หนังสือ “A man called Puey : 100 ปี ชาตกาล ป๋วย อึ๊งภากรณ์ กูชายชาญชาติเชื้อ ชาตรี” ผู้เขียน โดย นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ สำนักพิมพ์อะบุ๊กและอะเดย์ฟาวน์เดชั่น เป็นหนังสือที่เล่าเกี่ยวกับชีวีตของผู้ชายคนหนึ่งที่โลกจดจำเขาอย่างไม่เคยลืม ในบทความนี้จึงขออนุญาตเรียกผู้ชายคนนี้ว่าอาจารย์ อาจารย์ป๋วยถือเป็นสัญลักษณ์ของคำว่าซื่อสัตย์ ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญมาก แม้กับคนที่มีอำนาจเหนือกว่าท่านแค่ไหน เขาก็ไม่เคยเกรงกลัวอำนาจเหล่านั้นเพียงสักนิด และก็ไม่เคยทรยศต่อหน้าที่ของตัวเอง เป็นสิ่งที่สังคมไทยของเรานั้นแทบไม่มีคนแบบท่านอีกแล้ว ซึ่งหนังสือเล่มนี้ผ่านการนำเสนอจากบุคคลที่อยู่เคียงข้างท่านมาตลอด เล่าถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยฉายภาพทั้งความเป็นพ่อ ความเป็นผู้นำ ความเป็นหัวหน้า และความเป็นอาจารย์ ซึ่งอาจารย์ป๋วยในอดีตนั้นท่านเคยเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และต่อมาท่านยังเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คนที่เป็นลูกศิษย์ หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิด เป็นคนที่รักท่านมาก ยกย่องเชิดชู และทุกคนก็เชื่อใจท่าน เพราะมีคำสอนมากมาย และการปฏิบัติแบบตรงไปตรงมา ที่ทำให้ใครต่อใครต้องเกรงใจ เกรงกลัวกันไป แม้กระทั่งนายกในสมัยนั้นก็เช่นกัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของประวัติศาสตร์ไทย (6 ตุลา) ทำให้อาจารย์ป๋วยอยู่เมืองไทยไม่ได้ เนื่องจากโดนสาดโคลนต่าง ๆ นา ๆ จึงต้องอพยพไปต่างประเทศ จนกระทั่งล่วงระยะเวลากว่า 10 ปี ถึงจะได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง และได้การต้อนรับอย่างดีจากผู้ที่รักท่านอย่างสุดหัวใจ และสุดท้ายท่านก็ได้เสียชีวีตลงในวัย 83 ปี ด้วยโรคเก่าที่เคยเป็นเมื่อตอนอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเรื่องราวในเนื้อหาโดยละเอียดนั้นมีอะไรมากกว่าที่มาเขียนบทความรีวิวหนังสือแน่นอน คนที่อยากรู้จักแกอย่างจริงจัง สามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ เนื่องจากว่าเป็นหนังสือที่เข้าถึงเนื้อหา และรูปแบบการนำเสนอชีวิตใครคนหนึ่งออกมาอย่างใม่น่าเบื่อ ตัวรูปเล่มหนังสือก็พกพาง่ายมาก เล่มไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป หยิบมาอ่านตอนไหนก็สะดวก ที่สำคัญได้สัมผัส และซึมซับกับความเป็นอาจารย์ป๋วยได้อย่างตื้นตันใจ มาถึงตรงนี้แล้วก็ขออนุญาตให้คะแนนหนังสือเลยแล้วกัน 10/10 ไปเลยจ้า อยากจะฝากข้อคิดถึงเด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบัน หลายคนคงลืมเรื่องราวคนสำคัญของประเทศไป อาจจะไม่ได้สนใจ หรืออยากรู้ แต่มีวิชาหนึ่งที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ และความบังเอิญที่ทำให้ฉันได้หยิบหนังสือเล่มนี้ออกมา ซึ่งมันทำให้เห็นถึงเรื่องราวชีวีตของคน ๆ หนึ่ง โดยผ่านการเล่าเรื่องจากคนใกล้ตัว ทำให้ฉันอ่านเพลิน จนวางไม่ลงเลยทีเดียว ต้องขอขอบคุณ และยอมรับนับถือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จริง ๆ ที่สามารถให้คนอย่างฉันสนใจชีวิตผู้ชายคนหนึ่งที่ให้คุณค่ากับสังคม และโลกนี้ไว้ได้อย่างน่าจดจำ “ป๋วย อึ๊งภากรณ์”