ในสถานการณ์ปัจจุบัน มีวัคซีนป้องกันโควิดที่หลากหลายมากขึ้นในประเทศไทย ทำให้หลาย ๆ คนที่รอวัคซีนประเภท mRNA กล้าไปฉีดมากขึ้น เราเองก็เป็น 1 ในนั้นค่ะ ที่เรายอมรอวัคซีน mRNA เพราะว่าเราเป็น SLE ลงระบบไต ทำให้ต้องใช้ยากดภูมิ และด้วยตัวโรคเองที่แพ้สิ่งกระตุ้นเยอะมาก เช่น แสงแดด อาหารดิบหรือไม่ปรุงสุก เชื้อโรคต่าง ๆ หรือบางคนอาจจะแพ้น้ำยาย้อมผม ยาทาเล็บ และอื่น ๆ เราก็เลยไม่เลือกวัคซีนเชื้อตาย เพราะว่าภูมิที่ได้จากวัคซีนจะน้อยกว่าคนทั่วไป ยกตัวอย่าง เพจ อีป่วย – Happy SLE เป็นผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายไต แน่นอนว่าต้องกินยากดภูมิ ได้เข้าโครงการวิจัยวัคซีนผู้ป่วยปลูกถ่ายไตของ รพ.รามา ทำให้ได้ฉีด Sinovac 2 เข็ม ช่วงเดือนมิถุนา แล้วต้องตรวจภูมิด้วย พบว่าภูมิไม่ขึ้น ซึ่งผู้ป่วยคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการก็ได้ผลเช่นเดียวกันค่ะ ครั้นจะให้เลือกเป็นวัคซีนประเภทไวรัสเวกเตอร์ก็เสี่ยงปัญหาลิ่มเลือดอุดตัน แล้วเราก็อายุน้อยด้วย 21 เอง เนื่องจากปัญหาลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนประเภทนี้แปรผกผันกับอายุ (อายุน้อย เสี่ยงมาก อายุมาก เสี่ยงน้อย ดูได้จากแผนภูมิ) เราก็เลยไม่อยากเสี่ยงค่ะ แล้วก็กลัวแพ้ด้วย อย่างที่บอก โรคนี้มันแพ้ง่ายมาก ก็เลยเลือกที่จะรอการเข้ามาของวัคซีน mRNA เนื่องจากประสิทธิภาพสูง และผลข้างเคียงที่อยู่ในระดับที่รับได้ (จากข้อมูลของ WHO ปัญหาเรื่องหัวใจจากวัคซีนประเภทนี้พบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และสามารถรักษาได้อย่างรวดเร็ว) อันที่จริง ตั้งแต่วัคซีนยี่ห้อแรกเข้ามาในประเทศ หมอเราก็ไม่ได้แนะนำให้เราฉีดวัคซีนนะคะ ออกจะเตือนด้วยซ้ำว่าคนเป็นโรคประจำตัวมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงมากกว่าคนทั่วไป อันที่จริงเราจองวัคซีน Moderna กับโรงพยาบาลเอกชนไปค่ะ สำหรับเรา ให้จ่ายเงินก็ได้ เอาแค่เป็นของคุณภาพก็โอเค เราก็บอกหมอไปว่าจองตัวนี้ไป แกก็บอกให้ดูแลตัวเองดี ๆ แล้วกัน แล้วก็ไม่ได้เร่งรีบให้เราไปฉีดวัคซีนตัวที่มีก่อน (ถ้าวิเคราะห์ตามตรงก็คือ หมอไม่ได้แนะนำให้เราฉีดวัคซีนที่มีอยู่ ณ ตอนนั้น) เราก็รอจนถึงเดือน พ.ย. 64 จริง ๆ เราก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการรอค่ะ เพราะว่ามหาลัยเรียนออนไลน์ ถึงเขาจะให้เข้าไป เราก็ต้องบอกความจำเป็นของเราว่ายังเข้าไปไม่ได้จริง ๆ แล้วก็มั่นใจในการปฏิบัติตัวให้รอดต่อการติดเชื้อ COVID ของตัวเอง แต่ก็ติดตามข่าวด้วยว่า เรามีสิทธิ์ได้รับ Pfizer ที่ไหนมั้ย เพราะโรคเราไม่ได้อยู่ใน 7 กลุ่มโรคเสี่ยงค่ะ ไม่รู้ทำไม ทั้ง ๆ ที่ติดโควิดก็ขิตได้เลย จนเราเจอเพจสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เขาให้สิทธิ์ฉีด Pfizer สำหรับ 15 โรคเสี่ยง ซึ่งมี SLE อยู่ด้วย ก็เลยลงทะเบียนผ่านนนท์พร้อมไปค่ะ ได้วันฉีดเข็มแรกเป็นวันที่ 10 พ.