สำหรับใครที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและปรารถนาถึงอิสรภาพทางการเงินอยู่ หนังสือ WINK มั่งคั่งมากกว่าที่ตาเห็น เป็นส่วนหนึ่งของความปรารถนานั้นได้ โดยผู้แต่งหนังสือเล่มนี้คือ Roger Hamilton เรียบเรียงและแปลเป็นไทยโดยจักรพงษ์ เมฆพันธุ์ สิ่งที่หนังสือเล่มนี้ได้พยายามสื่อถึงคืออยากให้พวกเรามีวิสัยทัศน์ มองเห็นว่าโลกนี้มีวิธีการสร้างความมั่งคั่งด้วยแรงบันดาลใจ สนุกจนเหมือนรู้สึกไม่ได้ทำงาน ไม่จำเป็นต้องเชื่อวลีเด็ดที่ว่า งานและธุรกิจ คืออะไรสักอย่างที่ไม่สนุกแต่ได้ตังค์ ทว่าหนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะที่จะอ่านเพียงแค่ครั้งเดียว ทำไมล่ะ....ก็เพราะหนังสือเล่มนี้มีการถ่ายทอดในลักษณะของนิยาย การอ่านเพียงครั้งเดียวอาจจะรู้สึกแค่เป็นนิยายธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง ผู้เขียนอย่างโรเจอร์ปรารภว่าควรอ่านอย่างน้อย 10-20 รอบ กำลังดี และทุกครั้งที่ได้อ่าน ด้วยประสบการณ์ของชีวิตในแต่ละช่วง แต่ละวัย จะทำให้เห็นเนื้อหาภายในเล่มในมุมมองที่ต่างออกไปจากเดิม ราวกับสิ่งที่เราอ่านแทบจะเป็นคนละเรื่องจากเดิมที่เราเคยเข้าใจเลยทีเดียว เนื้อหาภายในเล่มเรื่องราวของ ริชาร์ด เด็กชายวัย 9 ขวบ รู้สึกตกใจเมื่อพ่อของเขาซึ่งเป็นช่างไม้ เกิดล้มป่วยหนักไม่อาจออกไปทำงานได้ตามปกติ เขารู้สึกเห็นใจพ่อของเขาและอยากให้การช่วยเหลือ ซึ่งการออกไปทำงานไม่ได้ ปัญหาที่ตามมาก็คือเรื่องของน้ำ ริชาร์ดรับเงิน 1 ดอลลาร์ให้กับบ่อน้ำแห่งความมั่งคั่ง เพื่อแลกกับน้ำ 1 ถัง (เป็นการอุปมาว่าถ้าต้องการอะไรสักอย่าง ย่อมต้องการมีการแลกเปลี่ยนอย่างการทำงานเพื่อแลกกับเงิน)ริชาร์ดเกิดความคิดว่าการที่ทุกคนไปยังบ่อน้ำทุกวันไม่เคยขาด เป็นเช่นนี้อยู่ทุกวัน เขาจึงเกิดความปรารถนาถึงความมั่งคั่ง เพื่อจะได้ไม่ต้องไปแย่งน้ำจากบ่อเฉกเช่นคนอื่น ต้องลำบากในทุกๆเช้าเพียงเพื่อให้ได้น้ำ 1 ถัง ความปรารถนาในระดับมหาสมุทร มิใช่เล็กน้อยเพียงแค่น้ำในบ่อเล็กๆระหว่างทางริชาร์ดได้พบกับหญิงชรา ช่างทำแว่นตา ช่างประปา คนจัดสวน คนหาปลา คนพายเรือ นักดนตรี ผู้จัดการรีสอร์ท และช่างไม้ พวกเขาก็ได้ให้บทเรียนกับริชาร์ดในบริบทที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับภูมิรู้เดิมของริชาร์ดด้วย ยิ่งเขารู้มามาก เข้าใจมาก การเรียนรู้ขั้นต่อไปก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น ข้อคิดที่ได้ภายในเล่มคิดได้ จดบันทึกไว้ ลงมือทำ ทบทวนเมื่อเราได้รับความรู้ใดๆแล้ว ย่อมต้องจดไว้เพื่อไม่ให้ลืม ประยุกต์ใช้เพื่อลงมือทำ ทบทวนความรู้ที่ได้จนเกิดเป็นความชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุนหรือการทำงานใดๆก็ตามแต่ จงเลือกระดับที่คุณต้องการเล่นการลงทุนมีอยู่หลายระดับ ขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจ ซึ่งมีผลต่อความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ตามมา ถ้าเราเข้าใจระดับที่เราจะเล่น จะเป็นโอกาสเล็กหรือใหญ่ก็ลดความเสี่ยงได้ทั้งนั้น สิ่งที่คุณเห็น คือสิ่งที่คุณได้รับเสมอสิ่งนั้นคือโอกาส ถ้าเราเห็นโอกาส เราก็ย่อมคว้ารับมันไว้ แต่ถ้าเราไม่เห็นโอกาส แน่นอนว่าการไม่ได้รับโอกาสนั่นก็คือสิ่งที่เราได้รับเช่นกัน จงถามแล้วคุณจะได้รับการตั้งคำถามที่ดีย่อมได้คำตอบที่ดี ถ้ารู้จักการตั้งคำถาม เราก็จะได้รับสิ่งที่ดีที่ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ เพราะปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นเพราะมีบางสิ่งที่เรายังไม่รู้ การเรียนรู้คือเกมถ้าหากเราได้รับบทเรียน แล้วชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ เราก็จะมีความสุขกับความสำเร็จที่เกิดขึ้น เหมือนเกมที่เราเล่น เราจะรู้สึกสนุกและแทบไม่เหมือนกับการทำงานหาเงิน ลงทุนเวลาของคุณให้มากขึ้น ใช้มันให้น้อยลงเวลาเป็นสิ่งที่เสียไปแล้ว ไม่อาจย้อนกลับคืน การลงทุนเวลาด้วยการศึกษาหาความรู้จึงเป็นเรื่องสำคัญ อย่าได้เสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่มีสาระอันควร หากประหยัดเวลาเพื่อร่นนะยะเวลาได้ก็เป็นการดี ลงทุนเงินของคุณให้มากขึ้น ใช้มันให้น้อยลงการลงทุนหลายอย่างต้องมีเงินทุนของเราอยู่บ้างเป็นส่วนหนึ่ง เป็นไปได้ยากถ้าเราเป็นมือใหม่หัดลงทุนโดยไม่เริ่มใช้เงินของเราเลยแม้แต่บาทเดียว การรู้จักลงทุนด้วยเงินของเราในระดับความเสี่ยงที่เราพร้อมจะเสียไปกับเงินก้อนนั้นได้หากมีอะไรเหนือความคาดหมายก็นับว่าเป็นการลงทุนความรู้อย่างหนึ่ง ทั้งนี้ความเสี่ยงดังกล่าวต้องถูกจำกัดไว้ดีแล้ว ฉะนั้น เงินจึงไม่ควรถูกใช้ไปกับสิ่งฟุ่มเฟือยมากจนเกินไป บ่อน้ำแห่งความมั่งคั่ง อยู่ที่คำพูดของคุณการพร่ำบ่นถึงปัญหาของเราตลอดเวลาไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์อะไร มันกลับซ้ำเติมความรู้สึกเราต่อปัญหาที่มีเพิ่มขึ้นไปอีก ทว่าคำพูดของเราสร้างผลลัพธ์เพื่อความร่ำรวยได้ด้วยการพูดถึงแต่สิ่งที่เราปรารถนาจะให้มันเกิด เช่นนี้แล้วย่อมมีโอกาสสร้างการกระทำดีๆที่นำพาไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ ความมั่งคั่งคือจุดเริ่มต้น ไม่ใช่จุดจบหลายคนคิดว่าเมื่อมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว เมื่อนั้นถือว่าภารกิจเสร็จสิ้น ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เมื่อเรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว มั่งคั่งในระดับนึงแล้ว เราอยากจะทำอะไรก็ทำได้โดยไม่ต้องพะวงเรื่องเงินอีกต่อไป หากงานนั้นเป็นงานที่เราชอบ แต่ได้เงินน้อย เราก็ไม่เกี่ยง เพราะเงินไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป หว่านเมล็ด ดูแล เก็บเกี่ยวการลงทุนก็เหมือนการปลูกพืช ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ให้มันได้ออกดอก ออกผลให้เราได้เก็บเกี่ยวในภายภาคหน้า แต่หากดูแลมันผิดพลาด ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ ทั้งพืช ทั้งการลงทุนก็ถึงคราวหายนะได้เหมือนกัน ความปรารถนาอย่างแรงกล้า คือเข็มทิศนำทางคุณถ้าความปรารถนาของเราคืออิสรภาพทางการเงิน