การกลับมาอีกครั้งของลิมิเต็ดซีรีส์จาก Netflix เรื่องใหม่บอกเล่าเรื่องราวฆาตกรสุดโหดเหี้ยมที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 17 รายอย่างน่าสยดสยอง ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของ เจฟฟรีย์ ดาเมอร์ (Jeffrey Dahmer) คดีฆาตกรรมต่อเนื่องอันฉาวโฉ่ในอเมริกา ผ่านฝีมือการสร้างอย่าง Ryan Murphy และ Ian Brennan ซึ่งได้นักแสดงฝีมือโดดเด่นจากเรื่อง American Horror Story อย่าง Evan Peters เรื่องย่อ: กลิ่นอันน่าไม่พึงประสงค์และเสียงอันแปลกประหลาด ชวนให้เพื่อนบ้านสงสัยในพฤติกรรมแสนไม่ปกติของ เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ นำสู้การบอกเล่าเรื่องราวการฆาตกรรมสุดโหดเหี้ยม การถ่ายทอดเรื่องราวของเหยื่อที่ไม่รู้เรื่องราว สู่การถกเถียงประเด็นการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติของตำรวจตัวอย่างhttps://youtu.be/qQQK-_rPLsA*การรีวิวต่อจากนี้จะมีการสปอยล์เนื้อหาเกิดขึ้นเล่ามุมมองที่หลากหลายhttps://twitter.com/netflix/status/1572248354339573760?s=20&t=dvvt4mKU5QXjoYFRZ6X3wgเรื่องราวของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาก่อนหลายเรื่อง เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่สร้างแรงสะเทือนให้สังคมอเมริกาคนหนึ่ง ซึ่งตัวซีรีส์ได้สะท้อนเรื่องราวของคดีฆาตกรรมผ่านมุมมองของคนรอบข้างและเหยื่อ การเล่าเรื่องเหมือนเป็นการแบ่งการเล่า 3 พาร์ทโดยเริ่มจากการเล่าเรื่องราวของเจฟฟรีย์ผ่านครอบครัว ทั้งในวัยเด็ก วัยรุ่น ต่อมาพูดถึงเรื่องราวของเหยื่อ แรงจูงใจในการก่อเหตุ และในส่วนท้ายเล่าถึงกระบวนการยุติธรรมและผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากคดีนี้ การเล่าเรื่องอย่างหลากหลายในซีรีส์นั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นข้อดีที่คนดูจะได้เห็นมุมมองในหลากหลายแง่มุม เพราะท้ายที่สุดคดีอาชญากรรมนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงแค่กับเหยื่อแต่ส่งผลร้ายทั้งสังคม ทั้งนี้ทั้งนั้น การเล่าเรื่องจะเป็นการเล่าตัดสลับไปมาของแต่ละช่วงปีค.ศ. ซึ่งส่วนนี้อาจชวนงงในบางช่วง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นดูไม่เข้าใจความทุกข์ทนจากสังคมhttps://twitter.com/netflix/status/1572248678127251456?s=20&t=dvvt4mKU5QXjoYFRZ6X3wgในช่วงเวลา 13 ปีตั้งแต่ค.ศ. 1978 - 1991 นั้นเจฟได้ฆาตกรรม เป็นช่วงเวลาที่สังคมต่างหวาดกลัวและเฝ้าคอยบุคคลที่หายสาปสูญ ณ ขณะนั้น ซีรีส์ก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างเยี่ยมยอด ขยายอารมณ์คนดู ที่เล่าความน่าสะอิดสะเอียน ชวนมวนท้องที่ได้รับการส่งเสริมอย่างดีจากการเล่าเรื่อง องค์ประกอบฉาก พฤติกรรมตัวละคร เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ใช้เวลาในการดูพอสมควร เพราะอารมณ์ที่รุนแรงจากซีรีส์ ทั้งเรื่องประเด็นครอบครัว สังคมที่ได้รับผลกระทบจากคดีฆาตกรรม ส่วนตัวชอบที่ซีรีส์หยิบยกเรื่องหลังการจับฆาตกรได้มาเล่าว่าสุดท้าย ผู้คนที่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี่นั้นล้วนได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร่างกายหรือจิตใจ สุดท้ายแล้วเรื่องที่เจฟฟรีย์กระทำก็จะคอยย้ำเตือนผู้คนในสังคม และหลอกหลอนครอบครัวของเหยื่อการถูกเลือกปฎิบัติทางเชื้อชาติhttps://twitter.com/netflix/status/1572647853574737926?s=20&t=YZYkf6tgvvpfIfzoWcRCFgคนบริสุทธิ์ทั้ง 17 คนที่ถูกฆาตกรรม ล้วนมีหลากหลายทางด้านเชื้อชาติทั้ง คนดำ เอเชีย ชนพื้นเมืองชาวอเมริกัน ส่วนนี้เองเป็นภาพรวมของทั้งเรื่อง แสดงให้เราเห็นเลยว่ามีการเหยียดเชื้อชาติมากแค่ไหน การทำงานที่แสนน่าเกลียดของบุคคลที่เรียกตนเองว่าเป็นกระบวนการยุติธรรม ประเด็นการถูกเลือกปฏิบัติของครอบครัวเหยื่อจากตำรวจ ซีรีส์นำเอาประเด็นเหล่านี้มาพูดถึงเพื่อให้เห็นถึงปัญหา ทั้งในมุมของการสืบสวน การทำงานสายตรวจ หรือแม้กระทั้งกระบวนการยุติธรรมในชั้้นศาล การถูกเลือกปฏิบัติยังเป็นอีกแง่ของปัญหาของตัวซีรีส์นำเสนอออกมาให้เห็นว่า การกระทำเช่นนี้นั้นนำสู่การจับตัวฆาตกรได้ยากขึ้น เพราะคำพูดของพยานคนดำนั้น เป็นคำกล่าวเหมือนดั่งขนนก ที่บางเบา นักแสดงนำEvan Peters รับบทเป็น เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรโรคจิตที่ทำการฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ทั้ง 17 คนRichard Jenkins รับบทเป็น ไลโอเนล ดาห์เมอร์ พ่อของเจฟฟรีย์ ผู้ที่นำพาเจฟฟรีย์หลงใหลในอวัยวะและการสตัฟฟ์สิ่งมีชีวิตNiecy Nash รับบทเป็น เกล็นดา คลีฟแลนด์ เพื่อนบ้านเจฟฟรีย์ที่สงสัยในพฤติกรรมอันผิดแปลกของเขา เธอผู้คอยโทรเรียกตำรวจแต่ก็ไม่เคยเป็นผลMolly Ringwald รับบทเป็น ชาริ ดาห์เมอร์ ภรรยาใหม่ของไลอนเนล ดาห์เมอร์ คนที่จะเข้ามามีบทบาททางด้านความคิดของสามีไทม์ไลน์ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากการเล่าเรื่องของตัวซีรีส์จะเป็นการตัดสลับปีค.ศ. ไปมาซึ่งอาจจะชวนงงนิดหน่อยว่าช่วงไหนก่อนหลัง โมมินขอเสนอเขียนไทม์ไลน์สั้น ๆ เหตุเกิดทั้งหมด 13 ปี ตั้งแต่ 1978 - 19911960 ปีเกิดของเจฟฟรีย์1977 เจฟฟรีย์ อายุ 18 ปี เตรียมตัวจบการศึกษาเทียบระดับมัธยมศึกษา1978 ฆาตกรรมเหยื่อรายแรก สตีเฟน ฮิกส์1979 เข้ารับราชการทหาร นี่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เจฟรู้เรื่องยาต่าง ๆ 1981 ออกจากทหาร1987 ฆาตกรรมเหยื่อรายที่สอง สตีเวน ทูมี ห่างจากรายแรก 9 ปี1988 ฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ 2 ราย เจมส์ ดอกซ์เทเทอร์ และ ริชาร์ด เกร์เรโร1989 ฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ 1 ราย แอนโทนี เซียร์ 1990 ฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ 4 ราย เรย์มอนด์, สมิธ เอ็ดเวิร์ด. สมิธ เออร์เนสต์ มิลเลอร์ และ เดวิด โทมัส 1991 ฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ไป 8 รายภายในหนึ่งปี ก่อนถูกจับ เคอร์ติส สตอร์เทอร์, เออร์รอล ลินเซย์, โทนี ฮิลจ์, Konerak Sinthasomphone, แมทท์ เทอร์เนอร์, เจอร์ไมห์ เวย์นเบอร์เกอร์, โอลิเวอร์ โจเซฟ, โจเซฟ เบรนฮอฟท์ก่อนที่เราจะไปท่องโลกซีรีส์อาชญากรรมที่สร้างจากเรื่องจริงนั้น โมมิน อยากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนที่อ่อนไหวทางด้านอวัยวะหรือการบริโภคเนื้อมนุษย์ เนื้อหามีความรุนแรงและมีความน่าสยดสยองของภาพ ชวนคนดูมวนท้อง มีแนวคิดที่ผิดแปลกจากคนทั่วไป แม้ในตัวซีรีส์จะไม่ได้มีฉากประเภทที่กล่าวมานั้นไม่ได้มีมากนัก เพราะซีรีส์เน้นหนักไปที่กระบวนการสืบสวนที่ไม่ยุติธรรมต่อญาติของเหยื่อและผลกระทบทางสังคม ตั้งคำถามต่อการกระทำของคนบางกลุ่มอย่างไรก็ตาม ถ้าคุณรับได้กับคำเตือนข้างต้น สามารถรับทั้ง 10 ตอนได้ทั้งระบบบรรยายไทยและพากษ์ไทยผ่านทาง Netflix ซึ่งสามารถดูผ่านกล่อง TrueID TV ได้ด้วยเช่นกันเครดิต:ภาพปก จาก Twitter - Netflix Thailand (ตัดแต่งเพิ่มโดยโมมิน)ภาพที่ 1, 2, 3 จาก Twitter - Netflix ขอขอบคุณวิดีโอจาก:Youtube - Netflix Thailandบทความแนะนำ:รีวิว Narco-Saints นักบุญนาร์โค ปฏิบัติการโค่นพ่อค้ายา คนธรรมดา และบทสนทนาแห่งกลอุบายรีวิวซีรีส์ Little Women สามพี่น้อง (2022) ชวนขุดคุ้ยปมครอบครัว เงินทอง และผู้มีอำนาจรีวิว A Model Family ครอบครัวตัวอย่าง (2022) ตีแผ่ศีลธรรมมนุษย์ที่ฉาบด้วยความสัมพันธ์ "ครอบครัว" และ "เงินตรา" เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!