ย. 64 ที่ Central WestGate แล้วก็กรอกเอกสารยินยอมฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อนวันฉีด (มีให้โหลดออนไลน์) วันจริงจะได้ร่นเวลา โดยใบนัดเข็มที่ 2 จะได้หน้างานเลย…เข้าสู่ช่วงรีวิวการฉีดวัคซีนดีกว่า… รีวิว Pfizer เข็มแรก (วันที่ 10 พ.ย. 64 11 โมง)การเตรียมตัว• ทานน้ำเยอะ ๆ ทานแต่น้ำเปล่า (หลังฉีดด้วยนะ)• นอน 10 ชม.• ลาหยุดให้เรียบร้อยอาการ• มึนหัวหลังฉีดประมาณ 2 ชม. (ไม่ได้ปวดหัวนะ แค่มึน)• ปวดแขนมากกกกกกก วันแรกขยับไม่ได้เลยยาที่กินแก้ปวด• พารา 1 เม็ด เท่านั้น (วันแรก)ยาโรค SLE• เราต้องหยุดยากดภูมิ mycophenolate mofetil 7 วัน หลังฉีดวัคซีน (ก่อนฉีดกินอะไรก็กินอย่างนั้นค่ะ ถามหมอมาแล้ว) ปกติเรากินวันละ 1 กรัม• กิน hydroxychloroquin (กินยี่ห้อ quinnel) วันละ 1 เม็ด Caltab วันละ 1 เม็ด ตามปกติ รีวิว Pfizer เข็ม 2 (วันที่ 3 ธ.ค. 64 11 โมง)การเตรียมตัว(เหมือนเข็มแรก)อาการ• เจ็บแขนแป๊ปนึงหลังฉีด เพราะพยาบาลมือหนักจ้า• ปวดแขน แต่ไม่เท่าเข็มแรก (แต่เรากินยาพาราเมื่อเริ่มปวด ตอนเข็มแรกคือรอให้ไม่ไหวก่อน)• เวียนหัววันที่ 2• ปวดขาแบบตึง คือโรคกำเริบ เพราะไปโดนแดดมา (มันกำเริบก่อนฉีดวันนึง อย่างที่บอก โรคนี้โดนแดดไม่ได้น้า พอฉีดวัคซีน อาการปวดขาเลยหายช้า หายประมาณวันที่ 3 ตอนเดินห้างเวสเกตอย่างกระเผก TT)ยาที่กินแก้ปวด• พารา 2 เม็ด (วันแรกกับวันที่ 2)• naproxen เรากินยี่ห้อ synflex 2 เม็ด (วันแรกกับวันที่ 2) มันเป็นยาที่หมอ SLE จ่ายมา แกบอกว่าปวดอะไร ปวดหัว ปวดข้อ ก็ช่วยได้หมด แต่เข้าใจว่าคนทั่วไปก็กินได้ เพราะมีตามร้านขายยา (ลืมพกเลยต้องหาซื้อตามร้านขายยา)ยาโรค SLE(เหมือนเข็มแรกเลย) จะเห็นได้ว่าเราไม่ได้มีอาการอะไรที่รุนแรงเลยค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเพศ อายุ โรคประจำตัวของแต่ละบุคคลด้วย ถ้าใครคิดว่ามีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงวัคซีน ก็ต้องศึกษาหาข้อมูลดี ๆ ส่วนตัวไม่ได้บังคับให้ใครไปฉีด หรือไม่ได้จะห้ามถ้าใครจะเลือกฉีดยี่ห้ออะไร เพราะเชื่อว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองค่ะ ดังนั้นบทความนี้เป็นการบอกเหตุผลของเราเองว่าทำไมเลือกฉีดวัคซีนตัวนี้ พอฉีดแล้วมีอาการอะไรยังไงบ้าง แล้วต้องปฏิบัติตัวยังไง ซึ่งบทความถัดไป เราจะมาแนะนำว่าผู้ป่วยโรคนี้ควรได้รับวัคซีนเพิ่มเติมอีกมั้ย แล้วถ้าเราได้ฉีดก็จะมาแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมในบทความถัด ๆ ไป (แฮร่ สปอยล์แล้ว) ยังไงก็ขอให้ทุกคนดูแลรักษาตัวเองดี ๆ นะคะวัคซีนที่ดีที่สุด คือ วัคซีนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัย เครดิตรูปภาพภาพปก โดย alexandra_koch/pixabayรูปที่ 1 โดย x3/pixabayรูปที่ 2 โดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีรูปที่ 3-5 โดย นักเขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !