจรู้สึกรำคาญในบุคลิกของแอนส์ที่พูดแบบน้ำไหลไฟดับ รวมถึงการดำเนินเรื่องที่มีความช้า ๆ เนิบ ๆ แต่ทว่ามันกลับมาพร้อมกับความตื่นเต้น อบอุ่น สะเทือนอารมณ์ จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริง ๆ ซึ่งอยากจะบอกว่าหากคุณลองเปิดใจดูคุณจะพบว่ามันได้สอนอะไรหลาย ๆ อย่างที่บอกได้เลยว่าควรค่าแก่การดูจริง ๆ คะแนน 9/10บทความอื่นที่น่าสนใจรีวิว The Empress ซีซี่ จักรพรรดินีแห่งรัก ชวนดูมังงะสู่อนิเมะพันล้าน ดาบพิฆาตอสูรซีซั่น 2 ย่านเริงรมย์ กับความหล่อโดนใจของ อุซุย เท็นเง็นรีวิว+สปอยล์ ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน Douluo Dalu (Soul Land) อนิเมะจีนมาแรงอันดับหนึ่งใน WeTv ตอนนี้5 อนิเมะขึ้นหิ้ง ที่ต้องกลับมาดูอีกครั้งแนะนำหนังรัก Netfilx แนวไฮสคูล พระเอกหล่อ แบดบอย ดูกันยาวๆ แบบไม่ต้องพัก!รีวิว+สปอยล์ อินทรีหิมะเจ้าดินแดน Legendary Overlordรีวิวซีรีส์จีน อินทรีหิมะเจ้าดินแดน Snow Eagle Lordเขียนและเรียบเรียงโดย HakuHakuขอขอบคุณรูปภาพจากภาพปก: ภาพที่1 จาก Anne with an Eภาพประกอบเนื้อหา : ภาพที่2-ภาพที่3 จาก Anne with an E /ภาพที่5/ภาพที่4/ภาพที่6/ภาพที่8/ภาพที่7/ภาพที่10 จาก Twitter : Anne with an "E"/ภาพที่9 จาก Anne with an Eวิดิโอประกอบตัวอย่าง : YouTube : วิดิโอที่1 จาก Netflix จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !