ผลงานการเขียนของโรเบิร์ต คิโยซากิเล่มหนึ่งที่สะท้อนปัญหาสังคมสหรัฐอเมริกาและน่าจะเกิดขึ้นเหมือนกันในหลายประเทศทั่วโลก นั่นก็คือ ปัญหาเรื่องปากท้อง หนังสือเล่มนี้เน้นย้ำถึงปัญหาที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไข และโอกาสครั้งใหญ่ที่จะวนกลับมาอีกครั้ง วงจรเศรษฐกิจวนเวียนอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงไปของโลก มันเลยทำให้ปัญหาที่ว่าใหญ่ตามขึ้นไปด้วย คนที่ไม่รู้ เชื่องช้าก็จะถูกทอดทิ้งให้อยู่ข้างหลังเสมอ เราฝืนความเป็นไปของโลกไม่ได้ แต่เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างชาญฉลาดได้ ซึ่งหากเราเข้าใจทุกสิง่ที่เกิดขึ้นจริงจนถึงระดับรากเหง้า เราจะสามารถรักษาเอาตัวรอดด้วยการพาเราไปสู่ความมั่งคั่งในท้ายที่สุด ทว่าเราได้เตรียมรับมือกับโอกาสที่จะกลับมาอีกครั้งอย่างไร หนังสือ SECOND CHANGE โอกาสอีกครั้ง มั่งคั่งอีกหน เล่มนี้ เขียนโดย โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียนหนังสือขายดีอย่างพ่อรวยสอนลูก เรียบเรียงโดย ภัทรพร เปี่ยมสมบูรณ์ และอรุณวดี ลีวะนันทเวช โดยมีบรรณาธิการโดย จักรพงษ์ เมษพันธุ์ แนวคิดที่ได้ในมุมมองของผู้เขียนเด็กทุกคนเกิดมาพร้อมกับความเป็นอัจฉริยะ แต่แล้วกลับถูกคนอื่นบั่นทอนอัจฉริยภาพนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ หรืออัจฉริยภาพนั้นถูกบั่นทอนจากปัจจัยหลายๆอย่างที่ไม่เอื้ออำนวยทางกายภาพ สำหรับการว่างงาน ที่ยิ่งไปกว่าการไม่มีรายได้คือ การที่พวกเขาสูญเสียโอกาสที่จะเรียนรู้ชีวิตที่แท้จริงในโลกแห่งการทำงาน และเมื่อพวกเขาไม่มีประสบการณ์ในโลกแห่งการทำงานในช่วงอายุ 20-30 ปี ความสามารถในการหาเงินและรายได้ของพวกเขาจะต่ำ ชีวิตต่อจากนั้นของพวกเขาจะแย่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขามักถูกเรียกว่าชนรุ่นที่ต้องสูญเสีย นี่ยังไม่นับหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ในโลกของกองทุนเกษียณ จะแบ่งเป็น 2 ชนิด1.DB (Defined Benefit Plan) หรือแบบที่ระบุผลประโยชน์ เป็นแบบที่ผู้เกษียณได้รับการประกันว่าจะได้รับเงินรายเดือนไปตลอดชีวิต2.DC (Defined Contribution Plan) หรือแบบจ่ายคืนตามจำนวนที่สมทบไว้ ผู้เกษียณจะได้รับเงินในจำนวนที่ผู้เกษียณเคยส่งเงิน และบริษัทจ่ายสมทบไว้ในกองทุนในช่วงที่ผู้เกษียณได้ทำงานให้กับบริษัท กองทุนนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า 401(k) หรือ IRA, Roth IRA ความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 กองทุนนี้ คือ เงินกอง DC อาจจะหมดก่อนที่ผู้เกษียณจะเสียชีวิต หรือถ้าเศรษฐกิจล่มสลาย กองทุนนี้ก็จะล้มตามไปด้วย ตามที่มาสโลว์กล่าวไว้ว่า ความยิ่งใหญ่เกิดได้ด้วยการค้นพบตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าเราค้นพบตัวเอง เราจะกลายเป็นคนที่ไม่ท้อถอยไม่หยุดยั้ง ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีเงิน ไม่มีงานดีๆ ไม่ได้รับการศึกษาที่ดี ไม่ได้รับการรับรองความเป็นมืออาชีพจากสถาบันต่างๆ ไม่ได้มีสุขภาพที่ดี หรือไม่มีแม้แต่บ้านจะอยู่ ถ้าลองพิจารณาโอกาสที่สอง เราอาจต้องถามตัวเราเองว่าอะไรที่จะทำให้เราค้นพบตัวเอง และเมื่อเราค้นพบตัวเองแล้ว เราก็จะมีโอกาสที่จะเติบโตมากขึ้น แข็งแกร่งมากขึ้นจากสภาวะฉุกเฉินทั้งหลาย การลงทุนในสินทรัพย์กระดาษอย่างหุ้น กองทุนรวม มีความเสี่ยง เสี่ยงอย่างไร อธิบายง่ายๆ สมมติว่าบริษัทล้มละลายขึ้นมา แล้วยังมีเงินเหลืออยู่ในบริษัท คนกลุ่มแรกที่จะได้รับเงินก้อนนั้นก็คือพนักงาน กลุ่มต่อไปคือซัพพลายเออร์ กลุ่มที่สามคือเจ้าหนี้ คนที่ให้บริษัทยืมเงินหรือให้เครดิตบริษัท คนกลุ่มสุดท้ายที่จะได้เงิน ก็คือผู้ถือหุ้นบริษัทนั่นเอง จำไว้เสมอว่า การลงทุนที่ดีที่สุดไม่เคยถูกโฆษณา ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบไหนจะถูกซื้อขายกันภายในให้กับคนที่รู้จักเสมอ เขาจะโทรหาคนรู้จักแค่ไม่กี่คน แล้วการลงทุนนั้นก็ปิดการเจรจา มีเงินเข้ามาลงทุนเรียบร้อย การซื้อขายภายในนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหทายในบริษัทมหาชนหรือตลาดหุ้น แต่การลงทุนภายในนั้นถูกกฎหมายในบริษัทเอกชน ลองนึกถึงบริษัทอาลีบาบาที่กำลังจะกลายเป็นบริษัทมหาชน กำไรที่แท้จริงได้ถูกแบ่งให้กับคนในบริษัทไปหมดแล้ว ก่อนจะออกขายหุ้นให้กับประชาชน ศาสตราจารย์โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ ระบุว่าทักษะความฉลาด มี 7 ประเภท1.ทักษะความฉลาดทางภาษา เขาจะเรียนรู้จากการอ่านและการฟัง เขาคิดเป็นคำพูด ชอบเล่นเกมใบ้คำ เขียนกลอน หรืออ่านหนังสือ2.ทักษะความฉลาดทางคณิตศาสตร์ ซึ่งมักจะเรียนรู้เป็นหลักการ นามธรรม และสามารถค้นพบความสัมพันธ์ต่างๆได้ไม่ยาก3.ทักษะความฉลาดทางร่างกายและการเคลื่อนไหว ส่วนมากจะเป็นนักกีฬา นักเต้น ศัลยแพทย์ เป็นต้น โดยเรียนรู้จากกิจกรรมทางกายภาพ4.ทักษะความฉลาดทางภาพและพื้นที่5.ทักษะความฉลาดทางดนตรี6.ทักษะความฉลาดทางการสื่อสาร นอกจากจะสามารถสื่อสารได้ดีแล้ว ยังเรียนรู้ได้จากการสื่อสารผ่านคนอื่นๆ เขามักมีเพื่อนมากมาย มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นๆ และเป็นคนเอาตัวรอดได้ดี7.ทักษะความฉลาดภายในตัวเอง รู้จักสื่อสารกับตัวเอง เข้าใจตัวเองในเรื่องเป้าหมายของตัวเองเป็นอย่างดี เขามักปลีกตัวออกมาจากคนอื่นๆ และปรับไปกับความคิดของตัวเอง เขามีปัญญา มีสัญชาตญาณ มีแรงบันดาลใจ และมีพลังใจที่ดี เป็นผู้เรียนรู้ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมโรงเรียนจึงไม่อาจสร้างการเรียนรู้ที่เหมาะสมให้กับทุกคนได้ ทักษะความฉลาดในมุมมองของโรเบิร์ต คิโยซากิ1.ความฉลาดทางร่างกาย2.ความฉลาดทางสติปัญญา3.ความฉลาดทางอารมณ์4.ความฉลาดทางจิตวิญญาณ ในธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย เราต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้การผลักดันพันธกิจ เป็นใครสักคนที่สามารถจะฝึกคนให้ประสบความสำเร็จ โดยปราศจากอำนาจของความพึงพอใจระยะสั้นอย่างเช็คเงินเดือน เราต้องฝึกให้คนทำงานได้โดยไม่ต้องมีเงินเดือนมากระตุ้น ถ้าเราทำอะไรแบบนั้นได้ เราจะทำอะไรได้หลายอย่าง เราสามารถฝึกฝนแบบนี้ได้โดยการทำงานอาสาสมัครหรืองานการกุศล เป็นผู้นำกลุ่มอาสาสมัคร ทำงานโดยไม่มีค่าจ้าง และช่วยให้งานนั้นเติบโตต่อไปได้ มีหลายวิธีที่เราจะสามารถหาประสบการณ์จริงในชีวิตจากการสร้างพันธกิจ สร้างทีม และการเป็นผู้นำ ทั้งหมดนี้ก็คือแนวคิดที่ได้ภายในเล่ม ซึ่งถือเป็นแก่นสำคัญของการมีโอกาสครั้งที่สองที่เราจะแก้ตัวใหม่ เพื่อที่เราจะได้มีฐานะมั่งคั่งมากขึ้น เข้าใจความเป็นไปของโลกการเงินมากขึ้น ถือเป็นการขยายความจากหนังสือพ่อรวยสอนลูกจากเวอร์ชันอื่นพอสมควร โดยส่วนตัวของผู้เขียนเองก็มองว่าควรค่าแก่การศึกษาครับ เครดิตภาพภาพปก โดย Paul Cuad จาก Unsplash.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย Alexander Mils จาก Unsplash.comภาพที่ 4 โดย Paul Cuad จาก Unsplash.comภาพที่ 5 โดย โดย Paul Cuad จาก Unsplash.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูกรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนวัยรุ่นรีวิวหนังสือ WHY THE RICH ARE GETTING RICHER (ทำไมคนรวยยิ่งรวยขึ้น)รีวิวหนังสือ ชวนคุณให้รวย (Why we want you to be rich)รีวิวหนังสือ Stock Market Cash Flow สร้างกระแสเงินสดจากตลาดหุ้นอัปเดตสาระดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !