สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกๆ ท่าน หากเราจะคุยกันด้วยเรื่องผักนั้นก็มีมากมาย แต่ละชนิดก็จะมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป หรือแม้กระทั้งส่งผลโทษที่ไม่เหมือนกัน และในครั้งนี้ ผมจะนำประสบการณ์จริงๆ ที่ผมประสบกับตัวเองมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้รับทราบถึงข้อมูลและรายละเอียดของ “เซเลอรี่ (Celery)” เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไปนะครับก่อนอื่นต้องบอกเพื่อนๆ ก่อนนะครับว่าตัวผมเองมีค่ากรดยูริกในเลือดสูงมากๆ โดยปกติแล้วคนธรรมดาทั่วไปควรจะมีค่ากรดยูริกในเลือดอยู่ที่ประมาณ 3.5-7.2 mg/dl ในกรณีเป็นผู้ชาย และ 2.6-6.0 mg/dl ในกรณีที่เป็นผู้หญิง นะครับ โดยตัวผมเองนั้นมีค่ากรดยูริกอยู่ที่ 10.02 mg/dl ซึ่งสูงมากๆ มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเกาต์ได้นั้นเองครับผมหลังจากที่ผมทำการตรวจเลือด รู้ว่าตัวเองมีค่ากรดยูริกในเลือดสูง กว่าค่ามาตรฐาน ผมก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ โดยปรับเปลี่ยนเวลาในการกินอาหาร และชนิดของอาหาร โดยที่อาหารประเภทไหนที่ส่งผลทำให้ค่ากรดยูริกสูงได้นั้น ผมก็ทำการลดปริมาณลง หรือบ้างประเภทก็งดไปเลยนะครับ เช่น อาหารจำพวกที่มีสาร Purines สูง คือ เครื่องในสัตว์, กะปิ, ยีสต์, ปลาดุก, หอย, ชะอม, กระถิน, สัตว์ปีก หรือ ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วดำ เป็นต้นผมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่อยู่แบบนี้ประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นก็ได้ทำการไปตรวจเลือดดูอีกครั้ง ปรากฏว่า ค่ากรดยูริกในเลือดของผมนั้น ลดจาก 10.02 mg/dl ลงมาเหลือเป็น 8.86 mg/dl ถือว่าลงมาได้เยอะพอสมควร แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะค่ายังสูงกว่ามาตรฐานของคนปกติอยู่นะครับหลังจากนั้น ภรรยาของผมก็ทำการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม จนได้มารู้จักกับ “เซเลอรี่ (Celery)” นี่ละครับ ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ได้มารู้จักกับผักชนิดนี้นะครับ“เซเลอรี่ (Celery)” หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ขึ้นฉ่ายฝรั่ง มีลำต้น และใบเป็นสีเขียว มีกลิ่นฉุนเหมือนกันกับ ขึ้นฉ่ายจีน แต่มีขนาดใหญ่มากกว่า ให้พลังงานต่ำ มีใยอาหารที่สูง ช่วยให้เรามีความรู้สึกอิ่มได้นานมากขึ้น และมีประโยชน์มากมาย มีสารอาหารมากมายที่ร่างกายต้องการ ไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม, วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินเค, แคลเซียม, โฟเลต และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมายนอกจากนี้ “เซเลอรี่ (Celery)” ยังช่วยบำรุงกระดูก สามารถต้านอนุมูลอิสระ และแก้ท้องผูก อีกด้วย และที่สำคัญสามารถขับสารพิษออกจากกระแสเลือดได้ดี โดยเฉพาะกรดยูริก เพราะเหตุนี้เอง ที่ทำให้กรดยูริกในเลือดของผมเองมีค่าดีขึ้นหลังจากที่ผมได้ทำการกิน “เซเลอรี่ (Celery)” ทั้งในรูปแบบของการกินสดๆ หรือการปั่นกินเป็นน้ำ เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 3 เดือน ผลปรากฏว่า ผลเลือดที่ตรวจออกมานั้น ค่าของกรดยูริกดีขึ้นมากๆ ลดจาก 8.86 mg/dl ลงมาเหลือแค่ 4.86 mg/dl ซึ่งเป็นค่าที่อยู่ในมาตรฐานของคนปกติเรียบร้อยครับผมซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ไป ผมก็ต้องคงสภาพ และปรับพฤติกรรมของตัวเองให้ร่างกายมีความคงที่ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน ต้องคงสภาพให้ค่าของกรดยูริกในเลือดนั้น มีค่าคงที่ตลอดไป จะได้ห่างหายจากโรคร้ายต่างๆ ได้ครับผมอย่างไรก็ตาม หากเพื่อนๆ ต้องการจะทำเหมือนผม เพื่อที่จะลดค่ายูริก ผมอยากจะให้เพื่อนๆ ทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนะครับ เพราะว่า “เซเลอรี่ (Celery)” มีโพแทสเซียมที่สูงมากๆ อาจจะส่งผลเสียกับคนที่มีโรคไตได้นะครับผม ภาพหน้าปกจาก: Pixabay / pasja1000ภาพจากลำดับที่ 1 จาก: Pixabay / Steve Buissinneภาพจากลำดับที่ 2 จาก: Pixabay / Eszter Millerภาพจากลำดับที่ 3 จาก: Pixabay / jsbaw7160ภาพจากลำดับที่ 4 จาก: Pixabay / inetaLiภาพจากลำดับที่ 5 จาก: Pixabay / McJapid*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565