Thor: Love and Thunder เป็นภาพยนตร์ที่เชื่อหลายคนรอคอยกันนานมากครับ (รวมถึงผู้เขียนด้วย) แต่เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมาก็สิ้นสุดการรอคอยเสียทีเพราะว่าหนังได้เข้าโรงภาพยนตร์ในไทยอย่างเป็นทางการ กับเรื่องราวของการผจญภัยของเทพสายฟ้า Thor ในภาคที่ 4 ซึ่งเป็นหนังเดี่ยวซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกของจักรวาล MCU มีภาค 4 แล้ว (ขนาด Iron Man กับ Captain America ยังมีแค่ 3 ภาคเท่านั้น)ในภาคที่ 4 ก็มาในชื่อเก๋ ๆ ว่า Love and Thunder หรือชื่อไทยที่แปลได้บาดใจว่าด้วยรักและอัสนี เป็นเรื่องราวของเทพ Thor ที่ได้เดินทางออกผจญภัยไปกับก๊วน Guardians of the Galaxy พวกเขาได้ออกไปช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนตามดวงดาวต่าง ๆ จนกระทั่งได้พบกับ Gorr The God Butcher วายร้ายจอมโหดผู้ที่สาบานตนว่าจะฆ่าล้างบางเทพเจ้าทั้งหมดงานนี้ Thor จึงขอปิดจ็อบด้วยตัวเองเพราะมันเกี่ยวพันกับเทพและเมืองนิวแอสการ์ดของเขา แต่ทว่าภารกิจใหม่ของ Thor ครั้งนี้ดันพาไปพบกับ Jane Foster แฟนเก่าที่เป็นรักแรกซะอย่างงั้นแถมยังมาในรูปโฉมใหม่พร้อมกับค้อนสายฟ้า Mjolnir เสียด้วย และดูเหมือนว่าหัวใจที่ด้านชาของเขาจะเริ่มเปิดใจอีกครั้งเพราะความจริงแล้วเขาไม่เคยลืมเธอเลยหลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบก็พบเลยว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่มีหัวจิตหัวใจมีแก่นเรื่องของมัน ซึ่งไม่เหมือนกับ Thor ภาคก่อน ๆ ที่เป็นเพียงทางผ่านเพื่อปูทางไปสู่หนังเรื่องอื่น แต่ Thor: Love and Thunder จะมุ่งเน้นที่จิตใจของ Thor โดยเฉพาะเรื่องของความรักและการปิดกั้นคนอื่นไม่ให้เข้ามาสนิทใจด้วย ซึ่งผู้กำกับสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีมากและยิ่งในองค์ที่ 3 ก็เป็นการบอกว่า Thor ก็มีชีวิตจิตใจเฉกเช่นมนุษย์และยังเผยให้เห็นว่าตัวเขามีดีมากกว่าเทพเจ้าองค์ใดอีกด้วยลายเซ็นของผู้กำกับหนังอย่าง Taika Waititi ก็ยังเหมือนเคยเฉกเช่นที่เขาเคยทำมาในภาค Ragnarok ยังคงสีสันฉูดฉาดผสมด้วยมุกตลกสุดปั่น มุกฮา 5 บาท 10 บาทก็มาเรื่อย ๆ เพียงแต่ถ้าหากเทียบกับ Ragnarok แล้ว Love and Thunder จะดรอปความตลกโปกฮาลงไปบ้างแต่ก็ทดแทนในส่วนของแก่นเรื่องให้มีอะไรให้คนอินกับหนังมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของความรักที่เน้นเป็นพิเศษทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละคร Thor กับ Jane มากขึ้น ตามชื่อภาคเลยครับว่าด้วยรักและอัสนีจริง ๆทางด้านของตัวละครนักแสดงเองก็ทำได้ยอดเยี่ยมครับเริ่มจาก Chris Hemsworth กับบทบาท Thor ที่ยังคงความตลกเช่นเคยแต่ก็สามารถถ่ายทอดเรื่องของความรักที่ลืมไม่ลงได้ดีทำให้เรารู้สึกอินกับตัวละครนี้ไม่ยาก Natalie Portman กับบท Jane Foster / The Mighty Thor การกลับมาของเธออีกครั้งก็บอกเลยว่าเท่มาก พาร์ทความรักระหว่าง Jane กับ Thor เคมีก็เข้ากันดีมาก ๆ ใครที่อวยคู่นี้ก็รับรองไม่ผิดหวังส่วนตัวร้ายที่ได้ Christian Bale มารับบทเป็น Gorr the God Butcher วายร้ายผู้ล้างบางเทพ เขาก็สื่ออารมณ์ของคนที่เคียดแค้นไม่ศรัทธาเทพเจ้าออกมาได้ชัดเจนแถมบางฉากยังทำให้รู้สึกกลัวอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ปมของตัวละครนี้ถูกเล่าออกมาสั้นไปหน่อยครับ ทำให้ตัวละครนี้อยู่ในสภาพกึ่งวายร้ายทั่วไปกับน่าจดจำ เชื่อว่าถ้าหากมีเวลาเล่าเรื่องของตัวละคร Gorr ให้นานกว่าอีกหน่อยมันจะทำให้คนดูรู้สึกอินมากขึ้น แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีพอตัวแล้วฉากแอ็คชั่นทำได้สนุกมากยิ่งในช่วงท้ายของหนังก็เรียกได้ว่าบันเทิงเริงใจบวกกับงานภาพแบบ Taika ผสมเข้าไปด้วยทำให้ Thor: Love and Thunder มันดูดีมีสไตล์เฉพาะตัวแบบที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนสรุปแล้ว Thor: Love and Thunder เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เฟสที่ 4 ที่มีครบทุกรสชาติทั้งสนุก มันส์ ฮา เศร้า ซึ้ง เป็นข้อดีของหนังที่ลดโทนตลก 3 ช่ามาเน้นเรื่องราวให้หนักแน่นขึ้น บวกกับประเด็นหลักเรื่องความรักของ Thor กับ Jane ที่ขับเคลื่อนหนังก็ทำให้เรารักสองตัวละครนี้มากขึ้น นอกจากนี้หนังก็ยังเปิดจักรวาล MCU ให้กว้างมากขึ้นอีกด้วยการพูดถึงเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ด้วยอย่างที่เผยในตัวอย่างก็มี Zeus (รับบทโดย Russell Crowe) คาดว่าศึกในเฟสที่ 4 จะต้องยิ่งใหญ่ชนิดที่ว่าจักรวาลล่มสลายก็เป็นได้อย่าลืมหนังเรื่องนี้มี End-Credits 2 ตัวที่ต้องรอดูเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของแฟนหนัง Marvel บอกใบ้ว่าไม่มีหลอกไม่มีแกงคนดูแน่นอนที่มาภาพปก Thor : รูปที่ 2ที่มารูปภาพ Marvel : รูปปก / รูปที่ 1 / รูปที่ 3 / รูปที่ 4*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565