สวัสดีค่ะทุกคนต้องสารภาพเลยว่าเราเป็นคนที่ชอบดูหนัง High School มาก เพราะมันเหมือนได้ย้อนกลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง ( อุ๊ย...บ่งบอกอายุ ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังฝรั่งที่เขามักจะทำให้วัยนี้มีทั้งความรัก เรื่องเพื่อน การเรียน และเรื่องอื่นๆ ซึ่งเรื่องที่เราพึ่งดูล่าสุดไม่เมื่อไม่นานก็คือเรื่อง Sierra Burgess is a Loser จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีมานานหลายปีหรือ 2 ปีที่แล้วแล้วค่ะ แต่เรายังไม่ว่างดูสักที เลยหยิบเอาช่วงเวลาหยุดยาวปีใหม่มานั่งดูเพลินๆ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าไม่มีผิดหวังเรื่องย่อหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเซียร์รา ที่รับบทโดยแชนนอน เพอร์เซอร์ ที่สาวน้อยร่างอวบ เรียนเก่ง แต่ไม่เคยมีความรัก จนกระทั่งวันหนึ่งมีเหตุการณ์เข้าใจผิดจนทำให้เธอได้กุ๊กกิ๊กกับหนุ่มหล่ออย่างเจมี่ ( โนอาห์ เซนติเนโอ ) และกลายเป็นความรักแบบไม่คาดคิด ซึ่งด้วยความสลับฝา สลับตัวนี้เอาที่ทำให้นางเอกของเราต้องจับมือกับสาวสวยดาวโรงเรียน (คริสทีน โฟรเซ็ท) เพื่อรักษาความรักครั้งนี้อ่านดูเรื่องย่อหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องราววัยรุ่นเบาสมองใช่ไหมคะ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมันก็ใช่ แต่สำหรับเรามองว่าเนื้อเรื่องมีความลึกซึ้งมากกว่านั้น เพราะเขาพูดถึงเรื่องการมองรูปลักษณ์ภายนอกของคนเรา เหมือนกับดอกไม้ถ้าคนจะหยิบก็จะเลือกจากสิ่งแรกที่เห็นก่อน ถ้าคนจะหยิบดอกไม้เขาก็หยิบดอกที่สวยไปก่อน ซึ่งพอนางเอกไม่สวยก็ทำให้กลายเป็นผู้แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ยิ่งถ้าคุณได้ฟังเพลง Sunflower ที่แชนนอน เพอร์เซอร์ ร้องด้วยจะบอกเลยว่าจะยิ่งอิน ตัวละครคือต้องบอกว่าทั้ง 3 คนเล่นออกมาได้ดีมาก ถึงแม้ว่าเราจะเริ่มต้นดูเรื่องนี้เพราะตามโนอาห์มาก็ตาม อิ ๆ แต่เราชอบนางเอกและคริสทีน โฟรเซ็ทมาก เพราะเรื่องนี้ตัวละครทุกคนทีความเป็นสีเทาไม่มีใครดี หรือไม่ดี เหมือนกับโลกความเป็นจริง คนดูแล้วเราจะเข้าใจคนในสังคมมากขึ้นแน่นอนค่ะ แต่ต้องแอบบอกคนที่คาดหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องกุ๊กกิ๊กใส ๆ แบบโปสเตอร์แล้วล่ะ ก็แนะนำว่าให้ข้ามไปจะดีกว่า ( อย่าถูกโปสเตอร์หลอกเด็ดขาด ) เพราะแทบไม่มีฉากเหล่านั้นเลย มันให้ความรู้สึกหน่วง ๆ และสะท้อนชีวิตวัยรุ่นมากกว่าความรู้สึก ต้องสารภาพว่าพอหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบเราก็รีบไปอ่านความคิดเห็นของคนอื่นเหมือนกัน ซึ่งบางคนก็อาจจะไม่ได้ชอบมาก โดยเฉพาะตอนจบเพราะมันอาจจะห้วนและสั้นเกินไป แต่สำหรับเราไม่ได้ติดอะไรเพราะเราไม่อยากให้จบแบบเศร้าจนเกินไป แม้นางเอกของเราในเรื่องจะดูได้รับการให้อภัยง่ายไปสักหน่อยและขัดแย้งกับความเป็นจริงในสังคมไปนิดก็ตาม แต่โดยรวมแล้วเราชอบมากเลยค่ะ ให้ความรู้สึกอิ่มเอมสุด ๆ ใครที่ยังไม่ได้ดูก็ไปตามดูกันได้เลยเป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับหนังที่เราเอามาฝากกัน หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ ใครที่สนใจก็ไปตามดูกันได้เลยนะคะ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง เพราะขนาดเรายังมีเสียน้ำตาเลยค่ะ ทั้งนี้แอบกระซิบว่าทุกคนสามารถรับชม Netflix ผ่านกล่อง Trueid TV ได้แล้วนะคะ เอาล่ะ ถ้าเพื่อน ๆ มีคำแนะนำอะไรก็สามารถติชมเข้ามาได้เลยนะคะ วันนี้เราขอตัวไปก่อนนะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่าขอบคุณภาพ imdb / Black Label Media / Netflix