ช่วงวันหยุดนี้ได้มีโอกาสหาหนังดูและแล้วก็มาเจอเข้ากับหนังเรื่องนี้ 'GREEN BOOK' หนังเข้าฉายตั้งแต่ปี 2019เรื่องย่อหนังเล่าถึงชาย 2 คน ที่มีชีวิตที่ต่างกันลิบลับคนหนึ่งเป็นนักเปียโนผิวสีระดับโลก “ดร. ดอน เชอร์ลีย์” อีกหนึ่งคือคนขับรถ ที่เคยมีอาชีพเป็นการ์ดเฝ้าผับ “โทนี่ ลิป” ทั้ง 2 ได้มุ่งหน้าสู่ตอนใต้ของอเมริกาในยุค 60’s ซึ่งเป็นยุคที่มีประเด็นการเหยียดสีผิวค่อนข้างรุนแรง การเดินทางครั้งนี้จะสร้างหนึ่งมิตรภาพ ข้ามเส้นแบ่งพรมแดนของสีผิว-ชนชั้น และจะส่งต่อเสียงหัวเราะ คราบน้ำตา สร้างมุมมองใหม่ในการหันมามองเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปหลังจากที่ได้อ่านเรื่องย่อ ไม่รอช้ารีบหามาดูโดยเร็ว หนังถูกการันตีด้วยรางวัลระดับโลกหลายรางวัล(มีสปอยล์)ในช่วงแรกของหนังเล่าชีวิตของทางฝั่ง โทนี่ เขาเป็นการ์ดอยู่ที่ผับแห่งหนึ่ง เป็นชายธรรมดาหาเช้ากินค่ำแต่งงาน มีครอบครัวและมีลูก 2 คนโทนี่ เป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน และรักในความถูกต้อง แต่มักใช้กำลังแก้ปัญหา ซึ่งเขาแก้ปัญหาได้ดี แต่สิ่งนี้ทำให้เขาต้องเปลี่ยนงานบ่อย ๆ เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่า คนที่เขาต่อยนั้นเป็นใคร และจะส่งผลกับชีวิตเขาอย่างไร เขาคิดแค่ว่า "มันสมควรโดนแล้ว" ฮ่าฮ่า ก็จริงของโทนี่นะ(ขอบคุณรูปภาพจาก Official trailer : https://youtu.be/QkZxoko_HC0)โทนี่ ได้ฉายาว่า 'โทนี่ปากดี' เพราะเขามักใช้คำพูดที่หว่านล้อมคน และทำให้คนเจ็บใจได้ในเวลาเดียวกัน และการต่อยคนแบบไม่ยั้งคิดของโทนี่ ก็พาเขาให้มาเจอกับ เชอร์ลีย์ เชอร์ลีย์ เป็นศิลปิน เป็นนักเปียโนที่เก่งระดับโลก และถูกกล่าวขานว่า เขาเป็นอัจฉริยะ เพียงแต่อุปสรรคของเขาคือ เขาเป็นคนผิวสีแม้เขาจะเก่งแค่ไหน กลุ่มคนที่เหยียดผิวก็มองเขาเป็นแค่ไอ้มืดคนหนึ่ง คนผิวขาวไฮโซ ที่จ้างเขาไปแสดง ชื่นชมความเก่งของเขา แต่ลึก ๆ ใจคนเหล่านั้นเพียงแค่อยากให้คนอื่น ๆ เห็นว่า 'ฉันคือคนมีวัฒนธรรม' แต่สิ่งที่คนผิวขาวไฮโซเหล่านั้นปฏิบัติกับเขานั้น ไม่มีวัฒนธรรม และความเป็นมนุษย์เอาเสียเลย(ขอบคุณรูปภาพจาก Official trailer : https://youtu.be/QkZxoko_HC0)โทนี่ เป็นคนขับรถ และผู้จัดการการเดินทางในการไปทัวร์ทางภาคใต้ของอเมริกา ให้กับคณะดนตรีของ เชอร์ลีย์ในการร่วมเดินทางของเขาทั้งสอง ทำให้โทนี่ได้เปลี่ยนความคิด และมุมมองที่มีต่อคนผิวสีจนโทนี่รู้สึกว่าเขานั้นเป็นคนที่แย่มากกว่าคนดำเสียอีก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่เหยียดคนผิวสี ความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในระหว่างการเดินทาง กลายเป็นเรื่องราวมิตรภาพ ที่น่ารัก และทำให้เราได้สัมผัสความรู้สึกของคนผิวสี และคนผิวขาวอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้เราจะไม่ได้เกิดมาในยุคนั้น แต่เราสามารถเข้าใจเรื่องราวได้จากหนังเรื่องนี้ การแสดงของทั้งคู่นั้นสมบทบาทมาก จนบางครั้งลืมคิดไปว่านี่เป็นนักแสดง เราเกือบเชื่อว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ไม่มีเหตุผลไหนเลยที่คุณจะไม่หาหนังเรื่องนี้มาดู(ขอบคุณรูปภาพจาก Official trailer : https://youtu.be/QkZxoko_HC0)อยากให้ทุกคนได้ดูหนังเรื่องนี้...เสพความ Feel Good และรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หนังเรื่องนี้ จะทำให้เรายิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวแล้วคุณจะได้รู้ว่า GREEN BOOK คืออะไร