จากหนังภาคแรก “The Shining” ที่เข้าฉายในปี ค.ศ. 1980 ทิ้งช่วงยาวนานกว่า 39 ปี ก็ถึงเวลาสานต่อความหลอนกับหนังภาคต่ออย่าง “Doctor Sleep” หรือชื่อไทย “ลางนรก” ในช่วงแรกๆที่เข้าฉายนั้น ปกติหากเป็นหนังสยองขวัญผมมักจะไปดูในวันแรกที่หนังเข้าฉายเสมอ แต่สำหรับเรื่องนี้ผมเพิ่งได้ไปดูมาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมไม่ไปดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายนั้น เพราะช่วงก่อนหน้านี้ที่ทางค่ายหนังได้ปล่อยตัวอย่างและโปสเตอร์ออกมานั้น ส่วนตัวผมดูแล้วรู้สึกว่าหนังไม่น่าสนใจ ไม่น่าจะสนุก และคงเป็นหนังประเภทที่เข้าถึงยากและชวนง่วง อีกอย่างคือหนังสยองขวัญในตำนานอย่าง “The Shining” ที่ใครๆต่างก็ชื่นชอบกัน แต่สำหรับผมเองผมกลับไม่ได้ชื่นชอบอะไรขนาดนั้น แต่พอผมได้ไปดู ในระหว่างที่ดูจนกระทั่งดูจบผมรู้สึกผิดคาดมาก หนังทำออกมาได้สนุกและเข้าถึงได้ง่าย (อาจมีแทรกปรัชญาบ้างเล็กน้อย แต่มันเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย ไม่ต้องอาศัยการตีความที่ซับซ้อนหลายชั้น) หลายๆฉากทำออกมาได้ล้ำจินตนาการ และน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะพวกฉากที่ต่อสู้กันผมชอบมากเป็นพิเศษ มันให้อารมณ์เหมือนเอามนุษย์กลายพันธุ์สายพลังจิตมาต่อสู้กัน ซึ่งตัวหนังทำฉากพวกนี้ออกมาได้ชาญฉลาดมาก ไม่ต้องปล่อยพลังมากมายหรือมีฉากโชว์พลังชนิดที่ว่าบ้านเมืองพังเป็นแถบๆเหมือนหนังหลายๆเรื่อง แต่เอาคนดูได้อยู่หมัด ถ้าจะให้นิยามสั้นๆคงไม่มีคำไหนที่เหมาะไปกว่าคำว่า “น้อยแต่มาก” มันลงตัวมันพอดีในแบบที่มันควรจะเป็นและสิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือ Sound ประกอบที่ทำออกมาได้ดีมาก นอกจากจะเคารพต้นฉบับในหนังภาคแรกแล้ว ยังเป็นตัวชูโรงทำให้หนังดูโดดเด่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ในหนังแม้ว่าจะมีบางช่วงบางตอนหรือบางฉากที่ดูเอื่อยๆไปบ้าง แต่พอมันมาประกอบกับ Sound ประกอบที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว มันทำให้ฉากนั้นๆดูน่าสนใจไม่น่าเบื่อ ให้ความรู้สึกลุ้นระทึกและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ในภาพรวมของหนังถ้าหากจะให้ผมเทียบกับภาคแรก โดยส่วนตัวแล้วผมชอบ “Doctor Sleep” มากกว่า “The Shining” ผมรู้สึกว่าในภาคนี้ตัวหนังทำออกมาได้กลมกล่อมกว่า มันสนุกครบรสและง่ายต่อการเข้าถึง ไม่ต้องตีความสัญญะอะไรมากมายหากจะให้ผมแนะนำว่าหนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร ผมก็ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับคอหนังทั่วไป ที่ต้องการเสพอะไรสนุกๆง่ายๆไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นคอหนังสยองขวัญคุณก็จะสามารถที่จะสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก สำหรับใครที่จะไปดูผมแนะนำว่าให้หา “The Shining” มาดูก่อน เพราะจะทำให้ดูหนังเรื่องนี้ได้สนุกขึ้นสมบูรณ์ขึ้น แต่ถึงแม้ว่าไม่ได้ดู “The Shining” ไปก่อนก็ไม่ได้ถึงกับจะดูหนังเรื่องนี้ไม่รู้เรื่อง เพราะหนังได้มีการเล่าที่มาที่ไปของตัวละครต่างๆคร่าวๆให้แล้ว แต่ก็อาจจะทำให้ขาดอรรถรสบางอย่างในการรับชมไปบ้าง Photo credit: ภาพยนตร์ Doctor Sleep ลางนรก