คือเป้าหมาย มันก็จะเป็นเข็มทิศนำทางเรา ขับดันเราพยายามให้ไปถึงจุดหมายนั้นๆ ไม่ว่าความปรารถนานั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม รู้แต่ไม่ทำ มีค่าเท่ากับไม่รู้การรู้อะไรสักอย่างแต่ขาดการลงมือทำก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่รู้ จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ขอให้เกิดการลงมือทำ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้ คุณค่าเปรียบดั่งแม่น้ำ ที่พัดพาความมั่งคั่งให้หลั่งไหลมาการสร้างคุณค่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อสร้างคุณค่าขึ้นมาได้แล้ว ความมั่งคั่งจะตามมา เช่น แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ การรีวิวบอกต่อของลูกค้าแบบปากต่อปาก คุณภาพของสินค้า เป็นต้น จงเป็นคนที่มีความเพียรพยายาม ด้วยแรงบันดาลใจการเพียรพยายามด้วยแรงบันดาลใจจะทำให้เรามุ่งมั่นตั้งใจลงมือทำได้ยั่งยืนกว่า หากการกระทำนั้นขับเคลื่อนด้วยความโลภ ด้วยความอยาก หากผิดพลาดล้มเหลวก็จะถอดใจทันที จงวางแผนที่จะล้มเหลวเป็นการมองกรณีที่เลวร้ายที่สุดเราจะมีทางแก้ไขปัญหาได้อย่างไรบ้าง มีแผนสำรองหรือทางเลือกอื่นเพื่อไม่ให้การเงินได้รับผลกระทบรุนแรงหรือไม่ จงมองให้เห็นเนื้อไม้ จากต้นไม้แก่นแท้ของสิ่งที่ดีต้องมองคุณค่าให้ลึกซึ้ง หากมองอย่างผิวเผินก็ย่อมมองไม่ออก การมองคุณค่าของการลงทุนหรือการมองดูคนก็เช่นกัน โอกาสมีอยู่ในทุกขณะการมองโอกาสดีๆที่เอื้อกับชีวิตของเรามีอยู่ทั่วไป มันขึ้นอยู่กับว่าเรามองมันออกหรือไม่ ถ้าเรามองออก เราก็จะมองเห็นโอกาสมันมีอยู่ในทุกขณะจริงๆ กฎของการผ่อนแรง อยู่ที่คุณใช้มันอย่างไรการผ่อนแรง (Leverage) ก็เหมือนกับการทุ่นแรง ทั้งการลงทุน ทั้งการทำงาน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียแรง เสียเวลาโดยที่ได้รับผลตอบแทนเพียงน้อยนิด การรู้จักใช้กฎการผ่อนแรงอยู่ที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไรเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียหายตามมา ความมั่งคั่งที่ยั่งยืนเป็นไปตามจังหวะความมั่งคั่งก็เหมือนความสำเร็จในเรื่องอื่นๆ คือบางครั้งต้องใช้เวลา เมื่อถึงจังหวะของมันก็จะแสดงผลออกมาให้เห็น เวลาคือทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดของคุณหลายคนยังมองไม่เห็นค่าของเวลา ทว่าสำหรับบางคน เขาสามารถใช้เวลาสร้างความมั่งคั่งได้ เวลาจึงเป็นทรัพย์สินที่มีค่า เพราะมันผ่านเลยมาแล้ว มันย้อนกลับคืนมาไม่ได้ ใช้เงินซื้อกลับคืนก็ทำไม่ได้ ความกลมกลืนเป็นรากฐานของความมั่งคั่งความกลมกลืน ในที่นี้หมายถึง ความสงบจิต สงบใจ เป็นความรู้สึกสบายใจ ใช้ชีวิตได้อยู่เป็นปกติ เรื่องของสมดุลกายใจถือเป็นรากฐานของความมั่งคั่ง หากกายป่วย ใจเคร่งเครียดย่อมทำอะไรไม่ค่อยมีคุณภาพ เวลาย่อมมีฤดูกาลทุกอย่างมีเวลาของมัน ฤดูกาลของมัน บางครั้งการรอจังหวะเวลาที่ใช่มันถึงจะลงทุนสัมฤทธิ์ผล เห็นผลลัพธ์เป็นที่ประจักษ์ มันไม่ใช่เพียงแค่คุณทำอะไร แต่มันสำคัญตรงที่คุณลงมือทำเมื่อไหร่การรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่นั้นสำคัญ แต่การรู้ว่าควรลงมือทำเมื่อไหร่ก็สำคัญไม่แพ้กัน ข้อนี้จะคล้ายๆกับหลักการรู้จังหวะ รู้เวลาเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การลงทุน หรือการทำงาน เมื่อคุณสั่นพ้อง ความมั่งคั่งจะยิ่งสะสมและเพิ่มพูนขึ้นสั่นพ้อง คือการสั่นสะเทือนเหมือนระลอกคลื่นบนผิวน้ำ เปรียบกับการสร้างแรงดึงดูดที่ทรงพลัง ดึงดูดคนที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งเอื้อต่อการสร้างความมั่งคั่ง การดึงดูดคือผลลัพธ์ที่บ่งบอกว่าเรากำลังเดินมาถูกทาง ถ้าเราไม่ได้ดึงดูดสิ่งที่ต้องการก็คงต้องทบทวนการกระทำของเราเอง มาตรฐานของคุณขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณชีวิตเราถูกกำหนดจากสิ่งที่เราพอใจในวันนี้ ถ้าเราไม่พอใจกับการมีคุณภาพชีวิตในระดับปานกลาง เราก็จะตระหนักว่ามันไม่มีทางอื่น นอกจากลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน ชีวิตระดับห้าดาวนั้น ง่ายกว่าชีวิตระดับสองดาวเปรียบกับโรงแรมห้าดาวและโรงแรมสองดาว โรงแรมห้าดาวมีคุณภาพดีกว่า บริการประทับใจกว่า บรรยากาศต้อนรับดีกว่า แม้ต้องจ่ายแพงกว่าแต่ลูกค้าก็จะยินดีจ่าย และเป็นการดึงดูดแต่ลูกค้าชั้นดีเข้ามาใช้บริการ ตรงข้ามกับโรงแรมสองดาวที่มีลูกค้าระดับรองลงมา แม้การเริ่มต้นของโรงแรมห้าดาวจะไม่ง่าย แต่ก็เสวยผลตอบแทนในระยะยาว สิ่งแวดล้อมของตัวคุณ คือ สนามเด็กเล่นของคุณทุกสิ่งที่เราเลือกและการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นมักปรากฏในสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่เปรียบกับสนามเด็กเล่น เราคุ้นเคยกับมันแล้ว ถ้าอยากเติบโตมากกว่านี้ ก็อย่าพึงพอใจกับสิ่งเป็นอยู่ คุณคือผลลัพธ์จากการเลือกของคุณวันนี้เราพอใจกับสภาพความเป็นอยู่แล้วหรือยัง ถ้าไม่ ที่ผ่านมาเราเลือกผิด การไม่เลือกก็เท่ากับเลือกที่จะไม่ทำอะไร น้ำจะหาระดับของมันเสมอในนิยายเล่มนี้ ถ้าตัวละครได้น้ำแก้วนึง พวกเขาก็ดับกระหายได้แล้ว ไม่คิดจะไปไหนต่อ ตรงข้ามกับริชาร์ดที่เฝ้าคิดถึงแก้วน้ำในระดับมหาสมุทร เป็นการอุปมาว่าความมั่งคั่งมีอยู่หลายระดับ อยู่ที่คนๆนั้นจะพยายามให้ตนคู่ควรกับความมั่งคั่งระดับมหาสมุทรหรือไม่ ภายในเล่มจะมีการใช้วลีเชิงอุปมาเปรียบเทียบแฝงในเนื้อเรื่องเป็นระยะๆ การตีความของผู้อ่านแต่ละคนจึงแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้อ่านของแต่ละคน การอ่านแต่ละครั้ง แต่ละรอบจึงให้ความรู้สึกแตกต่างกันนั่นเอง นับเป็นหนังสือการเงินที่แปลกและน่าสนใจที่เอาไว้ใช้ศึกษา เสริมแนวคิดดีๆไว้เลยละครับ เครดิตภาพภาพปก โดย Matt Hardy จาก unsplash.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย Michael Longmire จาก unsplash.comภาพที่ 4 โดย Marek Studzinski จาก unsplash.comภาพที่ 5 โดย Tierra Mallorca จาก unsplash.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !